รศ.ดร.รจนา จันทราสา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เผยถึงโครงการศึกษาวิจัยเรื่อง “นวัตกรรมการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เหลือใช้จากกุหลาบบูชา” ที่ได้ทำร่วมกับ ศูนย์การศึกษาจังหวัดสมุทรสงคราม วัดจุฬามณีและชุมชนท้องถิ่นในพื้นที่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ว่าด้วยวัดจุฬามณีมีประชาชนและนักท่องเที่ยวนำดอกกุหลาบมากราบไหว้บูชา “ท้าวเวสสุวรรณ” เป็นจำนวนมาก ทำให้ทางวัดเกิดปัญหาจัดการของเหลือใช้จากการบูชาที่เพิ่มขึ้น ไม่เพียงเสียค่าใช้จ่ายยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน โครงการวิจัยฯ จึงเข้ามาคิดค้นนวัตกรรมสิ่งเหลือใช้จากกุหลาบบูชามาทำเป็นผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์เพื่อมูลค่าเพิ่ม และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม “โครงการศึกษาวิจัยนวัตกรรมการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เหลือใช้จากกุหลาบบูชา วัดจุฬามณี เราจะนำทุกส่วนของกุหลาบมาแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มใน 2 ส่วนด้วยกัน คือ กลีบดอกและก้านดอก สำหรับกลีบดอกกุหลาบจะนำมาแปรรูปได้ทั้งรูปแบบกลีบดอกสดนำมาบดแล้วคั้นน้ำเพื่อนำไปย้อมกระดาษสีกุหลาบ ซึ่งจะได้สีโทนม่วงอ่อน ชมพูอ่อน เพื่อทำเป็นยันต์ท้าวเวสสุวรรณ ส่วนกากที่เหลือจากการคั้นน้ำจะนำไปอบแห้งเช่นเดียวกับกลีบกุหลาบสดและใบของดอกกุหลาบ นำไปอบแห้งในตู้อบอุณหภูมิที่เหมาะสมจนแห้งสนิท เพื่อนำมาปั่นเป็นผงกุหลาบจะได้ออกมา 3 โทนสีสวยงาม สำหรับทำเป็นผงมวลสารกุหลาบอธิษฐานใช้ในงานขึ้นบ้านใหม่หรืองานมงคล ผงจากดอกกุหลาบยังสามารถนำ มาเป็นส่วนผสมของธูปอธิษฐาน เสี่ยงทายโชคลาภ และเป็นส่วนผสมของดินปั้นดอกกุหลาบเป็นของที่ระลึกหรือดอกกุหลาบฐานรองบูชาท้าวเวสสุวรรณได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังสามารถสกัดน้ำมันจากดอกกุหลาบเป็นสารตั้งต้นทำสีผึ้งหรือลิปบาล์ม เป็นสูตรเฉพาะสาขาวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ วิทยาลัยสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัย ราชภัฏสวนสุนันทา” ส่วนของก้านดอกกุหลาบนั้น ผศ.ดร.ภญ.พิมพร ทองเมือง ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาจังหวัดสมุทรสงคราม มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา บอกว่า จะนำไปตากแห้งแล้วจึงส่งต่อไปให้วิสาหกิจชุมชนในท้องถิ่นเพื่อผลิตเป็นกระดาษสาจากกุหลาบ แล้วทางมหาวิทยาลัยจะรับซื้อเพื่อให้ทางวัดจุฬามณีนำไปทำเป็นยันต์ท้าวเวสสุวรรณจนถึงขณะนี้สามารถสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ กุหลาบอธิษฐานได้หลากหลายชนิด ได้แก่ ผงมวลสารกุหลาบอธิษฐาน น้ำมันกุหลาบ ยันต์ท้าวเวสสุวรรณสกัดสีกุหลาบ สีผึ้งสกัดน้ำมันกุหลาบ ธูปบูชาจากผงกุหลาบ โดยทางวัดจุฬามณีได้ทำการปลุกเสกผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นเพื่อให้ประชาชนได้นำไปบูชา และทางวัดได้นำรายได้จากการบูชาผลิตภัณฑ์กุหลาบอธิษฐานทั้งหมดคืนกลับไปช่วยเหลือชุมชนต่อไป พระครูไพศาลกิจจาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดจุฬามณี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้วัดมีปัญหาในเรื่องการกำจัดดอกกุหลาบที่ประชาชนนำมาไหว้บูชา วันหนึ่งไม่น้อยกว่า 50,000-60,000 ดอก ถ้าเป็นช่วงวันหยุดจะมากถึง 100,000 ดอก ต้องเสียค่ากำจัดวันละไม่ต่ำกว่า 8,000 บาท แต่หลังจากได้รับความช่วยเหลือจากโครงการวิจัยฯ ไม่เพียงช่วยลดปัญหาการกำจัดของเหลือใช้จากการบูชา ยังทำให้วัดมีรายได้จากการให้เช่าบูชาผลิตภัณฑ์กุหลาบอธิษฐานนี้นำมาช่วยเหลือคนในชุมชน ทำมาเพียงแค่ 2 เดือน ผลตอบรับดีมาก ทางวัดได้นำเงินรายได้จากส่วนนี้ไปเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนในจังหวัดไปแล้วรวมเป็นเงิน 500,000 บาท ที่สำคัญในวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 ทางวัดจะนำเงินรายได้ไปมอบทุนให้กับเด็กนักเรียนอีก 200 ทุน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว.