แม่มือใหม่คลั่ง ระแวงจะมีคนมาแย่งลูกสาววัย 3 เดือนจากอ้อมอก ขังตัวเองกับลูกน้อยในห้องนอน ร้อนถึงยายตัดสินใจเรียกตำรวจมาช่วยเหลือ มาถึงยังได้ยินเสียงโวยวายและเด็กยังร้องไห้ไม่หยุด ตัดสินใจพังประตูห้องนอนเข้าไปเกลี้ยกล่อม ยืนยันว่า ไม่มีใครทำร้ายลูกจึงยอมจำนน ยายแจงป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามาตั้งแต่วัยรุ่น ต่อมามีสามีและตั้งท้อง ต้องหยุดยารักษาโรคซึมเศร้าทำให้อาการกำเริบระทึกแม่มือใหม่คลั่ง ขังตัวเองกับลูกในห้องนอน ตำรวจต้องพังประตูเข้าไปช่วยเหลือรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 12 ธ.ค. ร.ต.อ.ถวิล บูระทิศ รอง สวป.สน.บุคคโล รับแจ้งเหตุหญิงสาวคลุ้มคลั่งขังตัวเองกับลูกวัยแบเบาะในห้องนอน ในบ้านย่านตรอกศาลเจ้าโกบ๊อ ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กทม. นำกำลังสายตรวจรุดไปตรวจสอบ พบที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น พบนางเดือน (นามสมมติ) อายุ 70 ปี ยายของหญิงสาวผู้ก่อเหตุ ให้ข้อมูลว่า หลานขังตัวเองกับลูกสาววัย 3 เดือนในห้องนอนบนชั้น 2 ของตัวบ้านล็อกประตูปิดจากด้านในอย่างแน่นหนา ขณะเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจสอบยังได้ยินเสียงแม่เด็กร้องโวยวาย ส่วน ลูกสาววัยแบเบาะร้องไห้จ้าเสียงดังลั่นเจ้าหน้าที่เกรงว่าจะเกิดการทำร้ายเด็กให้ได้รับอันตราย ตัดสินใจพังประตูห้องเข้าไปช่วยเหลือทันที พบ น.ส.พลอย (นามสมมติ) อายุ 35 ปี อยู่ในอาการหวาดระแวง กอดลูกน้อย ด.ญ.บลู (นามสมมติ) อายุ 3 เดือนไว้ในอ้อมอกแน่น ทำท่าเหมือนหวาดระแวงว่า จะมีใครมาแย่งลูกสาวตัวน้อยของตัวเองไป ร.ต.อ.ถวิลพยายามเกลี้ยกล่อม ยืนยันว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการมาช่วยเหลือ จน น.ส. พลอยเริ่มเชื่อใจอารมณ์เย็นลง ปล่อยลูกน้อยจากอ้อมกอดให้ตำรวจไป เบื้องต้นจะพาทั้งหมดเดินทางไปสอบสวนที่ สน.บุคคโลสอบถามนางเดือน ยาย น.ส.พลอยเล่าว่า หลานสาวมีอาการป่วยซึมเศร้าเข้ารักษาตัวที่ รพ.สมเด็จเจ้าพระยา ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น กระทั่งเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาพบรักกับสามีตอนทำงานเป็นลูกจ้างร้านอาหาร จนเกิดตั้งครรภ์มีลูกด้วยกัน ทำให้ต้องหยุดยารักษาอาการป่วยไว้ก่อน จนคลอดน้องบลูเหลนของตนออกมา สุขภาพร่างกายของเด็กแข็งแรงดี แต่ด้วยความที่ยังให้นมลูกต้องหยุดกินยามานาน ทำให้หลานสาวอารมณ์ขึ้นๆลงๆ ก่อนหน้านี้มีปากเสียงทะเลาะกับสามี ฝ่ายชายโกรธไม่กลับมานอนบ้าน 3 วันแล้ว ทำให้วันนี้เจ้าตัวเครียดมีอาการคลุ้มคลั่ง ขังตัวเองกับลูกไว้ในห้องนอนร้องเอะอะโวยวายตั้งแต่ ช่วงเช้า ไม่ยอมให้ใครเข้าไปใกล้ ตนห่วงว่าทั้งหลานและเหลนจะเป็นอันตรายจึงแจ้งตำรวจให้มาช่วยเหลือดังกล่าว