ในวันที่ 10 มิ.ย.63 นี้ รถไฟฟ้าสายสีทองขบวนแรกจากประเทศจีนจะเดินทางมาถึงประเทศไทย บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) เตรียมพร้อมรับขบวนรถไฟฟ้าลอตแรกซึ่งจะนำไปจอดที่ศูนย์ซ่อมบำรุงที่สถานีกรุงธนบุรี เพื่อเตรียมทดสอบระบบในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายน และคาดว่ารถไฟฟ้าสายสีทองจะเปิดให้บริการประชาชนได้ปลายปีนี้“รถไฟฟ้าสายสีทอง” เป็นโครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรองของ กทม.ที่มอบหมายให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) วิสาหกิจของ กทม. เป็นผู้ดำเนินการโครงการ โดยระยะแรก มีเส้นทางจากสถานีกรุงธนบุรี-สถานีสำนักงานเขตคลองสาน จำนวน 3 สถานี ระยะทางประมาณ 1.8 กม. ทั้งนี้ เคทีได้ว่าจ้าง บมจ.อิตาเลียนไทยฯ เป็นผู้ดำเนินงานก่อสร้างงานโยธา งานระบบราง และงานก่อสร้างสถานีในงบประมาณ 1,070 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเมื่อต้นปี 2561 ส่วนการบริหารจัดการเดิมเคทีได้ว่าจ้าง บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (บีทีเอส) ให้เป็นผู้เดินรถพร้อมจัดหารถไฟฟ้ามาให้บริการ กำหนดสัญญา 30 ปี วงเงินจ้างเดินรถ 13,250 ล้านบาททั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีทองได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างจากบริษัท ไอคอนสยาม จำกัด (ศูนย์การค้าไอคอนสยาม) เป็นจำนวนเงิน 2,080 ล้านบาท โดยบริษัทขอสิทธิสัมปทานในการบริหารพื้นที่และการโฆษณาภายในสถานีเป็นเวลา 30 ปี กรรมการผู้อำนวยการบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) “มานิต เตชอภิโชค” กล่าวว่า เนื่องจากมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้การจัดส่งขบวนรถไฟฟ้าสายสีทองต้องเลื่อนจากเดิมคือช่วงเดือนเมษายน 2563 อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางบริษัทผู้ผลิตในจีน ได้จัดส่งขบวนรถไฟฟ้าขบวนแรก (ขบวนละ 2 ตู้โดยสาร) มาแล้ว จะมาถึงไทยในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ จากจำนวนที่จัดซื้อทั้งหมด 3 ขบวน ส่วนขบวนที่เหลือจะจัดส่งมาภายหลัง รถไฟฟ้าดังกล่าวเป็นรุ่น Bombardier Innovia APM 300 ผลิตที่เมืองอู่หู มณฑลอานฮุย จีน เมื่อรถมาถึงและผ่านพิธีการทางศุลกากรแล้ว เคทีจะนำขบวนรถไฟฟ้ายกขึ้นสู่โรงจอดและซ่อมบำรุงที่สถานีกรุงธนบุรี เพื่อทดสอบระบบในช่วงเดือน มิ.ย.ถึง ก.ย.63 คาดว่าจะเปิดให้บริการช่วงปลายปีนี้รถไฟฟ้ารุ่น Bombardier Innovia APM 300 มีความพิเศษคือ เป็นรถไฟฟ้ารูปแบบไร้คนขับ ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยใช้รางนำทาง มีผิวสัมผัสระหว่างล้อและทางวิ่งเป็นยาง ซึ่งจะทำให้เกิดความนุ่มนวลและก่อให้เกิดเสียงรบกวนต่ำ ความเร็วการทำงานสูงสุดที่ 80 กิโลเมตร/ชั่วโมงทั้งนี้ ขบวนรถไฟฟ้าที่ใช้ในระบบ ระยะแรกมีทั้งหมด 3 ขบวน ขบวนละ 2 ตู้ ใช้รับส่งผู้โดยสารจำนวน 2 ขบวน และสำรองไว้ในระบบ 1 ขบวน ความจุผู้โดยสาร 137 คน/ขบวน สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 4,200 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง รถไฟฟ้ามีความกว้าง 2.8 เมตร ความยาว 12.75 เมตร ความสูง 3.5 เมตร ประตูมีความกว้าง 1.9 เมตร ความสูงของพื้นรถ 1.1 เมตร น้ำหนัก 16,300 กิโลกรัมสำหรับความคืบหน้างานก่อสร้างโรงจอดและซ่อมบำรุง รวมถึงสถานีกรุงธนบุรี (G1) สถานีเจริญนคร (G2) และสถานีคลองสาน (G3) ความก้าวหน้าภาพรวม 88% แบ่งออกเป็นความก้าวหน้างานโยธา 93% และความก้าวหน้างานระบบการเดินรถ 81%ส่วนอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีทอง อยู่ระหว่างการศึกษาและพิจารณาอัตราที่เหมาะสม.