รอฟันผิด 3 ข้อหา ปลัดนัดพบด้วยตำรวจออกหมายเรียก “ฌอน บูรณะหิรัญ” ไลฟ์โค้ชชื่อดังเข้าพบในวันที่ 14 ก.ค. ชี้แจงเงินบริจาคช่วยดับไฟป่า จ.เชียงใหม่ หากพบเข้าข่ายความผิดมีโทษหนัก 3 ข้อหา ส่วนปลัดอำเภอแม่ริมทำหนังสือเรียกนายฌอนเข้าพบภายใน 7 วัน ชี้แจงประเด็นคาใจ ยืนยันยังไม่ได้รับเอกสารการเรี่ยไร ภายหลังนายฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชคนดังออกมาชี้แจงรายละเอียดยอดเงินบริจาคดับไฟป่าโพสต์คลิปลงเฟซบุ๊ก อ้างสาเหตุที่หายตัวไป เพราะไปรวบรวมเอกสาร และข้อมูลการรับเงินบริจาคใช้ในกิจกรรมดับไฟป่าในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ระบุยอดเงิน 1,346,887.73 บาท หากส่งมอบเงินบริจาคให้หน่วยงานตามวัตถุประสงค์ จะแจ้งให้ทราบทันที พร้อมกับขอโทษเหตุที่ไม่รอบคอบ และการสื่อสารผิดพลาด ถือเป็นบทเรียนจะไม่ทำผิดซ้ำอีกความคืบหน้า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 8 ก.ค. นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนเพื่อความยุติธรรม และนายปิยณัฐ สุกยัง เลขาธิการเครือข่ายฯ นำเอกสารการแสดงบัญชี ยอดเงินบริจาคของนายฌอน บูรณะหิรัญ ตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.-1 ก.ค. เป็นหลักฐานเพิ่มเติมมอบให้กับ พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายฌอน บูรณะหิรัญ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. กล่าวหาว่านำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และ พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาตนายรณณรงค์เปิดเผยว่า นำเอกสารการบริจาคเงินจากประชาชนช่วยเหลือดับไฟป่าที่ จ.เชียงใหม่ ตนก๊อบปี้จากเพจของนายฌอนทั้งหมดจำนวน 170 หน้า นำมามอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน ในส่วนตัวยังติดใจในหลายประเด็น นายฌอนแจ้งว่าบัญชีที่รับบริจาคมีอยู่หลายบัญชี ทั้งบัญชีส่วนตัว บัญชีที่รับบริจาค และบัญชีบริษัท นายฌอนต้องออกมาชี้แจ้งว่า ยอดเงินบริจาคมีจำนวนเท่าไหร่กันแน่ หลังจากนี้ตนจะประสานตำรวจให้ออกหมายเรียกโตโน่-ภาคิน นักร้องและนักแสดงชื่อดัง เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ในเรื่องเงินบริจาค 100,000 บาท ร่วมดับไฟป่า จ.เชียงใหม่ ในฐานะผู้เสียหายด้วยด้าน พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ตำรวจออกหมายเรียกนายฌอน บูรณะหิรัญ ให้มาพบตำรวจในวันที่ 14 ก.ค. เวลา 09.30 น. เพื่อสอบปากคำในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากการสอบปากคำพบว่า เข้าข่ายในความผิดใด พนักงานสอบสวนจะแจ้งความผิดเป็นรายข้อหา ประกอบด้วย เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ร.บ.การเรี่ยไร และฉ้อโกงประชาชนพ.ต.อ.พงศ์จักรกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ ตำรวจส่งหมายเรียกขอเอกสารออกไปยัง 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย 1.สำนักงานใหญ่ธนาคารกสิกรไทย เพื่อขอเอกสารบัญชีเลขที่ 150-834-6042 ที่เปิดรับบริจาค ขณะนี้ได้รับเอกสารจากธนาคารเรียบร้อยแล้ว ตรวจสอบเบื้องต้นมียอดเงินเหลือค้างในบัญชีจำนวน 1,053 บาท 2.หนังสือถึง ผวจ.เชียงใหม่ เรื่องขอตรวจสอบการขออนุญาตทำการเรี่ยไร 3.หนังสือถึง ผอ.สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 จ.เชียงใหม่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช เรื่องการได้รับบริจาคสิ่งของหรือไม่ และ 4.นายอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ เรื่องขอตรวจสอบการขออนุญาตทำการเรี่ยไร ตำรวจส่งหนังสือไปตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ขอเป็นการเร่งด่วน เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจขณะที่นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทำหนังสือเรียกนายฌอน บูรณะหิรัญ มาชี้แจงในเรื่องการเรี่ยไรและรับบริจาคเงินช่วยเหลือดับไฟป่า จ.เชียงใหม่ ส่งไปตามที่อยู่ของนายฌอน เป็นที่อยู่ตามกฎหมายระบุไว้ ให้มาแสดงตัวพร้อมหลักฐานใบขออนุญาตเรี่ยไร ภายใน 7 วัน ที่ว่าการอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ เป็นการชี้แจงตามกฎหมาย เมื่อมีการเรี่ยไรในพื้นที่ เป็นเรื่องปกติที่จะต้องตรวจสอบ สิ่งที่สำคัญอันดับแรกต้องขอใบอนุญาตการเรี่ยไร หากไม่มีใบอนุญาตจะมีความผิดเมื่อถามว่า นายฌอนแจ้งส่งเอกสารบางส่วนมาให้ที่ อ.แม่ริม ได้รับหรือยังนายบุญญฤทธิ์ตอบว่า ที่ผ่านมายังไม่มีใครเคยเห็นเอกสารของนายฌอน การที่นายฌอนออกมาชี้แจงแล้วนั้นเป็นสิ่งที่ดี อย่างน้อยยังทราบว่ารับบริจาคจริง และประชาชนโอนเงินผ่านธนาคารจริง แต่ยังมีอีกหลายประเด็นยังไม่ชัดเจน อยากให้นายฌอนเข้ามาให้การกับตนเพื่อหาทางแก้ไข แต่ถ้าไม่มาสามารถส่งเอกสารชี้แจงมาได้ การเรี่ยไรต้องขออนุญาต หากไม่ขอจะมีความผิดตามกฎหมาย โทษจำคุก 6 เดือนนายบุญญฤทธิ์เปิดเผยอีกว่า ขณะนี้เพิ่งได้รับหนังสือขอเอกสารจากตำรวจ สภ.ปากเกร็ด เรื่องการอนุญาตเรี่ยไรหรือไม่ และนำเงินไปช่วยเหลือ ตามวัตถุประสงค์เกี่ยวกับไฟป่าหรือไม่ ตนแจ้งตำรวจให้ทราบแล้ว หากตำรวจจะเรียกตัวไปพบพร้อมจะให้ความร่วมมือ และยังทราบว่ามีหนังสือไปหลายอำเภอรวมทั้ง ผวจ.เชียงใหม่ ด้วย อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังนายสราวุธ วรพงษ์ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ ว่า มีหนังสือชี้แจงหรือการติดต่อมาจากนายฌอนหรือไม่ นายสราวุธตอบว่า หลังจากเกิดเรื่องขึ้น ไม่ได้รับการติดต่อใดๆจากนายฌอน เรื่องนี้คงให้ อ.แม่ริม ดำเนินการไปส่วน พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า นายฌอนออกมาชี้แจงเป็นสิ่งที่ดี นายฌอนเป็นคนดีเกี่ยวกับเรื่องการสอนคน แต่อาจจะไม่รู้เรื่องอะไรตรงนี้ ตนเคยเตือนไปแล้ว ไม่ใช่มีเพียงนายฌอนคนเดียวที่รับบริจาค ยังมีคนอื่นด้วยมีข้อมูลที่แย่กว่านายฌอน ตนเคยนำเรื่องนี้เสนอต่อจังหวัดไปแล้ว แต่เรื่องเงียบมาถึงทุกวันนี้