นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ส่งตัวอย่างน้ำบาดาลที่ได้จากแหล่งน้ำบาดาลที่สำรวจและขุดค้นพบที่ความลึก 200 เมตร ในพื้นที่ ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ในโครงการน้ำบาดาลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หนองฝ้าย -เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี เพื่อแก้ปัญหาน้ำกินน้ำใช้และน้ำเพื่อการเกษตรให้สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตรวจสอบและวิเคราะห์ เพื่อหาค่าอายุของน้ำบาดาล ผลปรากฏว่า น้ำบาดาลในพื้นที่ ต.หนองฝ้ายมีอายุถึง 7,530 ปี จึงทำให้มั่นใจว่าแหล่งน้ำบาดาลบริเวณนี้เป็นแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติที่สะอาด สามารถดื่มได้ และมีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ อีกทั้งยังมีอายุสูงถึง 7,530 ปี รับรองว่าบริสุทธิ์ ไร้สิ่งเจือปนแน่นอน ขณะที่ก่อนหน้านี้ได้ส่งตัวอย่างน้ำที่ได้ เพื่อทำการวิเคราะห์คุณภาพน้ำในห้องปฏิบัติการของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งผลวิเคราะห์คุณภาพน้ำบ่งชี้ว่า น้ำบาดาลบริเวณดังกล่าวมีคุณสมบัติเป็นน้ำแร่ มีปริมาณสารละลายมวลรวม 440 มิลลิกรัมต่อลิตรค่า pH 7.2 มีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์กับร่างกาย คือ แคลเซียม 96 มิลลิกรัมต่อลิตร แมกนีเซียม 26 มิลลิกรัมต่อลิตร โซเดียม 15 มิลลิกรัมต่อลิตรโพแทสเซียม 7.3 มิลลิกรัมต่อลิตร สังกะสี 15 มิลลิกรัมต่อลิตร และไม่พบโลหะหนัก รวมถึงไม่พบเชื้อโรคหรือแบคทีเรีย หรือสารที่จะเป็นอันตรายต่อร่างกายอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลกล่าวต่อว่า ขณะนี้น้ำบาดาลได้สร้างประโยชน์ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ โดยแต่เดิมทำการเกษตรด้วยการปลูกมันสำปะหลัง เนื่องจากไม่มีน้ำได้เปลี่ยนวิถีชีวิตมาปลูกผักทั้งผักบุ้ง ผักคะน้า เป็นต้น รวมทั้งปลูกดอกดาวเรืองหลายร้อยไร่โดยใช้น้ำบาดาล ปรากฏสามารถสร้างผลผลิตและมีรายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นด้วย.