สลดไฟไหม้ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ย่านบางขุนเทียน หนุ่มอาสาร่วมกตัญญู รหัสบางขุนเทียน 15 เจ้าของบ้านถูกไฟคลอกตายทุรนพร้อมลุงที่ป่วยมะเร็งสมอง ส่วนเมียหนุ่มอาสามูลนิธิเจ็บสาหัส กระโดดหนีตายจากห้องนอนชั้น 2 ในสภาพไฟคลอกเกือบ 80% ยังต้องใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ไอซียู แม่ยายเผยลูกเขยเป็นคนดีชอบช่วยคนอื่น แต่พอถึงคราวตัวเองไม่มีใครช่วยได้เหตุไฟไหม้ทาวน์เฮาส์คลอก 2 ศพสลด เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 27 ม.ค. พ.ต.ต.เธียรภัทร กล้าใจ สว. (สอบสวน) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้มีผู้เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 14/67 ถนนเอกชัย ซอย 30 แยก 5 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. ไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช รถดับเพลิง สปภ.เขตบางขุนเทียน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ปลูกติดกันหลายหลัง ตรวจสอบบ้านต้นเพลิงเลขที่ 14/67 พบไฟไหม้จากชั้นล่างขึ้นไปบนห้องนอนชั้นที่ 2 นอกจากนี้ยังลุกลามไปสร้างความเสียหายบริเวณบ้านข้างเคียงเลขที่ 14/66 อย่างรวดเร็ว นักผจญเพลิงและหน่วยกู้ภัยช่วยกันใช้หัวฉีดน้ำเข้าสกัดกั้นนานกว่า 30 นาที เพลิงสงบ รวมเนื้อที่เพลิงไหม้ทั้ง 2 หลัง ประมาณ 25 ตารางวาตรวจสอบบนชั้นที่ 2 บ้านต้นเพลิง พบผู้เสียชีวิต 2 ศพ ศพแรกถูกไฟคลอกไหม้ดำเป็นตอตะโกอยู่ในห้องนอน ทราบชื่อคือนายกิตติพงศ์ หรือเอ สอนดี อายุ 36 ปี เจ้าของบ้าน และเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู รหัสบางขุนเทียน 15 อีกศพคือนายสำเนียง ธรรมปัญญา อายุ 60 ปี เป็นลุงนายกิตติพงศ์ สภาพศพถูกไฟคลอกจนไหม้เกรียมอยู่ด้านหลังชั้นที่ 2 นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 คน คือนางรักชนก หรือแอน สอนดี อายุ 36 ปี ภรรยานายกิตติพงศ์ ตัดสินใจกระโดดลงมาจากห้องนอนชั้น 2 สภาพถูกไฟคลอกตามร่างกายเกินกว่า 50% ถูกนำตัวส่ง รพ.สมุทรสาคร เข้ารักษาในห้องปลอดเชื้อนางบุษบา ธรรมปัญญา อายุ 65 ปี แม่ของนางรักชนก เผยว่า ปกติบ้านหลังนี้อยู่ด้วยกัน 3 คน คือลูกสาว ลูกเขย และลุงของลูกเขย เมื่อคืนมีเพื่อนกู้ภัยโทร.ไปแจ้งว่าไฟไหม้บ้าน ลูกสาวอาการสาหัส ส่วนลูกเขยและลุงเสียชีวิต รีบมาทันที ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กับครอบครัวเพราะลูกเขยเป็นคนดี เป็นอาสากู้ภัย ชอบช่วยเหลือคนอื่น แต่ไม่คิดว่าพอถึงคราวตนเองไม่มีใครสามารถช่วยได้ ส่วนลูกสาวตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล หมอก็ให้ทำใจ อาการสาหัส ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ หวังเพียงปาฏิหาริย์ให้ลูกสาวหาย ก่อนเกิดเหตุไม่ได้มีลางสังหรณ์อะไร แต่ก่อนหน้านี้ลูกสาวเคยบ่นว่าอยากกลับบ้านแล้ว เบื่อชีวิตในกรุงเทพฯ ได้ปลอบใจไปว่าให้ทำงานหาเงินก่อนเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ หาสาเหตุของเพลิงไหม้ภายในที่เกิดเหตุ และขอดูกล้องวงจรปิดจากเพื่อนบ้านในละแวกจุดเกิดเหตุ จากนั้นจะติดตามไปดูอาการนางรักชนกที่โรงพยาบาล รวมถึงประสานญาติพี่น้องเข้ามาให้ปากคำ และทำเรื่องนำร่างของผู้เสียชีวิตออกจากสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช ไปบำเพ็ญ กุศลตามประเพณีต่อไปต่อมาเวลา 14.00 น. ที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช น.ส.สีนวล ธรรมปัญญา 43 ปี ลูกสาวนายสำเนียง เดินทางมารับศพนายสำเนียงและนายกิตติพงศ์ 2 ลุงหลานไปบำเพ็ญกุศลวัดหนองรี ต.พร้าว อ.บ้านนา จ.นครนายก บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า น.ส.สีนวลเผยว่า เป็นลูกสาวคนโตของนายสำเนียง ก่อนนี้พ่อป่วยเป็นมะเร็งสมองรักษาต่อเนื่องมาแล้ว 5 ปี มาอาศัยอยู่กับลูกเขย แต่ไม่อยากเป็นภาระ เลือกขับรถแท็กซี่ได้มากได้น้อยตามกำลัง ส่วนนางรักชนกทราบว่ายังต้องใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ในห้องไอซียู