เมื่อเอ่ยถึง “พระนครศรีอยุธยา” เป็นที่รู้กันทันทีของชาวไทยทั้งประเทศ ว่า จังหวัดแห่งนี้คือ “แผ่นดินแห่งประวัติศาสตร์ของชาติไทย”โดยการการันตีจาก UNESCO ที่ได้ประกาศขึ้นทะเบียน “อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา” เป็น “มรดกโลกทางวัฒนธรรม” เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2534จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ทุกจุดบนแผ่นดินแห่งนี้ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เพื่ออนุรักษ์รักษาไว้ให้คนรุ่นหลังได้มาเยี่ยมชมทั้งเพื่อการศึกษา เพื่อการท่องเที่ยว และเพื่อการส่งเสริมรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา30 ปีที่ผ่านมา ชาวอยุธยาพร้อมใจกันจัดงาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” ขึ้น เพื่อเป็นการย้ำความทรงจำอันดีงามของการได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกปีที่ 31 คือปีนี้ การจัดงานดังกล่าวจะเต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่ อลังการสุดๆมากกว่าเดิม โดยงานจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 20-29 มกราคม 2566 รวม 10 วัน 10 คืน ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาทั้งนี้ เพื่อเติมเต็มความมั่นใจให้กับผู้ที่ประสงค์จะไปเยือน นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้นำทีมแถลงข่าวอย่างเป็นทางการขึ้น ที่วัดมหาธาตุ อ.พระนครศรีอยุธยามีผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน อาทิ พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.พระนครศรีอยุธยา นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ นางนลินี ด่านชัยวิจิตร รองประธานสภาวัฒนธรรม นายณัฐปคัลภ์ อัครวิชญ์ ผอ.ททท.สนง.พระนครศรีอยุธยา เป็นผู้แทนผู้ว่าการ ททท. นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ นางนลินี ด่านชัยวิจิตร รองประธานสภาวัฒนธรรม นางพิศมัย เลิศอิทธิบาท ปชส.จ. ร่วมงานแถลงข่าวด้วย.นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ. ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็น ทางการ นายกฤษณ์ เถี่ยนมิตรภาพ รองนายก ทน. พระนครศรีอยุธยา น.ส.สุกัญญา เบาเนิด ผอ.สำนักศิลปากรที่ 3, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, บมจ. ไทยเบฟเวอเรจ, บ.เบียร์ทิพย์ บริวเวอรี่ (1991) จำกัด หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนต่างๆ ที่ร่วมสนับสนุนขณะเดียวกันนักแสดงจากช่อง 7 HD ซึ่งกำลังมีผลงานอยู่ในขณะนี้ คือ พิงค์พลอย–ปภาวดี ชาญสมอน/บูม–กิตตน์ก้อง ขำกฤษ และนักร้องที่มีชื่อเสียง โฬ–ต้นข้าว จากอาร์สยาม มาร่วมแสดงแสง-เสียงด้วยในชุด “อโยธยาวิจิตร วัฒนธานี วิเทศไมตรี วีรกษัตริย์ชาติ”นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา ให้รายละเอียดว่า ที่ผ่านมาประสบสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ครั้งนี้จึงได้เน้นการเฉลิมฉลอง 31 ปี ให้บังเกิดความยิ่งใหญ่ ด้วยการรวมกิจกรรมทั้งหมดที่พี่น้องรอคอยมาอยู่ในปีที่ 31 นี้จากการที่ได้เตรียมงานมากว่า 6 เดือน เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ตอกย้ำให้โลกรู้ว่า ที่นี่คืออยุธยา อยุธยาของเรามีดี และเพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) เป็นการสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมและประเพณีไทยด้วย ขบวนแห่ช้างในงาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวต่างชาติทุกปี.สำหรับพิธีเปิดจะมีขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ในวันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2566 เวลา 15.00 น.เป็นต้นไป ด้วยขบวนแห่สุดอลังการรวม 8 ขบวน 8 รัชสมัย เริ่มต้นจากหน้าเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ไปจบที่พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง ต่อด้วยพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ ณ เวทีกลางด้านหน้าบึงพระรามงานนี้ยังมีไฮไลต์อีกมากมาย อาทิ ไหว้พระกลางคืน ลุ้นโชคใหญ่กับร้านเหล่ากาชาด การจัดแสดงปืนใหญ่โบราณ การแสดงจากลิเกร้อยล้าน “ศรราม น้ำเพชร”การประกวดบนเวทีกลาง The Best To Be Number One การประกวด “Miss Ayutthaya” การประกวด “หนูน้อยกรุงเก่า” ในวันสุดท้ายจะทำการหมุนวงล้อจับรางวัลสลากงานเดียวกันนี้ยังมีร้านค้า ร้านอาหารที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ ถนนกินเส้น ถนนกินกุ้ง เรือพาย ลานวัฒนธรรม สวนดอกไม้ การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรวิถีไทย ตลาดย้อนยุค นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ ร่วมรำบวงสรวงสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ด้วย.ชมนิทรรศการนวัตกรรมจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าถนนคนเดิน OTOP กิจกรรมนวัตวิถี ของดีท้องถิ่นไทย โรงพักย้อนยุค สักการะศาลหลักเมืองภายในงานมีรถรางให้บริการนักท่องเที่ยว จุดถ่ายภาพ รวมทั้งการจัดแสดงและบริการให้เช่าชุดไทยตลอดการจัดงานด้วยนุ่งโจงห่มสไบ แต่งกายด้วยผ้าไทยไป ร่วมประกาศความเป็นเมืองมรดกโลก ร่วมเฉลิม ฉลอง 31 ปี และท่องเที่ยวอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย... อยุธยามีดีจริงๆ.ทีมข่าวภูมิภาค