เอ่ยถึงมะพร้าวน้ำหอม หลายคนต้องนึกถึง “บ้านแพ้ว” แต่ที่วันนี้ที่จะเอ่ยถึง เป็นมะพร้าวน้ำหอมซึ่งปลูกบนเชิงเทือกเขาที่พบซากฟอสซิลไดโนเสาร์ ณ ภูแลนช้าง ใน จ.กาฬสินธุ์ทางจังหวัดได้ยกระดับมะพร้าวน้ำหอมที่ปลูกบริเวณถิ่นไดโนเสาร์ GEOPARK เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์เรียกว่า “มะพร้าวน้ำหอมภูสิงห์”สนง.สภาเกษตรกร จ.กาฬสินธุ์ โดย ดร.นิรุจน์ อุทธา หัวหน้าสำนักงานฯ พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ ผาลาโห หัวหน้าฝ่ายอำนวยการ ได้จัดเวทีเสวนาสืบประวัติการปลูกมะพร้าวน้ำหอมจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อรวบรวมเป็นข้อมูลทางวิชาการ ขอขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication) หรือ GIดร.นิรุจน์ อุทธา หน.สนง.สภาเกษตรกร จ.กาฬสินธุ์ เล่าว่า ไล่เรียงประวัติแล้วพบว่า คนแรกที่นำมะพร้าวน้ำหอมมาปลูกในจังหวัดคือ นายประธาน สินธุมา เจ้าของสวนมะพร้าว 100 ไร่ ที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน บ้านถ้ำปลา ต.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ และเครือข่ายผู้ปลูกมะพร้าวน้ำหอมกาฬสินธุ์โดยนำมะพร้าวน้ำหอม “พันธุ์เตี้ยก้นจีบ” มาจากบ้านแพ้ว จ.สมุทรสงคราม ปลูกบนที่ดินบ้านถ้ำปลา เมื่อ 40 ปีที่แล้ว จำนวน 1,400 ต้น ทอดยาวบนเชิงเขาภูแลนช้างที่พบซากฟอสซิลไดโนเสาร์ซึ่งดินมีลักษณะเป็นดินเหนียวปนทราย และมีหินลูกรังอยู่ชั้นล่าง ทำให้ผลผลิตมะพร้าวน้ำหอมหลังปลูก 5 ปี มีลักษณะลูกใหญ่ ปลูกง่าย ให้น้ำเยอะ มีรสชาติหอม หวาน เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคจึงมีเกษตรกรนำพันธุ์ไปปลูกในพื้นที่ อ.คำม่วง สมเด็จ นาคู ห้วยผึ้ง เขาวง และกุฉินารายณ์ เพิ่มเติมจำนวน 278 ราย รวมพื้นที่ 311 ไร่ และให้ผลผลิตที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นแบบเดียวกันจนทำให้มะพร้าวน้ำหอมภูสิงห์มีชื่อเสียง เป็นที่ต้องการของประเทศลาว และนักธุรกิจเอกชนสนใจนำมะพร้าวน้ำหอมภูสิงห์ไปขายประเทศจีนโดยขนส่งด้วยรถไฟความเร็วสูงในอนาคตนอกจากนี้ มะพร้าวน้ำหอมภูสิงห์ ยังเป็นผลไม้ทรงโปรดของ สมเด็จพระ กนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โอกาสที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินมาทรงงานที่จังหวัดกาฬสินธุ์อีกด้วยขณะนี้ได้เตรียมนำข้อมูลประวัติมะพร้าวน้ำหอมภูสิงห์ ขอขี้นทะเบียนเป็นสินค้า GI ต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา ภายในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 นี้แล้ว.ตระกูล ภูพวงเพชร