ตำรวจสายตรวจระงับเหตุเชฟโรงแรมคลั่งบุกทวงเงินเดือนถือมีดอาละวาด พอตำรวจสั่งให้วางมีดทำทีวางลงพื้นยอมมอบตัว แต่ พอ ส.ต.อ.สายตรวจเข้าประชิดตัวจะใส่กุญแจมือกลับคว้ามีดแทงโดนมือบาดเจ็บ เลยชักปืน 9 มม.ออกมายิงพื้นแต่กระสุนแฉลบโดนหัวดับ ขณะที่พี่ชายผู้ตายกังขาไม่เชื่อยิงพื้นแต่จ่อยิงหัวจนเสียชีวิตเรียกร้องหาความยุติธรรม เผยผู้ตายเป็นเสาหลักของครอบครัวมีลูกน้อยวัยเพียงขวบเศษต้องดูแลตำรวจสายตรวจยิงเชฟโรงแรมที่บุกทวงเงินเดือนดับรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 7 ก.ย. ร.ต.ท.อริส พวงไสว รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุมียิงกันเสียชีวิตที่ลานจอดรถโรงแรมนิวซีวิว รีสอร์ต แอนด์ สปา ต.นาเกลือ อ.บางละมุง รีบรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ไปสอบสวนที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ท.กรณ์ สมคะเณย์ รอง ผกก.(ป.) พร้อมตำรวจสายตรวจและเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ที่เกิดเหตุเป็นลานจอดรถทัวร์หน้าโรงแรมพบศพนายประจักษ์ชัย ศิริเวช อายุ 35 ปี เชฟของโรงแรมดังกล่าว นอนเสียชีวิตในสภาพคว่ำหน้ามีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ เลือดไหลนองพื้น ข้างศพพบมีดปลายแหลม 1 เล่ม กับปลอกกระสุนปืน 9 มม. 1 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำศพส่ง รพ.บางละมุง เพื่อส่งสถาบันนิติเวชชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายประจักษ์ชัยถูกตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองพัทยา 2 คนใช้ปืนยิงและหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองนายได้เดินทางไปให้ปากคำที่ สภ.เมืองพัทยา ภายหลังผู้สื่อข่าวตามไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ สภ.เมืองพัทยา แต่ไม่พบตำรวจสายตรวจทั้งสองนายและไม่มีนายตำรวจที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูล แต่จากการสอบถามพยานที่มาให้การทราบว่า ขณะที่ ส.ต.อ.รุ่งนิรันดร์ จันทร์มา กับ ส.ต.ท.ณัฐวุฒิ หัวทองเขียว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สายตรวจ สภ.เมืองพัทยา ออกปฏิบัติหน้าที่สายตรวจได้รับแจ้งเหตุมีชายคลุ้มคลั่งถืออาวุธมีดเดินเข้าไปภายในโรงแรมนิวซีวิว รีสอร์ต แอนด์ สปา รีบไปตรวจสอบเหตุตามที่แจ้งเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพนักงานโรงแรมแจ้งว่า นายประจักษ์ชัยทำงานเป็นเชฟโรงแรมดังกล่าว อยู่บริเวณชั้น 3 ของโรงแรม ตามไปตรวจสอบแต่นายประจักษ์ชัยวิ่งหนีลงมายังบริเวณลานจอดรถหน้าโรงแรม ส.ต.อ.รุ่งนิรันดร์กับ ส.ต.ท.ณัฐวุฒิติดตามมาพบนายประจักษ์ชัยมีอาการคลุ้มคลั่งยืนถือมีดปลายแหลม ส.ต.อ.รุ่งนิรันดร์ตะโกนสั่งให้นายประจักษ์ชัยวางมีดลงบนพื้น นายประจักษ์ชัยยอมวางมีดพร้อมหมอบลงกับพื้นให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนั้น ส.ต.อ.รุ่งนิรันดร์เดินเข้าไปเพื่อควบคุมตัว โดยมี ส.ต.ท.ณัฐวุฒิยืนคุ้มกัน จังหวะที่ ส.ต.อ.รุ่งนิรันดร์เดินประชิดตัวปรากฏว่านายประจักษ์ชัยได้คว้าเอามีดที่วางอยู่ที่พื้นโดดจ้วงแทง ส.ต.อ.รุ่งนิรันดร์แต่ ส.ต.อ.รุ่งนิรันดร์ใช้กระบองป้องกันมีดแฉลบไปถูกมือขวาของ ส.ต.อ.รุ่งนิรันดร์ได้รับบาดเจ็บนายประจักษ์ชัยยังไม่หยุดคลั่งพยายามต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ต.อ.รุ่งนิรันดร์เลยชักปืนประจำกาย 9 มม. ออกมาขู่ให้หยุดก่อนยิงลงพื้นเพื่อป้องกันตัว 1 นัด กระสุนแฉลบไปโดนศีรษะของนายประจักษ์ชัยทำให้เสียชีวิตดังกล่าวขณะที่นายสมใจ ศิริเวช อายุ 37 ปี พี่ชายผู้ตายเปิดเผยว่า น้องชายทำงานที่โรงแรมแห่งนี้ประมาณ 3 ปี วันนี้ผู้ตายมาทวงเงินเดือนที่ยังไม่ออกเลยทำให้เครียดคลุ้มคลั่ง พนักงานโรงแรมเลยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาระงับเหตุ หลังผู้ตายวางมีดลงกับพื้นแล้วลุกจะพุ่งเข้าหาตำรวจเลยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเข้าที่ศีรษะจนฟุบลงกับพื้นกระทั่งเสียชีวิต“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมยังทำใจไม่ได้ที่สูญเสียน้องชาย รู้สึกติดใจในการระงับเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทำเกินกว่าเหตุ ผมอยากขอความเป็นธรรมให้กับน้องชายเพราะเขาเป็นเสาหลักของครอบครัวและมีลูกน้อยวัยขวบเศษต้องดูแลอีกด้วย” นายสมใจกล่าวต่อมา พ.ต.ท.กรณ์ สมคะเณย์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจครั้งนี้ถือถูกต้องตามหลักยุทธวิธีและถูกต้องตามกฎหมายซึ่งก่อนที่ตำรวจจะตัดสินใจวิสามัญฆาตกรรมได้เกลี้ยกล่อมคนร้ายแล้ว เมื่อเห็นว่าคนร้ายทิ้งมีดแล้วจึงเข้าประชิดเพื่อใส่กุญแจมือ แต่กลับกลายเป็นว่าคนร้ายหยิบมีดขึ้นมาอีกครั้งแล้วพยายามจ้วงแทงเจ้าหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บ ทำให้จำเป็นต้องยิงแต่ไม่ได้หมายเอาชีวิตโดยหันปากกระบอกลงพื้นก่อนลั่นไก แต่หัวกระสุนได้แฉลบพื้นก่อนถูกนายประจักษ์ชัยเสียชีวิต อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งพร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อหาความเป็นธรรมให้ทั้งสองฝ่ายต่อไป