โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงแม่จริม ต.แม่จริม อ.แม่จริม จ.น่าน มีพื้นที่ทั้งหมด 74,494.9 ไร่ มีประชากร 2,325 คน 587 ครัวเรือน เป็นชาติพันธุ์ไทยพื้นเมือง ตั้งบ้านเรือนอยู่ในหุบเขา ยึดอาชีพเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ อาทิ นาข้าว ข้าวไร่ ข้าวโพด ถั่วเหลือง และยางพาราพื้นที่เกษตรกรรม 20,186 ไร่ ปลูกข้าวโพด 9,711.33 ไร่ คิดเป็น 48% มีการใช้สารเคมีสูง และพื้นที่เสื่อมโทรม มีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า และขาดน้ำสำหรับการทำการเกษตร เกิดหนี้สินมากและขาดการรวมกลุ่มที่เข้มแข็ง “สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูงได้เข้าดำเนินงานพัฒนาเมื่อปี 2552 โดยมีรูปแบบ ขั้นตอน วิธีการดำเนินโครงการ ประกอบด้วย 1.หลักการทำงานของโครงการหลวง ด้วยการวิจัยเพื่อเอาผลไปให้ชาวเขาได้ใช้ประโยชน์และเป็นไปตามความต้องการของตลาด ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชหลายๆ ชนิด สำรวจและวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดิน 2.หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้เกิดภูมิคุ้มกันต่อความเสี่ยง ส่งเสริมให้เกิดการพึ่งพาตนเอง คุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และการเอื้ออาทรช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รวมทั้งการสร้างกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้นำเกษตรกร หน่วยงานในพื้นที่ และหน่วยงานภายนอก” นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผอ.สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (สวพส.) เผยถึงรูปแบบในการพัฒนาโครงการหลวงแม่จริม หนึ่งในโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง อันแสดงถึงผลสัมฤทธิ์ที่สร้างคุณค่าแก่ประชาชน สอดคล้องนโยบายภาครัฐและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ที่ทำให้ สวพส.คว้ารางวัลเลิศรัฐ สาขาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ PMQA 4.0 ประจำปี 2566ด้วยมีเจ้าหน้าที่ สวพส.ร่วมลงมือปฏิบัติกับผู้นำอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างความเชื่อมั่น สร้างการยอมรับและเชื่อถือกับชุมชน โดยยึดตามแนวทางแผนพัฒนาด้านงานวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง แผนแม่บทโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง แผนบูรณาการระดับจังหวัดน่าน และการถ่ายทอดองค์ความรู้ โดยมีการนัดหมายพบปะผ่านการประชุม มีการแลกเปลี่ยนผ่านเวทีผู้นำเกษตรกรในพื้นที่ 550 ราย ผ่านกิจกรรมงาน KM DAY ที่นับว่าเป็นการสรุปบทเรียนบทบาทผู้นำเกษตรกร สร้างพลังใจ พลังความคิด และทักษะให้กับผู้นำเกษตรกร กล่าวโดยสรุปคือ การพัฒนาบนฐานความรู้ที่เหมาะสม มีการใช้ผู้นำเป็นหลัก และความร่วมมือของทุกฝ่าย เป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาพื้นที่สูงจนทำให้ชุมชนเกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดี จากพื้นที่ปลูกข้าวโพด 677 แปลง เนื้อที่ 9,711.33 ไร่ เปลี่ยนเป็นเหลือพื้นที่ปลูกข้าวโพดเพียง 179 แปลง 2,645.68 ไร่ พื้นที่ลดลง 7,065.65 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 20.94ก่อเกิดผลผลิตให้ผลลัพธ์ที่ดี สามารถเพิ่มรายได้ ลดต้นทุน ได้แก่ ข้าวไร่ ข้าวนา ปลูกพืชตระกูลถั่วได้ดี ข้าวเพียงพอต่อการบริโภคตลอดทั้งปี ผลผลิตสามารถส่งจำหน่ายตลาดชุมชน ห้างแม็คโคร เกษตรกรได้รับการส่งเสริม มีหนี้สินลดลง ชุมชนมีการบริหารจัดการได้ด้วยตนเอง และที่สำคัญส่งผลให้ปัญหาไฟป่าหมอกควันลดน้อยลงปัจจัยของความสำเร็จ ชุมชนตำบลแม่จริมมีผู้นำและชาวบ้านได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี รู้สึกภาคภูมิใจที่ไม่เผา ปรับเปลี่ยนการทำเกษตรแบบเดิม และเข้าร่วมกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ มีแปลงเรียนรู้ สามารถใช้เป็นจุดถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อขยายไปสู่เกษตรกรรายอื่นๆเพิ่มขึ้น. ชาติชาย ศิริพัฒน์คลิกอ่าน "ข่าวเกษตร" เพิ่มเติม