ท่ามกลางกระแสหมูแพงที่มีสาเหตุมาจากโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร หรือ ASF ส่งผลให้เกษตรกรคนเลี้ยงหมูรายเล็กรายย่อยหายไปจากระบบกว่า 50%หลายคนจะคิดว่าจะมีเฉพาะฟาร์มใหญ่ ทุนหนา มีความพร้อมในการป้องกันโรคเท่านั้น ถึงจะอยู่รอดจากวิกฤตินี้ได้แต่ฟาร์มภูโค้ง อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ฟาร์มเลี้ยงหมูขนาด 50–200 ตัว แสดงให้เห็นแล้ว ถึงแม้จะเป็นฟาร์มรายเล็ก ไม่ต้องเลี้ยงระบบปิด ไม่ต้องมีโรงเรือนอีแวปราคาเรือนล้าน ก็สามารถอยู่รอดได้ “ด้วยมีความรู้ทางด้านวิศวกรรม จึงนำเอาเทคโนโลยีต่างๆที่ใช้ในฟาร์มขนาดใหญ่มาย่อขนาดลง มาบวกผสมกับเทคโนโลยีที่คิดขึ้นเอง เพื่อประหยัดต้นทุน และภูมิปัญญาชาวบ้านที่ทำกันมาเนิ่นนาน มาประยุกต์ใช้ในฟาร์ม ภายใต้แนวคิดที่ว่า คนต้องสัมผัสกับหมูให้น้อยที่สุด เลยทำให้ไม่ว่าจะเกิดโรคระบาดอะไร ฟาร์มเราอยู่รอดปลอดภัยมาได้โดยตลอด”ดร.อภิชาติ อาจนาเสียว อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เจ้าของฟาร์มภูโค้ง อธิบายถึงสาเหตุที่ฟาร์มแห่งนี้ปลอดภัยจากโรคระบาด ทั้งๆที่ฟาร์มรายย่อยในอำเภอเดียวกันหลายแห่งต้องสูญเสียหมูไปกันแล้วแทบทั้งหมด “การมาของ ASF คล้ายโควิด–19 ที่ทำให้เกิดนิวนอร์มอล เปลี่ยนวิถีปฏิบัติใหม่ให้คนเลี้ยงหมู โดยฟาร์มขนาดเล็กจำเป็นต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เพื่อให้เอื้อต่อการทำงาน ให้คนเข้าใกล้หรือสัมผัสหมูน้อยที่สุด นี่คือหัวใจสำคัญของการป้องกันโรค”ฟาร์มแห่งนี้มีการนำเทคโนโลยีหลายอย่างเข้ามาใช้ ทั้งระบบเซ็นเซอร์การให้อาหารและน้ำ ที่ทำให้คนไม่ต้องเข้าไปในเล้าหมูบ่อยๆ ให้อาหารสัปดาห์ละครั้ง อาหารลดจะมีเซ็นเซอร์แจ้งเตือน และตั้งเวลาทุก 1 ชม.ให้น้ำไหลไปผสมกับอาหารเพื่อให้อาหารเละเหมือนโจ๊ก หมูชอบกินมากพร้อมมีแอปพลิเคชันแจ้งเตือนในมือถือถึงจำนวนครั้งที่คนงานได้รับการฆ่าเชื้อก่อนเข้าคอกหมู เพราะที่นี่อนุญาตให้คนเข้าออกได้วันละครั้งเดียวเท่านั้นนอกจากนี้ ยังมีการใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่เกษตรกรรายย่อยคุ้นเคยเป็นอย่างดี อย่างมุ้งทำเป็นม่านเพื่อป้องกันนก หนู แมลง และสัตว์พาหะ ต้องระมัดระวังไม่ให้มุ้งมีรู และต้องมีวินัยในการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญมีอุปกรณ์ที่คิดขึ้นเอง ระบบตรวจจับปริมาณอาหาร ที่ทำได้อย่างแม่นยำ มีราคาต่ำกว่าระบบฟาร์มปิดขนาดใหญ่ถึงกว่า 10 เท่า และยังไม่มีการนำระบบนี้มาใช้กับฟาร์มขนาด 50–200 ตัว ของเกษตรกรรายย่อยอื่นๆส่งผลให้ปกติประสิทธิภาพการเลี้ยงหมูจะวัดกันด้วย FCR หรือน้ำหนักอาหารที่ใช้ในการทำให้น้ำหนักหมูเพิ่ม 1 กก. มาตรฐานทั่วไปจะมีค่าเท่ากับ 2.77 แต่หมูของฟาร์มภูโค้งทำ FCR ได้ 2.40ที่สำคัญระบบการป้องกันโรคของฟาร์มแห่งนี้ใช้เงินลงทุนเพียง 1 แสนบาทสำหรับหมู 50 ตัว และประมาณ 4-5 แสนบาท สำหรับหมู 200 ตัว นอกจากจะเป็นฟาร์มระบบเปิดที่มีการป้องกันโรคด้วยเซ็นเซอร์ต่างๆแล้ว ยังใช้ไฟฟ้าระบบโซลาร์เซลล์ที่ทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้าได้เป็นอย่างมากการลงทุนฟาร์มไม่สูง ใช้ได้กับคอกขนาด 50–200 ตัว เทคโนโลยีต่างๆที่ใช้ไม่ได้มีราคาแพง แต่มีประสิทธิภาพสูง เลยส่งผลให้ฟาร์มปลอดภัยจากโรคได้จนถึงปัจจุบัน...จึงน่าจะเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของเกษตรกรรายย่อยที่คิดจะกลับเข้าสู่อาชีพเลี้ยงหมูอีกครั้ง แต่ยังต้องดูความพร้อมของการจัดการเรื่องโรคของภาครัฐว่าจะสามารถเริ่มเลี้ยงหมูรุ่นใหม่ได้เมื่อใดดร.อภิชาติ กล่าวส่งท้าย โดยส่วนตัวเชื่อว่าเกษตรกรรายย่อยจะไม่หมดไป แต่วิธีการจัดการฟาร์มต่างหากที่จะต้องเปลี่ยนแปลง การส่งเสริมให้สินเชื่อเกษตรกรเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราเห็นภาพเหล่านี้ชัดเจนขึ้น และที่สำคัญผู้บริโภคจะได้รับเนื้อหมูที่มีคุณภาพดีขึ้นด้วยเกษตรกรสนใจเทคโนโลยีเลี้ยงหมูระบบเปิดแต่ป้องกันโรคได้ติดต่อได้ที่ 08-1266-7120.กรวัฒน์ วีนิล