ราวสามสี่ปีที่แล้ว...ผมใช้หนี้น้ำใจที่ติดค้างไว้สิบกว่าปีที่แล้ว ยื่นพระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ฐานแซม สภาพใช้...ให้คุณธานี ซีพีออลล์ แนะนำให้ไปหาตลับแขวนคอ... คุณธานีตอนนั้น ไม่เคยสนใจเรื่องพระเครื่องมาก่อน ก็รับไว้หลายเดือนต่อมา ก็ดูเหมือนว่า รักพระสมเด็จฯขึ้นแล้ว ก็นำพิมพ์อื่นๆมาให้ดูอีกหลายองค์มาถึงวันนี้ คุณธานีบอกใครต่อใคร...ไม่รักจะเล่นพระวัดไหน ขอเล่นสมเด็จวัดระฆัง...วัดเดียว จะดูฝันไกลไปหรือไม่...? ก็ไม่รู้ เจอกันตามวาระแต่ละที น้องใหม่คนนี้มีพระสมเด็จวัดระฆังแท้...ต่างสภาพ มากกว่าสี่ห้าองค์องค์ในคอลัมน์วันนี้ พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ถ้าจะให้ดีกว่า ควรดูภาพสีขยายใหญ่เล็กได้ จากไทยรัฐออนไลน์ (ตอนนี้ต้องเสียตังค์แล้วครับ) แล้วค่อยๆดูพร้อมๆกันไปด้านพิมพ์ทรงองค์นี้ เป็นพิมพ์ใหญ่ มาตรฐานกลางๆ ทุกเส้นสายลายพิมพ์ รวมตำหนิพิมพ์ ครบสูตร...ไม่มีจุดสะดุดตา...มาถึงเนื้อหา...ที่ต้องพิจารณาไปพร้อมกับสภาพพระที่สึกช้ำ กำลังงาม เปิดให้เนื้อขาวอมเหลือง ส่วนที่ถูกจับต้อง นุ่มซึ้งตา ระดับความซึ้งถึงจุดที่คนเป็นพระ ที่ “แม่นเนื้อ” ตัดใจได้ทันที นี่คือพระแท้ ดูง่ายส่องแว่นขยายสิบเท่า... เปลี่ยนมุมเจาะลึกในเนื้อพระ จะเห็นรูพรุนปลายเข็ม...ปะปนอยู่กับเม็ดมวลสาร...กากดำ เม็ด แดง ก้อนขาว เนื้อพระสมเด็จฯแท้...ที่ดูผิวเผิน ราบ เรียบ แต่เอาเข้าจริง ไม่ราบไม่เรียบ...ทุกองค์เป็นเช่นนี้ดูผ่านเลยเนื้อที่สึกช้ำ เข้าไปถึงพื้นผนัง...ซึ่งยังคงผิวพระที่ดูดซับฝ้ารัก...แดงปนน้ำตาล...ที่ลอกล่อนออกไปหมดแล้ว พื้นผนังพระสมเด็จฯแท้...มีหลุมร่อง รอยยุบรอยแยก... รูปพรรณสัณฐานต่างๆ แต่ที่เห็นเจนตา คือ หลุมที่มีเม็ดมวลสาร...ดูให้แน่ๆ ก้อนขาวหรือเม็ดแดง...บางองค์อาจมี “กรวดเทา” ก็ได้คนที่หลงรักพระ ส่องแล้วส่องเล่า จนถูกเรียก “ขุนส่อง” ส่องเพื่อดูให้เห็นประจักษ์ตา...สีสันเม็ดมวลสารนั้น...“อย่างไร” ดูแล้วก็จำไว้...เจอสภาพนี้แล้ว เปลี่ยนจุดส่องไปดูตำแหน่งอื่น ดูจุดต่อๆไปถ้าดูตาเปล่า แล้วก็เข้าแว่นดูต่อ ดูและดู จนแน่ใจว่าถึงขั้น “ชำนาญเนื้อ” แล้วจึงค่อยๆ เปลี่ยนไปดูส่วนอื่นๆเอ้า! สมมติให้จบด้านหน้า...แค่นี้ พลิกองค์พระ ดูขอบข้าง...ทั้งสี่ด้านต้องทำความเข้าใจ เนื้อหาและพิมพ์พระด้านหน้า...ที่เราเห็นจากการกดแม่พิมพ์ แล้วยกขึ้น แต่ด้านข้าง...ภาษาครูท่านว่า “ใช้ตอก” ตัด...คนพิมพ์พระสมเด็จจะใช้ตอกหรือใช้ของมีคม...สักอย่างตัดก็จะเกิดกรณีที่เห็นเป็นหลุมร่องทั้งเล็กใหญ่ ก้อนขาวที่ถูกเฉือน กากดำ หรือเม็ดแดง ถ้ามีจะเห็นชัดเจนกว่าด้านหน้าด้านหลังและหลุมร่องด้านข้างที่ว่า...ผ่านกาลเวลาอายุพระ 160 ปี ก็จะมีวัสดุสีดำแกมน้ำตาล ...วัสดุนั้นแท้จริงคือชิ้นรักที่ดูดซับคราบฝุ่นผงเอาไว้ ถือเป็นวัตถุพยานสำคัญของพระแท้ ประการหนึ่งแล้วก็มาถึงด้านหลัง...หลังพระสมเด็จฯ...ที่เห็นผิวเผินว่าราบเรียบนั้น...แท้จริงซ่อนสัญลักษณ์ธรรมชาติมากมายหลายแบบเอาไว้...หลังองค์ในคอลัมน์ ดูเหมือนหลุมเล็กขรุขระ แต่มองภาพรวม จะเป็นหลังกาบหมาก ละเอียดลางๆ จะมโนเรียก หลังสังขยา หรือรอยย่นตะไคร่น้ำ ก็ตามใจ...ไม่ว่ากันขอบอกมิตรรักนักเลงพระสมเด็จฯให้รู้ไว้ หลังแบบนี้ ถือเป็นหลังสัญลักษณ์ หลังสมเด็จวัดระฆังแท้ ที่เพิ่มค่าให้ดูเข้มขลัง เข้าโฉลกมากกว่าหลังแบบอื่นถ้าเจอหลังแบบนี้...แทบไม่ต้องพลิกดูแม่พิมพ์ด้านหน้า คนเป็นพระเขาตัดสินว่า “พระแท้”เอาเป็นว่า จบเรื่องข้อพิจารณา สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ องค์คุณธานี แค่นี้ขอหันไปพูดถึงเจ้าของพระ...ที่ยืนยัน เล่นพระสมเด็จฯอย่างเดียว ประสบการณ์สามสี่ปี ซื้อพระด้วยตาเดียว ถือพระมั่นคงได้ในมือ โดยไม่ต้องหันรีหันขวาง ผ่านเซียนวงการ ได้พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ สภาพงาม ง่ายได้ขนาดนี้ ถือว่าเป็นศิษย์เอกที่ครูยอมให้สอบผ่าน...ทันทีวันนี้ ขอจบด้วยประโยคเข้าสมัย...คนรักพระสมเด็จฯไหนๆก็นิยมเรียกองค์คุณมนตรี องค์เฮียเหลากันมานาน วันนี้ผมขอเสนอสมเด็จฯองค์คุณธานี...เข้าทำเนียบไว้ให้ดูเป็นองค์ครูอีกองค์.พลายชุมพลคลิกอ่านคอลัมน์ “ปาฏิหาริย์จากหิ้งพระ” เพิ่มเติม