คดี พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.ดส.บช.น. พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล สว. (ชุดปฏิบัติการที่ 1) กก.ดส.บช.น. จับกุม นายกฤษณ์หรือเอ็ม รอดบุญเกิด อายุ 33 ปี นายสุรศักดิ์ หรือหนึ่ง เกลี้ยงโอวาท อายุ 31 ปี และ นายจีรพันธ์ หรือจี ใจก้อนแก้ว อายุ 26 ปี ตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น”จับกุมได้ที่หมู่บ้านร่วมใจ หมู่ที่ 9 ต.หนองกินเพล อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เป็นเรื่องสืบเนื่องชุด กก.ดส.บช.น. จับกุมนายนนท์ ผู้ต้องหาคดีครอบครองยาบ้า 6,000 เม็ด และยาไอซ์ 150 กรัม สมาชิกแก๊งยาเสพติด “แก๊งยันหว่าง” ก่อนส่งพนักงานสอบสวน สน.บางกอกใหญ่ ดำเนินคดีต่อมาได้มีบุคคลแอบอ้างเป็น พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล กก.ดส.บช.น. ใช้ชื่อว่า “รองตั้ม” โทรศัพท์ติดต่อไปที่ญาติผู้ต้องหาและใช้กลอุบายพูดหลอกล่อว่าสามารถวิ่งเต้นช่วยเหลือคดีได้ต้องจ่ายเงิน 1 แสนบาทญาติผู้ต้องหาหลงกลเชื่อว่าสามารถช่วยเรื่องทางคดีได้จริง จึงโอนเงินให้คนร้ายไป 1 แสนบาท แต่ติดต่อคนร้ายไม่ได้ เมื่อรู้ว่าถูกหลอกจึงได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สน.บางกอกใหญ่ชุด กก.สด.บช.น. ไล่ล่าคนร้ายกลุ่มนี้ เพราะพฤติการณ์อุกอาจเป็นภัยอันตรายต่อสังคม ซ้ำเติมญาติผู้ต้องหาที่เป็นทุกข์อยู่แล้ว ตามจับ นายจีรพันธ์ หรือจี และนายสุรศักดิ์ หรือหนึ่ง ทำหน้าที่เรื่องโอนเงิน ก่อนขยายผลไปจับ นายกฤษณ์ หรือเอ็ม หัวหน้าขบวนการนายกฤษณ์รับสารภาพว่า เคยถูกจับกุมในคดีฉ้อโกง ปี 2554 ซึ่ง เป็นพฤติการณ์เดียวกัน ตอนนั้นอ้างตัวเป็น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีต ผบ.ตร. ช่วยวิ่งคดีได้ ญาติผู้ต้องหาได้โอนเงินให้ 2 แสนบาทถูกตำรวจจับกุม และถูกศาลสั่งจำคุกเป็นเวลา 1 ปี เมื่อออกมาทำอาชีพเลี้ยงไก่ขาย แต่รายได้ไม่พอ จึงได้ทำการสุ่มโทรศัพท์ไปยังสถานีตำรวจต่างๆทั่วประเทศหาข้อมูลกลุ่มผู้ที่ถูกจับคดียาเสพติดก่อนใช้กลอุบายว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม พูดจาหว่านล้อมทางญาติว่าจะสามารถช่วยเหลือวิ่งเต้นคดีได้ ซึ่งก่อเหตุมานานแล้วกว่า 3 เดือน หลอกผู้เสียหายจำนวน 25 ครั้ง ได้เงินไปประมาณ 25 ล้านบาทส่วนเงินที่ได้นำไปแบ่งกัน แล้วเอาไว้ใช้เที่ยวเตร่ตามสถานบันเทิงต่างๆผกก.ดส.บช.น. ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังญาติของผู้ต้องหาในคดีต่างๆที่ถูกจับกุมว่า ไม่มีใครช่วยเหลือท่านได้ โดยเฉพาะคดียาเสพติด หากมีใครติดต่อมาก็ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าถูกหลอกหากไม่ได้กระทำผิด ก็ไม่มีใครจับได้.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.th