ต้นแบบนักสืบมือปราบเมืองหลวงตัวจริง มีเพียง พล.ต.อ.มนต์ชัย พันธุ์คงชื่น และ พล.ต.อ.ณรงค์ มหานนท์ คู่นายตำรวจ “ลูกหม้อนครบาล” ที่ก้าวไปถึงบันไดบัลลังก์สูงสุดของกองทัพสีกากีผ่านไป 33 ปี เพิ่งได้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ที่เติบโตจากหน้างานสืบสวนขยับนั่งเก้าอี้ผู้นำแม้จะบอกเป็น “ลูกหม้อนครบาล” ไม่เต็มปาก แต่เขาเกิดจาก “เบ้าหลอม” ของบรมครูนักสืบและมือสอบสวนนครบาลอย่าง พล.ต.ท.โสภณ วาราชนนท์ ผู้ริเริ่มหลักสูตรสืบสวนคดีอาญาขั้นพิเศษเมื่อปี 2539สร้าง 30 นักสืบดาวรุ่ง เป็นทายาทพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ขณะนั้นเป็น รอง ผกก.ข่าว บช.น.ถูกดึงเข้าร่วมคณะทำงานวางรากฐานเคียงข้าง พล.ต.ต.ปรีชา ธิมามนตรี ที่ยังเป็น รอง ผกก.สส.น.เหนือถือเป็น “โรงเรียนสืบสวน” ที่ดีสุดในประวัติศาสตร์วงการตำรวจหลังจากนั้นลงประคับประคองเสมือน “ครูพี่เลี้ยง” ขัดเกลาลูกศิษย์เสริมเขี้ยวเล็บให้กับ กก.สส.บก.น.2 ต่อยอดไปยัง กก.สส.บก.น.7ชีวิตวนเวียนอยู่การสืบสวนพิชิตแฟ้มคดีสำคัญระดับชาติมากมาย แม้ไม่ได้อยู่ตำแหน่งรับผิดชอบโดยตรงจิตวิญญาณและอุดมการณ์นักสืบของเขาถ่ายทอด “พันธุกรรม” ให้ลูกศิษย์จำนวนไม่น้อยกระทั่งเกิด “พายุมรสุม” พัดพาหลายคนกระเด็นกระจัดกระจายหลุด “นอกรันเวย์” ทำซวนเซ เป๋ถอดใจ กลายเป็นปัญหาขาดแคลน “สายพันธุ์นักสืบ” เนื้อดีในทันทีที่ผู้มีอำนาจบางคนไม่เห็นค่าความสำคัญกับ “มรดก” ทายาทที่ถูกสร้างขึ้นมาปัจจุบันความหวังของพวกเขาอยู่ที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เพียงคนเดียวร่างแบบพิมพ์เขียวนักสืบรุ่นใหม่.สหบาท