วงการนักสืบสูญเสียตำนานระดับปรมาจารย์ไปอีกคน ยุคก่อน มีน้อยคนไม่รู้จัก “อาจารย์คง” นายตำรวจมือปราบที่โจรผู้ร้ายเกรงกลัวในความเด็ดขาดจัดการกำราบเหล่าอาชญากรทั่วนครบาลจนหัวหด พล.ต.ต.คงเดช ชูศรี นักสืบต้นตำรับตำรา “พันธุ์ดุ” แต่ไม่เคยรังแกคนดี ประกาศเป็นศัตรูขั้วตรงข้ามกับอิทธิพลนักเลง เจ้าพ่อ เจ้าแม่ มือปืนที่ต้องเลือกยืนระหว่าง คุก หรือ โลง หากไม่ยอมกลับเนื้อกลับตัว เลิกทำผิดกฎหมายจบ นรต.17 เริ่มต้นเป็น ผบ.หมวด นปพ.สภ.อ.เมืองราชบุรี ก่อนมาเลื่องชื่อในถิ่นนครบาลเหนือ เมื่อสมัยเป็นรอง ผกก.สส.น.เหนือ ผกก.น.3 ขึ้น รอง ผบก.น.เหนือ รอง ผบก.น.1 ถึงติดยศ “นายพล” ตำแหน่ง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี แล้วกลับกรุงมาเป็น ผบก.น.1 สุดท้ายโยกขึ้น ผู้ช่วย ผบช.ก.ก่อนเกษียณอายุราชการเมื่อปี 2543พิชิตแฟ้มคดีสำคัญมากมาย ถึงขั้นตามล่าข้ามโลกไล่จับ นายโส ธนวิสุทธิ์ ผู้กว้างขวางที่พัวพันสังหารผู้จัดการส่วนตัว พระเอกทูน หิรัญทรัพย์ ไปถึงประเทศสหรัฐอเมริกาเจ้าตัวยังหิ้วปีก “แคล้ว ธนิกุล” เจ้าพ่อเมืองหลวงเข้าห้องขังโรงพักดุสิต ข้อหา “ซ่องโจร”“นักเลงจะมาใหญ่กว่าตำรวจได้อย่างไร เจ้าพ่อตัวจริง คือกู ไม่ใช่มึง ถ้าจะมาแบบนอบน้อมถ่อมตน ถ้อยทีถ้อยอาศัยเราไม่ว่า เล่นมากร่างใหญ่กว่า อย่างนี้อยู่ร่วมโลกกันไม่ได้” พล.ต.ต.คงเดชประกาศไว้เพียงแค่ 3 เดือน เจ้าพ่อผู้มีอิทธิพลสมัยนั้นลั่นกลางเวทีงานวันเกิด“ถนนสายนี้กูยังเดินไม่ได้ หากไอ้คงเดชยังมีชีวิตอยู่”ไม่กี่เดือนต่อมาก็ถึงวันปิดบัญชี “แคล้ว ธนิกุล” แบบยังจับมือใครดมไม่ได้ถึงปัจจุบันปฏิบัติการสาดห่ากระสุนถล่มสังหารเจ้าพ่อคนดังตายสยองบนถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี เขต อ.สามพราน จ.นครปฐมครั้งนั้น ว่ากันว่า “อาจารย์คง” รู้ฉากอำมหิตดีที่สุดเขาคือตำนานผู้ล่วงลับที่น่านับถือหัวใจของความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์.สหบาท