ฝรั่งเมืองเบียร์คลั่งเปิดถังแก๊สจุดไฟเผาบ้าน ก่อนผูกคอฆ่าตัวตายสยองคากองเพลิง เมียชาวไทยอยู่กินกันมานานกว่า 20 ปี มึนไม่รู้ชนวนเหตุ ก่อนหน้านี้เอาหลาน 2 คนมาเลี้ยงถูกสามีไล่ให้เอากลับบ้านเพราะไม่มีสมาธิทำงาน ภายหลังน้องชายสามีที่อยู่ต่างจังหวัดเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ ขอให้กลับไปอยู่บ้านก่อนเพื่อจัดการเรื่องศพน้องชาย พ่นสีสเปรย์ระบายความในใจเต็มฝาผนังบ้านก่อนลงมือก่อเหตุ ตำรวจพุ่งปมน้อยใจเมียกับเครียดเรื่องการเสียชีวิตของน้องชายหนุ่มใหญ่ชาวเยอรมันจุดไฟเผาบ้านตัวเองก่อนผูกคอฆ่าตัวตายรายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 7 ก.พ. ร.ต.ท.สุทธิกรรณ์ เอี่ยมสำอางค์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านเลขที่ 452 หมู่บ้านกาญจนบุรีวิลลา ต.ท่ามะขาม เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้นมีรั้วรอบขอบชิดพบไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง มีนายวสันต์ ภูษิตกาญจนา นายกเทศตรีเมืองกาญจนบุรี นายเกรียงไกร จงเจริญ รองนายกเทศมนตรีเมืองกาญจนบุรี สั่งระดมรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองกาญจนบุรี เทศบาลตำบลท่ามะขาม เทศบาลตำบลท่าล้อ และเทศบาลเมืองปากแพรก รวมกว่า 10 คัน พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตัดกระแสไฟฟ้า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องพังประตูรั้วเข้าไปฉีดน้ำสกัดเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ภายในบ้าน ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่เผาผลาญบ้านวอดเกือบทั้งหลังหลังเพลิงสงบเข้าตรวจสอบภายในบ้านพบศพนายอูเว อัลเบร็คชท์ อายุ 63 ปี ชาวเยอรมันเจ้าของบ้าน ใช้ลวดสลิงรัดคอตัวเองแขวนอยู่กับขื่อในห้องครัวชั้นล่าง สภาพศพลิ้นจุกปาก ร่างกายถูกไฟคลอกไหม้เกรียมกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ บนพื้นใกล้กันมีถังแก๊สหุงต้มขนาด 15 กก. วางอยู่ 3 ถังเปิดวาล์วทิ้งไว้ ส่วนบนชั้น 2 พบถังแก๊สหุงต้มขนาดเดียวกันวางอยู่อีก 2 ถังเปิดวาล์วเช่นกันมียางรถยนต์ครอบอยู่ และกระป๋องสีหลายกระป๋อง คาดว่าเป็นจุดต้นเพลิงที่ผู้ตายเปิดวาล์วถังแก๊สแล้วจุดไฟเผาบ้าน ก่อนจะลงไปผูกคอฆ่าตัวตายอยู่ในครัวชั้นล่างส่วนบริเวณข้างบ้านพบซากรถ จยย.บิ๊กไบค์ถูกไฟไหม้วอด 2 คัน พบข้อความที่พ่นด้วยสเปรย์สีชมพูบนฝาผนังบ้านด้านนอก เป็นข้อความภาษา อังกฤษที่ผู้ตายเขียนไว้ก่อนลงมือก่อเหตุ ส่วนหลังบ้านมีรถ จยย.อีก 2 คันจอดคลุมผ้าไม่ได้รับความเสียหาย สอบถามเพื่อนบ้านทราบว่าผู้ตายพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้นานร่วม 10 ปี มีภรรยาเป็นชาวไทย นานๆจะมาหา นิสัยส่วนตัวเป็นคนเงียบขรึมไม่ค่อยพูดจากับใครและไม่เคยออกมาสุงสิงกับเพื่อนบ้าน ก่อนเกิดเหตุชาวบ้านใกล้เคียงได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น 3-4 ครั้งบนชั้นสองของบ้าน ก่อนจะเกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นอย่างรุนแรง รีบแจ้งรถดับเพลิงมาระงับเหตุและแจ้งตำรวจมาตรวจสอบต่อมาตำรวจเชิญนางกมลวรรณ อัลเบร็คชท์ อายุ 60 ปี ภรรยาผู้ตายมาสอบปากคำให้การว่า สามีเคยเป็นเจ้าของร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ที่เยอรมนี แต่งงานและซื้อบ้านหลังนี้อยู่กินกันมานานกว่า 20 ปี สามีทำธุรกิจอะไรไม่รู้ รู้เพียงว่าตอนกลางคืนจะออกมานั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ กลางวันจะนอนหลับพักผ่อน ส่วนตนยึดอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้าอยู่บ้าน ก่อนหน้านี้เอาหลาน 2 คนมาเลี้ยงที่บ้าน สามีบอกให้เอากลับไปเลี้ยงที่บ้านใน อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เพราะไม่มีสมาธิในการทำงาน กระทั่งวันตรุษจีนที่ผ่านมานำสิ่งของมาไหว้ศาลพระภูมิที่บ้าน สามีเล่าให้ฟังว่าน้องชายที่แต่งงานอยู่กินกับสาวชาวไทยที่โคราชเสียชีวิตลงแบบไม่ทราบสาเหตุ ขอให้ตนกลับไปอยู่บ้านก่อน จะจัดการเรื่องงานศพเสร็จแล้วค่อยกลับมาอยู่บ้าน ก่อนจะมาก่อเหตุขึ้น ไม่ทราบว่าสาเหตุมาจากเรื่องอะไรหลังสอบสวนตำรวจลงบันทึกปากคำไว้เป็นหลักฐานก่อนนำศพส่งสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ให้แพทย์ผ่าชันสูตรอย่างละเอียด พร้อมแจ้งสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทยทราบเรื่อง เนื่องจากผู้ตายทำประกันชีวิตไว้ที่ประเทศเยอรมนีและในประเทศไทยจำนวนหลายแสนบาท ส่วนสาเหตุเบื้องต้นตั้งไว้ 2 ประเด็นคือเรื่องน้อยใจภรรยา หรือคิดมากเรื่องน้องชายร่วมสายเลือดเสียชีวิต ทำให้เครียดจัดตัดสินใจเผาบ้านทิ้งแล้วผูกคอฆ่าตัวตาย