ป่าชุมชนบุญเรือง ต.บุญเรือง อ.เชียงของ จ.เชียงราย เป็นอีกหนึ่งต้นแบบในการต่อสู้ของชาวบ้านที่ลุกฮือกันคัดค้านการรุกล้ำที่สาธารณประโยชน์จนได้รับชัยชนะ และสามารถคว้ารางวัล “อิเควเตอร์” ของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (Equator prize : UNDP)ผืนป่าชุ่มน้ำแห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 3,000 ไร่ มีแม่น้ำอิง ลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขงเป็นสายเลือดหล่อเลี้ยงพันธุ์ไม้สัตว์น้ำนานาชนิดและชุมชนมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เคยเป็นพื้นที่นำเสนอให้รัฐบาลพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ อ้างว่าเป็นป่าเสื่อมโทรม แต่ชาวบ้านไม่เห็นด้วยในที่สุดภาครัฐไม่อาจดื้อรั้นและฝ่าฝืนความต้องการของพลังมวลชนได้นายกฤชเพชร เพชระบูรณิน รอง ผวจ.เชียงราย เผยว่า ภาคราชการต้องฟังเสียงประชาชน เมื่อชาวบ้านต่อต้าน และมีรางวัลระดับโลกมารับรองว่าป่าผืนนี้ควรค่าต่อการอนุรักษ์ ต่อไปส่วนราชการจะร่วมมือกันต่อยอดเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชนในป่าผืนนี้ คงไม่มีการทำลายสภาพเดิมอีกต่อไปส่วนการขึ้นทะเบียนเป็นป่าชุ่มน้ำ (Wetlands) ตามอนุสัญญาแรมซาร์ (Ramsar Convention) หรืออนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ จังหวัดพร้อมผลักดันเต็มที่ ล่าสุดอยู่ระหว่างพิจารณาของคณะอนุกรรมการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.)นายวิชา นรังศรี คณะทำงานพื้นที่ชุ่มน้ำ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ป่าลุ่มน้ำอิงเป็นหนึ่งเดียวใน ประเทศไทยที่ไม้ยืนต้นถูกน้ำท่วมแล้วไม่ตาย เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำแหล่งเดียวที่ชาวบ้านเข้าถึงได้มากที่สุด หากป่าชุมชนบุญเรืองได้รับการขึ้นทะเบียนก็จะเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำโลกลำดับที่ 16 ของไทยนายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ กล่าวว่า ปัญหาใหญ่คือน้ำอิงเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำโขง แต่น้ำโขงเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เพราะจีนสร้างเขื่อน 11 แห่งกั้นขวางทางน้ำ เกิดความแห้งแล้ง น้ำไม่ท่วมเหมือนทุกๆปี ทำให้เกิดวิกฤติของระบบนิเวศขณะที่ชาวบ้านยืนยันว่าป่าผืนนี้สมบูรณ์กว่าป่าเสื่อมโทรมหลายเท่า หากมีการพัฒนายกระดับขึ้นทะเบียนเป็นป่าชุ่มน้ำโลกก็จะเป็นเกราะป้องกันสร้างความมั่นใจได้ว่าป่าแห่งนี้จะไม่เปลี่ยนสภาพพื้นที่ใช้ประโยชน์อย่างอื่น.ปิยนันท์ จิตต์แจ้ง