จะมีสักกี่คนสามารถใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่กับธรรมชาติ พึ่งพาตนเองตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรผสมผสาน... ครูเกษียณจาก ร.ร.บ้านห้วยน้ำใส อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี เป็นหนึ่งในนั้นอยากกินอะไร หาได้ในพื้นที่ 6 ไร่ ของตัวเอง ทำงานคนเดียวไม่ได้จ้างใคร ลูกๆเรียนจบมีงานมีการทำกันหมดแล้ว อยู่ในสวนก็แทบไม่ได้ใช้จ่ายอะไรเลย...เงินได้จากการขายพืชผักผลไม้แต่ละเดือน ถึงจะน้อยกว่าเงินบำนาญไม่กี่สตางค์ แต่ยัง มีเหลือนำมาสร้างความสุขทางใจด้วยการไถ่ชีวิตโคกระบือ “เริ่มทำสวนตั้งแต่ปี 2532 บนที่ดินมรดก 6 ไร่ ปลูกพริก เลี้ยงกบเหมือนชาวบ้านทั่วไป ใช้เวลาเช้าก่อนไปสอน และตอนเย็นหลังกลับจากโรงเรียนมาดูแลสวน แต่ละเดือนได้บ้างขาดทุนบ้าง ไม่ได้สนใจอะไร เพราะเป็นลูกชาวนา จึงรักการปลูกต้นไม้ เลี้ยงสัตว์ ดีกว่าปล่อยที่ดินทิ้งไว้เฉยๆ กระทั่ง 10 ปีต่อมา มีโอกาสได้เรียนรู้เกษตรพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ เลยเปลี่ยนมาปลูกทุกอย่างที่หาได้ ตั้งแต่ไม้ยืนต้น พืชผัก ไม้ดอกไม้ประดับ แล้วหันมาเลี้ยงไก่พื้นบ้าน ไก่งวง เลี้ยงเป็ด เลี้ยงหมู เลี้ยงปลา เลี้ยงหอย พอมีรายได้ขึ้นมาแบบไม่ขัดสน” ครูพูนศักดิ์ พูลดี เล่าความหลังชีวิตก่อนเกษียณจากการเป็นพ่อพิมพ์ของชาติ เปลี่ยนที่ดิน 6 ไร่ บ.ป่ากุง ต.คันไร่ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี มาเป็นสวนเกษตรผสมผสาน...รู้สึกชอบกับการที่ได้ใส่ใจต้นไม้ใบหญ้า พืชผัก สัตว์เลี้ยง จนแทบไม่ได้ออกไปไหน ยกเว้นเวลาไปสอนหนังสือ จนไม่มีเวลาไปสังสรรค์กับใคร ทำมาหากินอยู่แต่ในสวน ไม่ต้องไปตลาด มีอะไรก็กินไป เหลือแจกจ่ายชาวบ้าน ไม่ก็เอาไปประกอบอาหารกลางวันที่โรงเรียน ให้นักเรียนได้กินกันฟรีๆ จวบจนเมื่อปีที่ผ่านมาเกษียณราชการ จึงออกมาทำสวนอย่างเต็มตัว แม้จะมีเงินบำนาญเดือนละ 58,000 บาท คราวนี้เมื่อมีเวลามากขึ้น ไม่ได้ออกไปไหน ใช้เวลากับสวนมากขึ้น จึงเริ่มมีเวลาวางแผนการผลิต รวมถึงการขายในแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์ แต่ละเดือน และแต่ละฤดูกาลผลิต รวมไปถึงการทำบัญชีต่างๆ เพราะปลูกผักเลี้ยงสัตว์แบบผสมผสานพึ่งพาตัวเองเริ่มที่รายได้รายวันจากไข่เป็ดไข่ไก่ ที่ออกมาทุกวัน วันละ 9 ถาด ขายถาดละ 90 บาท ผัก หน่อไม้ ไม่ต้องไปขายที่ตลาด มีแม่ค้ามารับซื้อถึงสวน นี่ยังไม่รวมปลา ไก่เนื้อ หมู หอย ไม้ผล ที่บางอย่างเป็นรายได้รายเดือน และตามฤดูกาลผลิต เมื่อมาคิดคำนวณแต่ละวัน จะมีรายได้เข้าบ้านวันละ 1,500-3,000 บาท คิดเป็นรายได้เดือนละร่วม 50,000 บาท เมื่อรวมกับเกษียณรายเดือนบางเดือนก็เฉียดแสน บางเดือนก็แสนกว่าบาท ในเมื่อไม่ได้มีภาระค่าใช้จ่ายอะไร เงินแทบไม่ได้ใช้...ไปเห็นวัดมีการไถ่ชีวิตโคกระบือ หรือมีชาวบ้านจะเอาโคกระบือไปขายให้โรงฆ่าสัตว์ รู้สึกสงสาร เลยไปซื้อมาเลี้ยงไว้ จนปัจจุบันมีวัว 15 ตัว ควาย 2 ตัว แถมออกลูก ยังขายให้ชาวบ้านนำไปเลี้ยงเป็นอาชีพต่อยอด หากต้องการขายคืนพร้อมรับซื้อครูพูนศักดิ์ ให้ข้อคิดในตอนท้ายสำหรับคนใกล้เกษียณ...ทุกวันนี้ตัวเองมีความสุขมาก จึงอยากเตือนครูหรือข้าราชการทั้งหลาย อย่าเอาเงินที่ได้มาไปท่องเที่ยวจนหมด อย่าหวังรอแต่เงินบำนาญอย่างเดียว ควรมีอาชีพสำรอง เพื่อความสุขในบั้นปลาย ถ้าสนใจมาเยี่ยมชมสวน ติดต่อไปได้ที่ 09-9023-9988แต่ขอสงวนสิทธิไม่ต้อนรับหน่วยงานที่ชอบให้มาอบรมหรือมาฝึกสอน แล้วเอาเงินทอนมาให้...บ้านเมืองนี้ มีอย่างนี้ด้วยเหรอ.ไชยรัตน์ ส้มฉุน