กรมวิทย์ สธ.ยืนยัน “โอมิครอน” ยึดไทยเรียบร้อย ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ย่อย BA.2 คาดเข้ามาแทนที่ BA.1 ในไม่ช้า เหตุแพร่เร็วกว่า 1.4 เท่า แต่ความรุนแรงน่าจะไม่แตกต่างกัน มั่นใจยาฟาวิพิราเวียร์-ฟ้าทะลายโจรยังใช้รักษาได้ ขณะที่นายกฯเรียกผู้ว่าฯ กทม.เข้าชี้แจง หลังผู้ติดเชื้อในกรุงร้องเรียนเพียบเข้าไม่ถึงการรักษาตามมาตรการ เจอ แจก จบ ด้าน “อนุทิน” ดันเข้า ครม.อีกรอบ เกณฑ์ “ยูเซ็ป โควิด-19 พลัส” ให้ผู้ติดเชื้อไปรักษาตามสิทธิของแต่ละคน ส่วนสงกรานต์ปีนี้มีเฮ หยุดยาวอย่างน้อย 5 วัน ศบค.ชุดใหญ่เตรียมถกมาตรการป้องกันเพิ่มเติม 18 มี.ค.นี้ ไม่มีการงด กัก ห้ามเดินทางข้ามจังหวัด แต่ยังคงต้องอยู่ภายใต้มาตรการ V U C A เข้มงวดแม้กระทรวงสาธารณสุขจะระบุว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในไทยส่อแววทรงตัวและแนวโน้มยอดผู้ติดเชื้อรายวันจะลดลงบ้าง แต่ที่ยังสวนทางคือยอดผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องติดเชื้อรวม ATK กว่า 4.5 หมื่นคนที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 7 มี.ค. พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 21,162 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 20,986 คน จากเรือนจำ 74 คน เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 102 คน และมีผลตรวจ ATK เป็นบวก 24,236 คน หายป่วยเพิ่มขึ้น 23,159 คน อยู่ระหว่างรักษา 230,459 คน อาการหนัก 1,148 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ 375 คน ป่วยตายทำนิวไฮ 65 ศพผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 65 คน เป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในระลอกนี้ เป็นชาย 34 คน หญิง 31 คน เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 55 คน มีโรคเรื้อรัง 8 คน ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 45,398 คน ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 3,047,857 คน ทำให้มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 รวม 2,794,098 คน ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 23,300 คนกทม.แชมป์ติดเชื้อ-ตายพญ.สุมนีกล่าวว่า 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 7 มี.ค. ประกอบด้วย กทม. 2,803 คน นคร ศรีธรรมราช 1,042 คน สมุทรปราการ 872 คน ชลบุรี 784 คน นนทบุรี 723 คน สมุทรสาคร 659 คน นครราชสีมา 614 คน ภูเก็ต 592 คน นครปฐม 589 คน พระนครศรีอยุธยา 567 คน ทั้งนี้พบคลัสเตอร์ใหม่ใน กทม. คือคลัสเตอร์ก่อสร้างที่เขตคลองสามวา ส่วน 5 เขต กทม. ที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดได้แก่ หลักสี่ บางซื่อ หนองแขม วัฒนา และดินแดง นอกจากนี้ กทม.ยังมีผู้ป่วยเสียชีวิตมากสุดคือ 7 คน ขณะที่ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อที่ปอดอักเสบสูงสุด ได้แก่ กทม. 182 คน สมุทรปราการ 75 คน นนทบุรี 52 คน ภูเก็ต 46 คน นครศรีธรรมราช 46 คน ชลบุรี 42 คน สุราษฎร์ธานี 41 คน กาญจนบุรี 41 คน นครราชสีมา 34 คน เชียงใหม่ 34 คน3 โรคเรื้อรัง-ติดเตียงทำตายเพิ่มพญ.สุมนีกล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์การครองเตียงของผู้ป่วยปอดอักเสบอยู่ที่ร้อยละ 23.33 ส่วนอัตราครองเตียงของผู้ป่วยทั่วประเทศอยู่ที่ร้อยละ 57.8 อย่างไรก็ตาม โรคที่พบร่วมกับผู้เสียชีวิตในช่วงนี้ ได้แก่ โรคมะเร็งระยะสุดท้าย โรคไตวายเรื้อรัง ภาวะติดเตียง และโรคอ้วนเจอมากกว่าโรคอื่นๆ นอกจากนี้ ยังให้มีการเฝ้าระวังจังหวัดชายแดน จ.ตาก และสระแก้ว เนื่องจากมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เพราะมีแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามา จึงให้ ศปม. และประชาชนในพื้นที่เป็นหูเป็นตา คัดกรอง ตรวจสอบ เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดศบค.จ่อถกมาตรการสงกรานต์พญ.สุมนียังกล่าวถึงช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ จะเป็นช่วงหยุดยาวหลายวันตั้งแต่วันที่ 13-15 เม.ย. และติดเสาร์-อาทิตย์อีก รวมแล้วอย่างน้อย 5 วัน กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้นำเสนอมาตรการป้องกันควบคุมโรคในช่วงเทศกาลสงกรานต์ต่อที่ประชุม ศปก.ศบค.และอีโอซี กระทรวงสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางกลับภูมิลำเนา การรวมตัวของญาติพี่น้อง รวมถึงสถานที่ที่ต้องเฝ้าระวังมีตั้งแต่ขนส่งสาธารณะ ปั๊มน้ำมัน จุดพักรถ สงกรานต์ปีนี้ไม่ได้มีการงด การกัก การห้ามเดินทางข้ามจังหวัดแต่ ยังคงต้องอยู่ภายใต้มาตรการความปลอดภัย V U C A คือ วัคซีน มาตรการส่วนบุคคลแบบครอบจักรวาล โควิดฟรีเซ็ตติ้ง สุ่มตรวจด้วย ATK ทั้งก่อนเดินทางไปและกลับจากต่างจังหวัด ทั้งนี้ หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการพูดคุยเพื่อนำข้อมูลต่างๆที่จะต้องพิจารณามาตรการ นำเข้าที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ที่จะมีขึ้นในวันที่ 18 มี.ค.นี้ กทม.เร่งแก้ “เจอ แจก จบ”ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าเมื่อช่วงสาย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.เดินทางเข้าพบ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นเวลา 14.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยว่า เรียกผู้ว่าฯ กทม.มาสอบถามสถานการณ์โควิด-19 เรื่องที่ประชาชนร้องเรียนเข้าไม่ถึงมาตรการต่างๆ ผู้ว่าฯ กทม.รับไปว่าจะดูแลในรายละเอียดให้มากยิ่งขึ้น ขณะที่ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า มารายงานมาตรการเจอ แจก จบ ได้เร่งโรงพยาบาลและศูนย์สาธารณสุขทั้ง 69 ศูนย์ของ กทม.ปรับศูนย์สาธารณสุขให้คล้ายๆกับโรงพยาบาล มาช่วยสนับสนุนการรักษา เนื่องจากโรงพยาบาลของ กทม.มีเพียง 11 แห่ง ขณะนี้ผู้ติดเชื้อที่ยังไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อยจะให้รักษาที่บ้าน โดยให้ศูนย์บริการสาธารณสุขเข้ามาช่วยจ่ายยาให้ตามบ้าน ส่วน 6 กลุ่มโรคเสี่ยงต้องรักษาในโรงพยาบาล หากไม่พอ ต้องพยายามจัดหาโรงพยาบาลให้เสนอ ครม. “ยูเซ็ป-โควิด-19 พลัส”ส่วนที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 8 มี.ค.นี้จะมีการเสนอเรื่องยูเซ็ป-โควิด-19 ให้กลับไปรักษาโรคโควิด-19 ตามสิทธิของแต่ละคน เป็นการ นำเสนอเข้าไปอีกครั้งหนึ่ง ชี้แจงให้ชัดเจนว่ากรณีมีผู้ติดเชื้อมากขึ้น เราต้องแยกการรักษาผู้ป่วยให้สอดคล้องกับอาการ เช่น กลุ่มผู้ป่วยอาการน้อย ให้รักษาตัวที่บ้าน ส่วนผู้ป่วยอาการปานกลาง และอาการหนัก หรือคนที่มีความเสี่ยง ต้องเข้าถึงเตียงในโรงพยาบาล ขอยืนยันว่าเรื่องที่นำเสนอเข้า ครม.เป็นการเสนอหมวดงบประมาณที่ใช้ในการรักษากลุ่มผู้ป่วยอาการสีเหลืองและแดง จะใช้เกณฑ์ยูเซ็ปโควิด-19 พลัส จัดเข้าข่ายเจ็บป่วยวิกฤติฉุกเฉิน เพื่อให้โรงพยาบาลที่ดูแลสามารถเบิกจ่ายได้เร็วขึ้น ไม่ได้มีอะไรที่กระทบกับผู้ติดเชื้อโอมิครอนกระจายทั่วประเทศขณะที่ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจำแนกตามสายพันธุ์ที่เฝ้าระวังและการกลายพันธุ์ของเชื้อว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา วันที่ 26 ก.พ.-วันที่ 4 มี.ค.2565 มีการเก็บตัวอย่าง 1,905 ตัวอย่างทั่วประเทศพบว่า เป็นสายพันธุ์โอมิครอน 1,898 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 99.6 และพบสายพันธุ์เดลตา 7 ตัวอย่าง และไม่พบสายพันธุ์อัลฟา เบตา ส่วนผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ที่พบผลเป็นบวกเป็นเชื้อโอมิครอนทั้งหมด ทั้งนี้เมื่อจำแนกสายพันธุ์ย่อยของสายพันธุ์โอมิครอน พบว่าเป็นสายพันธุ์ย่อย BA.2 มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 51.8 ที่เหลือเป็น BA.1 และข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอว่า BA.2 แพร่เร็วแค่ไหน แต่เรื่องความรุนแรงนั้นไม่มีความแตกต่างจาก BA.1 ส่วน BA.3 ยืนยันว่ายังไม่พบในประเทศไทย BA.2 จ่อแทนที่ BA.1นพ.ศุภกิจกล่าวต่อว่า สำหรับความสามารถในการแพร่เชื้อของโอมิครอน BA.2 นั้น เบื้องต้นพบว่า BA.2 จะแพร่เร็วกว่า BA.1 ถึง 1.4 เท่า โดยเปรียบเทียบว่าในครอบครัวหากมี 1 คนติดเชื้อ BA.2 จะสามารถแพร่ต่อให้คนในครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 39 มากกว่า BA.1 ที่แพร่ให้คนในครอบครัวร้อยละ 29 ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่ BA.2 จะมาแทนที่ BA.1 และในการตรวจคนติดเชื้อกลุ่มต่างๆ ทั้งคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ คลัสเตอร์ต่างๆ คนติดเชื้อซ้ำ และคนฉีดวัคซีนครบ เป็นต้น พบว่าในคนที่ติดเชื้อซ้ำนั้นเป็นสายพันธุ์ BA.2 ถึงร้อยละ 28.57 นอกจากนี้พบว่า BA.2 มีการดื้อวัคซีนเล็กน้อย แต่ยังไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ แต่สิ่งที่เราพบเป็นเรื่องสำคัญคือ ยาโมโนโคนอลแอนติบอดี้ เป็นยารักษาโควิดที่มีราคาแพงมากนั้น ล่าสุดสามารถรักษาโควิดสายพันธุ์อื่นได้ รวมถึงสายพันธุ์โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.1 ได้ แต่ไม่สามารถรักษาโควิดโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 ได้ และเนื่องจากผู้ติดเชื้อโอมิครอน มีอาการไม่รุนแรง การใช้ยาโมโนโคนอลแอนติบอดี้ อาจไม่จำเป็น แต่สำหรับยาอื่นๆ ได้แก่ ยาฟาวิพิราเวียร์ ยาฟ้าทะลายโจร ยังสามารถรักษาได้โควิดคร่า “ประเทือง เอมเจริญ”วันเดียวกัน วงการศิลปะต้องสูญเสียปูชนียบุคคล เมื่อนายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เปิดเผยว่า นายประเทือง เอมเจริญ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) พ.ศ.2548 ถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ 7 มี.ค. เวลาประมาณ 04.00 น. ที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ เนื่องจากติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สิริรวมอายุ 87 ปี ทายาททำพิธีฌาปนกิจ ที่วัดนิมมานรดีทันที ทั้งนี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ได้มอบเงินช่วยเหลือเมื่อเสียชีวิตเพื่อร่วมการบำเพ็ญกุศลศพ จำนวน 2 หมื่นบาท และเงินช่วยเหลือค่าจัดทำหนังสือเพื่อเผยแพร่ผลงานเมื่อเสียชีวิตเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1.5 แสนบาท ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าคนบันเทิงประกาศติดโควิด-19 รายล่าสุด ได้แก่ เซียงเซียง-พรสรวง รวยรื่น นักแสดงสาวจากช่องวัน แจ้งข่าวผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่าตนติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังจากสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 และได้กักตัว พร้อมตรวจ ATK ปรากฏว่าขึ้น 2 ขีด จากนั้นได้ตรวจ RT-PCR เพื่อยืนยันอีกครั้ง ผลปรากฏว่าตรวจพบเชื้อโรคโควิด-19 ขณะนี้กำลังรอเข้ารับการรักษาตามขั้นตอน เดินหน้าปักเข็มแรกเด็กเล็กขณะที่ศูนย์ฉีดวัคซีน สถานีกลางบางซื่อ กทม.ตลอดวันที่ 7 มี.ค. ยังเปิดให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับเด็กเล็กอายุตั้งแต่ 5-11 ปี ที่ศึกษา นอกระบบโรงเรียน และเด็กที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน เริ่มฉีดตั้งแต่วันที่ 1-31 มีนาคม 2565 เป็นวัคซีนเข็มที่ 1 ชนิดไฟเซอร์ฝาสีส้ม และฉีดตามความสมัครใจ ของเด็กและผู้ปกครอง ต้องลงทะเบียนจองคิวฉีดวัคซีน ผ่านเครือข่ายระบบมือถือทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ เอไอเอส ดีแทค ทรู และบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ และไม่รับวอล์กอิน ที่สำคัญเด็กต้องมาพร้อมผู้ปกครองในวันนัดหมายมะกันเน้นรักษาแทนนับยอดติดวันเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) ออกคำแนะนำถึงรัฐบาลสหรัฐฯว่า แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตัวกลายพันธุ์โอมิครอน จะเริ่มแผ่วลงในรัฐต่างๆ ยอดติดเชื้อลงมาอยู่ที่วันละ 54,000 คน เสียชีวิตวันละ 1,300 คน แต่ในอนาคตยังมีแนวโน้มที่จะเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ขึ้นอีก อยากให้รัฐบาลใช้ช่วงเวลานี้เตรียมตัว ลงทุนเพิ่มเติมด้านระบบสาธารณสุข มุ่งไปที่การรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการป่วยแทนการนับยอดผู้ติดเชื้อ