พระมหานิพนธ์ ญาณวีโร เลขานุการเจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา เมืองคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย พิจารณาต้นพระศรีมหาโพธิ์ บริเวณมหาเจดีย์พุทธคยา ซึ่งกำลังผลิใบใหม่.ช่วงเวลาที่ผ่านมาเพียงไม่กี่ปี โลกเปลี่ยนไปมากเหลือเกิน ถึงเดือนเมษายนเข้าสู่วสันตฤดู พฤกษานานาพันธุ์ต่างผลัดใบ เปลี่ยนสี คงจะเหมือนชีวิตเรานี่แหละ ที่ต้องดำเนินต่อไปตามการเปลี่ยนแปลงที่ เมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย ดินแดนตรัสรู้ ถึงช่วงฤดูนี้ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ จะผลัดใบเก่าร่วงหล่น เหลือเพียงแต่กิ่งก้าน แล้วก็เริ่มผลิใบใหม่ เห็นเป็นใบโพธิ์น้อยสีชมพู แทนที่ใบโพธิ์แก่ที่เคยแข็งแรงอยู่ติดต้นมาจนครบฤดูกาล 1 ปีนับเป็นภาพที่น้อยคนจะได้เห็น และเมื่อได้เห็น ต่างจะได้เห็นถึงสัจธรรมชีวิตที่ชัดเจนมากขึ้นด้วยต้นพระศรีมหาโพธิ์ นี้มีอายุกว่าร้อยปีแล้ว เป็นลำดับต้นที่สี่ซึ่งแตกหน่อมาจากต้นเดิม จุดเดิมที่ พระพุทธเจ้า ตรัสรู้ (ซ้าย) พระธรรมโพธิวงศ์ (วีรยุทฺโธ) หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล รดน้ำต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่ วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี 989 จ.สมุทรปราการ อายุครบ 2 ปี เมื่อวันที่ 4 เม.ย.2564 เมื่อคราวก่อนกาลจะตรัสรู้ธรรมของ พระพุทธเจ้า ครานั้นยังเป็น พระมหาบุรุษ ได้บำเพ็ญเพียร บำเพ็ญทุกรกิริยา ณ ภูเขาดงคสิริ ไม่เสวยภัตตาหารจนมีพระวรกายซูบผอมต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่มีชื่อเดิมว่า อัสสัตถพฤกษ์ และเป็นสหชาติของ พระพุทธองค์ ก็ไม่ได้ดูดน้ำดูดอาหาร จึงซูบซีดไม่มีใบปานประหนึ่งว่าจะล้มตายเช่นกันต่อเมื่อ พระมหาบุรุษ เริ่มเสวยภัตตาหาร ต้นอัสสัตถพฤกษ์จึงเริ่มดูดแร่ธาตุอาหารตาม เพื่อรอคราวแห่งการตรัสรู้ธรรมจวบจนได้มีใบเขียวดกอุดมสมบูรณ์อีกครั้งใน วันตรัสรู้ธรรม ซึ่งก็คือวันวิสาขบูชานั่นเอง ทิพย์วรรณ วีระภุชงค์ กก.มูลนิธิวีระภุชงค์ ไปร่วมรดน้ำด้วย.การร่วงหล่นของใบโพธิ์ที่ได้เห็นเป็นประจำ อยู่ทุกปีนั้น เป็นไตรลักษณ์ที่มีอยู่คู่กับธรรมชาติ การยืนต้นที่แข็งแรงถึงทุกวันนี้ นับเป็นการแสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้รักษาผืนดินแห่งการตรัสรู้ของ พระพุทธองค์ เสมือนเป็นตัวแทนเล่าเรื่องราวแห่งการตรัสรู้แต่ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ทำให้ผู้คนบางตา เงียบเหงา น่าใจหาย แม้ว่าจะมีการเปิดดำเนินการกิจกรรมต่างๆในบริเวณ มหาเจดีย์พุทธคยา เมืองคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย เกือบทั้งหมดแล้วก็ตามจากการระบาดรอบใหม่ทำให้มีการปิดเมืองอีกหลายเมือง ในอนาคตอาจจะกระทบถึงการปิดประเทศ ไม่ให้มีเที่ยวบินพาณิชย์เข้าออกจากอินเดีย โดยต้องรอการประกาศเดือนต่อเดือน พระครูนรนาถเจติยาภิรักษ์ (สมพงศ์), พระเมธีวรญาณ (สายเพชร) และ พระครูอุดมโพธิวิเทศ (ณรงค์) ร่วมพิธีรดน้ำต้นพระศรีมหาโพธิ์ ครบรอบ 2 ปี.ขณะที่ น.ส.อันนา สุขสุกรี ผู้ผลิตสื่อเพื่อพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรม เจ้าของผลงานสารคดีสำคัญชุด “อริยทัศน์อินเดีย” แจ้งข่าวดีถึงพุทธศาสนิกชนชาวไทยที่ยังไม่สามารถไปอินเดียได้ในช่วงนี้ ได้อุ่นใจว่าปัจจุบันสามารถเข้าสักการะ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่ วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี 989 จ.สมุทรปราการ ซึ่งอยู่ใกล้กับท่าอากาศยาน นานาชาติสุวรรณภูมิ ไปพลางก่อนและตลอดไปได้แล้วด้วยเพราะเป็นการนำหน่อเนื้อจาก ต้น พระศรีมหาโพธิ์ ที่เมืองคยา ประเทศอินเดีย มาปลูกไว้เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2562 จำนวน 8 ต้น ต้นพระศรีมหาโพธิ์ บริเวณมหาเจดีย์พุทธคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ขณะนี้กำลังผลิใบใหม่อีกครั้ง ออกสีชมพู ก่อนเปลี่ยนเป็นสีแดงและสีเขียว.เมื่อต้น พระศรีมหาโพธิ์ เจริญวัยจะค่อยๆ ม้วนเกลียวรวมกันเป็นต้นเดียวตามธรรมชาติ อันเป็นนัยที่ว่าด้วยเรื่อง มรรคมีองค์แปด สู่เส้นทางเดียวเพื่อบรรลุธรรมปัจจุบัน ต้นพระศรีมหาโพธิ์ทั้ง 8 มีอายุครบ 2 ปีแล้ว และกำลังเติบโตอย่างงามสง่า เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของการจาริกธรรมจาก พุทธภูมิ มาสู่ สุวรรณภูมิ ใน ผืนแผ่นดินไทย นับเป็นธรรมชาติที่ทำให้เราเข้าถึงธรรมได้เมื่อ โควิด–19 จางลง ทุกท่านสามารถเข้าสักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์ทั้ง 8 ได้ที่วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตีฯ ซึ่งขณะนี้ พระธรรมโพธิวงศ์ (วีรยุทฺโธ) หัวหน้าพระธรรมทูตอินเดีย-เนปาล และคณะพระธรรมทูต จำพรรษาอยู่ที่วัดนี้เกือบทั้งหมดสาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ.เด่นชัย เด่นชัยประดิษฐ์ รายงาน