ตามลากคอ 2 โจรในคราบตำรวจ จัดฉากดักอุ้มชิงรถกระบะพ่อค้าน้ำเต้าหู้ ใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าจี้บังคับจับมัดมือมัดเท้าซ้อมน่วมลากขึ้นรถ โชคดีเหยื่อปลดเชือกหนีออกจากรถรอดตายหวุดหวิด ที่แท้ผู้ต้องหาเป็นอดีตตำรวจยศ ด.ต.ทั้งคู่ ถูกให้ออกจากราชการมีคดีฆ่าคนตายและยาเสพติด อ้างก่อเหตุหวังประสงค์ต่อทรัพย์ หาเงินใช้หนี้ หลังเอาเงินไปสู้คดีจนหมดตัว แถมเปิดอู่ซ่อมรถยังเจ๊ง ผบช.ภ.7 สั่งขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการ สงสัยเชื่อมโยงแก๊งลักรถข้ามชาติจากเหตุการณ์อุกอาจ นายจีรวัตร ชำนาญเวช อายุ 25 ปี พ่อค้าน้ำเต้าหู้ ขับรถกระบะโตโยต้า 4 ประตู สีขาว ทะเบียน ขข2590 นครสวรรค์ มาตามถนนสายบ้านหัวโต่ง-ดอนกลาง ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ถูกคนร้ายแต่งเครื่องแบบตำรวจ 2 คน จัดฉากว่ามีอุบัติเหตุเก๋งชนรถ จยย.ล้มบนถนน เรียกให้นายจีรวัตรจอดรถ ใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าจี้บังคับทำร้ายร่างกายจับมัดมือมัดเท้าไว้เบาะหลังแล้วขึ้นมาขับรถพาออกจากจุดเกิดเหตุ ระหว่างทางเหยื่อปลดเชือกเปิดประตูหนีรอดออกมาได้ ส่วนคนร้ายชิงเอารถกระบะขับหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 ก.ค. ตำรวจรู้ตัว 1 ในคนร้ายคือนายบันเทิง แตงอ่อน อายุ 51 ปี อดีตตำรวจยศ ด.ต. ถูกออกจากราชการ เคยตกเป็นผู้ต้องหาคดียิง 2 ศพผัวเมียพ่อค้าขายมะนาว จ.ราชบุรี เมื่อปี 57ความคืบหน้าตำรวจติดตามจับกุม 2 โจรในคราบตำรวจที่ก่อเหตุได้แล้วที่แท้เป็นอดีตตำรวจทั้งคู่ โดยเมื่อเวลา 11.10 น. วันที่ 27 ก.ค. ที่ สภ.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี ร่วมแถลงผลจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ 2 คนคือนายบันเทิง แตงอ่อน อายุ 51 ปี อดีตตำรวจยศ ด.ต. สังกัด สภ.ท่าเรือ และนายปฏิวัติ บรรเทิงสมหวัง อายุ 50 ปี อดีตตำรวจยศ ด.ต. สังกัด สภ.เมืองกาญจนบุรี ตามหมายจับข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน โดยมีอาวุธ โดยแต่งเครื่องแบบตำรวจ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ร่วมกันแต่งกายคล้ายเครื่องแบบตำรวจเพื่อกระทำความผิดอาญา ร่วมกันสวมเครื่องแบบเจ้าพนักงานโดยไม่มีสิทธิเพื่อกระทำความผิดอาญา ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงาน และร่วมกันพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ของกลางประกอบด้วย เสื้อผ้าชุดตำรวจที่ใช้สวมใส่วันเกิดเหตุ เครื่องช็อตไฟฟ้า เชือกเปลที่ใช้มัดมือมัดเท้าผู้เสียหาย กุญแจมือ รถ จยย. 1 คัน และรถเก๋ง 1 คันพล.ต.ท.ธนายุตม์กล่าวว่า คดีที่เกิดขึ้นสร้างความกระทบกระเทือนกับความเป็นอยู่ของประชาชน เนื่องจากผู้ก่อเหตุแต่งกายคล้ายตำรวจและอ้างตัวเป็นตำรวจขณะก่อเหตุเพื่อชิงทรัพย์ ตำรวจทำงานอย่างรวดเร็วสามารถรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหาได้ทั้ง 2 คน ก่อนจะจับกุมนายบันเทิงได้ที่ จ.ลำปาง พบรถกระบะของผู้เสียหายจอดอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ อยู่ระหว่างไปรับกลับมา ส่วนนายปฏิวัติ ผู้ต้องหาอีกคนถูกจับกุมได้เมื่อคืนที่ผ่านมา จากการซักถามทั้งสองยอมรับว่าก่อเหตุเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ สั่งการให้เร่งสอบสวนขยายผลว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุคนอื่นอีกหรือไม่เพื่อดำเนินการจับกุมต่อไป สำหรับผู้ต้องหาทั้งสองเป็นอดีตตำรวจจริง เคยก่อเหตุร้ายแรงแล้วถูกจับกุมจนต้องออกจากราชการ แต่ยังกลับมาก่อเหตุขึ้นอีกทำให้องค์กรตำรวจเสียหายพล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตำรวจสืบสวนจนพบรถ จยย.ของคนร้ายจอดทิ้งซุกซ่อนไว้ ตรวจยึดเป็นของกลางในคดี จากนั้นพบรถกระบะของผู้เสียหายจอดทิ้งไว้ในห้างสรรพสินค้าใน จ.เชียงใหม่ ต่อมาด่านตรวจยาเสพติด สภ.สบปราบ จ.ลำปาง จับกุมนายบันเทิง ได้ขณะนั่งรถทัวร์จะมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ สืบสวนขยายผลพบว่ารถเก๋งอีกคันที่ใช้ก่อเหตุเชื่อมโยงกับนายปฏิวัติ บันเทิงสมหวัง เชื่อว่าเป็นผู้ร่วมก่อเหตุอีกคน ขออนุมัติศาลออกหมายจับและติดตามจับกุมได้ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ อ.เมืองกาญจนบุรี พฤติกรรมของทั้งคู่ถือเป็นเรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียงองค์กรตำรวจและเป็นภัยต่อสังคม ตรวจสอบประวัตินายบันเทิงออกจากราชการเมื่อปี 57 เพราะมีคดีฆ่าคนตาย ส่วนนายปฏิวัติออกจากราชการเมื่อปี 64 เพราะเรื่องยาเสพติดผบก.ภ.จ.กาญจนบุรีเผยด้วยว่า สั่งการให้ขยายผลคดีนี้ว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องร่วมขบวนการหรือเป็นแก๊งขโมยรถขายข้ามประเทศหรือไม่ เนื่องจากผู้ต้องหานำรถไปจอดทิ้งไว้ลักษณะเหมือนให้คนมารับต่อ ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุผู้ต้องหาทั้งสองอ้างว่าไม่มีเงินเลี้ยงชีพ ต้องการเงินไปใช้หนี้ส่วนตัว นายบันเทิงอ้างว่าหลังสู้คดีเก่าทำให้ไม่มีรายได้และขายทรัพย์สินต่างๆจนหมดตัว แม้แต่ปืนพก 5 กระบอกก็ขายไปเกลี้ยง ไปเปิดอู่ซ่อมและขายรถที่ อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี กิจการก็ไม่ดี ค้างค่าเช่าค้างค่าไฟและมีหนี้สินจำนวนมากหลังแถลงข่าว นายจีรวัตร ชำนาญเวช พ่อค้าน้ำเต้าหู้ ผู้เสียหาย นำช่อดอกไม้มาขอบคุณตำรวจที่สามารถจับกุมคนร้ายและติดตามรถกระบะคืนมาได้ ขณะที่ พ.ต.อ.สมบัติ โพธิ์งาม ผกก.สภ.ท่าเรือ นำกำลังตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังที่เกิดเหตุ 3 จุด จุดแรกนำรถ จยย.และรถเก๋งมาจอดขวางถนนสายบ้านหัวโต่ง-ดอนกลาง ต.พระแท่น เมื่อผู้เสียหายขับรถผ่านมาเรียกให้จอดแล้วใช้เครื่องช็อตไฟฟ้ารุมทำร้ายจับมัดมือมัดเท้าเอาตัวขึ้นรถขับไป จุดที่ 2 หน้าร้านน้ำเต้าหู้ของผู้เสียหายในตลาดนัดดอนกลาง ห่างจากจุดที่ดักชิงรถประมาณ 3.7 กม. สองผู้ต้องหามาเฝ้าดูเป้าหมายและเลือกรถเหยื่อ เฝ้าติดตามจนรู้ว่าผู้เสียหายขับรถคันดังกล่าวมาขายน้ำเต้าหู้ทุกวัน และรู้ว่าจะเดินทางกลับบ้านเส้นทางไหนเวลาใด ก่อนจะลงมือก่อเหตุและจุดที่ 3 บริเวณสี่แยกไฟแดงโรงเรียนอนุชน-ท่าเรือพระแท่น ตรงข้ามลานจอดรถบิ๊กซี สาขาท่าเรือ จุดที่ผู้ต้องหาขับรถมาเจอกันหลังจากก่อเหตุเเล้วเตรียมจะพาผู้เสียหายออกจากพื้นที่ แต่ผู้เสียหายแกะเชือกหลุดวิ่งหลบหนีออกจากรถไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวก่อน ทำให้คนร้ายทั้งสองตกใจและขับรถแยกกันหลบหนี มีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้ชัดเจน ผู้สื่อข่าวพยายามเข้าไปสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองแต่ไม่ยอมปริปากพูดอะไร ใช้เวลาทำแผนประมาณ 1 ชม.เสร็จสิ้นควบคุมตัวกลับไปดำเนินคดีที่ สภ.ท่าเรือ