เพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมนมไทยทั้งห่วงโซ่ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) และ บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การพัฒนาผู้เลี้ยงโคนมไทย “โครงการสี่ประสาน สร้างความยั่งยืนโคนมไทย” เป็นปีที่ 2มีเป้าหมายพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ต้องมีรายได้เพิ่ม ได้มาตรฐานการเลี้ยง และการจัดการโคนม รวมไปถึงน้ำนมที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างความสำเร็จที่ยั่งยืน โดยเป็นความร่วมมือจากซีพีเอฟ ผู้นำด้านอาหารสัตว์บก, อ.ส.ค. ผู้นำด้านการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโคนม และเป็นผู้รับซื้อ จำหน่ายผลิตภัณฑ์นมมุ่งส่งเสริม ส่งต่อความรู้ให้กับสหกรณ์โคนม หรือศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ และเกษตรกรโคนมเพื่อให้เกิดประโยชน์ และผลกำไรสูงสุดในการพัฒนาฟาร์มต้นน้ำโคนมไทยในอนาคต ผลดำเนินการโครงการในปีแรกถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก มีผลลัพธ์ของการดำเนินโครงการที่น่าพอใจ5 ศูนย์นมที่ได้ร่วมมือกับซีพี ส่งผลให้ตัวชี้วัดด้านคุณภาพและประสิทธิภาพมีค่าเฉลี่ยที่ดีขึ้น ทั้งค่าองค์ประกอบน้ำนม ผลผลิต ประสิทธิภาพการเลี้ยงที่ดีขึ้น ทำให้ อ.ส.ค. ผู้รับซื้อน้ำนมดิบ ได้น้ำนมคุณภาพเข้าสู่กระบวนการแปรรูปนอกเหนือจากนั้นโครงการสี่ประสานสร้างความยั่งยืนโคนมไทย ยังก่อให้เกิดทรัพยากรบุคคล เครื่องมือ เทคโน โลยีทันสมัย ที่จะมาช่วยยกระดับมาตรฐานการเลี้ยงโคนม แบ่งเบาภาระเกษตรกร ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ พัฒนาการจัดการการเลี้ยงให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมกับเกิดความร่วมมือพัฒนาศูนย์นม และเกษตรกรโคนมในเครือข่ายของ อ.ส.ค.ไปแล้วกว่า 5 ศูนย์นม คือ สหกรณ์โคนมกระนวนสามัคคี, สหกรณ์โคนมน้ำพอง จ.ขอนแก่น, สหกรณ์โคนมหนองวัวซอ จ.อุดรธานี, สหกรณ์โคนมแม่โจ้ และสหกรณ์โคนมแม่วาง จ.เชียงใหม่และปีนี้มีแผนต่อยอดก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 จะขยายโครงการไปอีก 5 ศูนย์นมทั่วประเทศ ที่มีประชากรโคมากกว่า 12,000 ตัว มุ่งเป้าสู่การเกษตรแบบแม่นยำ ที่เก็บข้อมูลบันทึกการเลี้ยงได้ จะทำให้สามารถนำมาวิเคราะห์ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด และต้องวัดผลได้ พร้อมกับนำเทคโนโลยีมาช่วยจัดเก็บข้อมูล นั่นคือ CP SmartMORE แอปพลิเคชันจัดการฟาร์มโคนม มาให้ใช้กันฟรีๆ.สะ–เล–เต