เปิดสนามพระวิภาวดี ก็เห็นผู้คนผ่อนคลายหน้าตาสบายใจขึ้น ถามไถ่กัน อ๋อ เป็นผลจาก คนละครึ่งพลัส ซึ่งมีคนลงทะเบียนทันเกือบ 20 ล้านคน ซึ่งตั้งแต่เปิดใช้เมื่อ 29 ต.ค. จนถึงวันนี้ พบว่ามีการช็อปปิ้ง (ส่วนใหญ่ก็อาหาร ของใช้จำเป็น) กันไปแล้ว 40,000 กว่าล้านบาทเงินที่ประชาชนทั่วประเทศ จ่ายครึ่งนึง ประมาณ 20,000 ล้านนั้น แน่นอนเลยว่าทำให้ เงินสะพัด จึงพยุงเศรษฐกิจที่ซึมๆให้ฟื้นได้ ถามพ่อค้าแม่ค้าทุกร้านก็บอกว่า ขายดีมาก อยากให้มีต่อไปรอได้เรยย์ เพราะปลัดคลัง ลวรณ แสงสนิท ยืนยันว่าเฟส 2 จะเปิดให้แย่งสิทธิ์อีกเดือนมกราคมปีหน้า และมีข่าวดีว่าคนที่ตกหล่นจากเฟสแรก (รวมทั้งสีกาอ่าง) อาจจะได้รับสิทธิ์คืน จึงจะได้เป็น 4,000 บาท--ก็ลงทะเบียนเฟส 2 ให้ทันละกัน พระสมเด็จ พิมพ์ฐานแซม วัดระฆังโฆสิตาราม ของ อิทธิ ชวลิตธำรง.เข้าสนามพระต่อ ดูองค์แรก พระสมเด็จ พิมพ์ฐานแซม วัดระฆังฯ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ นี่ เสี่ยอิทธิ ชวลิตธำรง จ่ายไปเป็นล้านๆ แม้พระจะสวยพองาม เพราะมีรอยลอกเนื้อรัก ที่บางจุดเนื้อหลุดหายไปหน่อย แต่ส่วนใหญ่ยังรักษา ผิวแป้งโรยพิมพ์ เดิมๆ ไว้พิมพ์พระทุกเส้นศิลป์เป็น “วัดระฆังฯ” ขนานแท้ มีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ของผงพุทธคุณ อิทธิเจ ปถมัง มหาราช ตรีนิสิงเห นวหรคุณ ที่ “สมเด็จโต” บรรจุไว้ด้วยพลังจิต และปลุก เสกด้วยพระคาถา “ชินบัญชร” อัดแน่นทุกอณู พระกริ่งธรรมโกษาจารย์ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์ ของอิทธิ ชวลิตธำรง.องค์ที่สอง ไม่ได้ดูนานแล้ว เพราะหายากมาก คือ พระกริ่งธรรมโกษาจารย์ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) วัดสุทัศน์ เสาชิงช้า กรุงเทพฯ ของ เสี่ยอิทธิชวลิตธำรง เหมือนกันสร้างขณะทรงสมณศักดิ์ที่ พระธรรมโกษาจารย์ ยุคแรก ระหว่างปี พ.ศ.๒๔๔๑-๒๔๔๗ โดยถอดพิมพ์พระกริ่งปวเรศ ปาดบัวหลังออก เป็นต้นแบบ เทหล่อแบบกริ่งในตัว ด้วยเนื้อ “นวโลหะ” ฝีมือแต่งโดย ช่างเชย เนื้อในเป็นสีนากอ่อน กลับขาว แล้วกลับดำ พระขุนแผน หน้าเทวดา กรุวัดบ้านกร่าง ของโต้ง คนสุพรรณ.อีกสำนักคือ พระกรุ พระเก่า ยอดนิยมเมืองสุพรรณฯ พระขุนแผน พิมพ์หน้าเทวดา กรุวัดบ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี พระพิมพ์เนื้อดินเผา รูปทรงกลีบบัว ด้านหน้าเป็นองค์พระนั่งปางมารวิชัย ในซุ้มเส้นคู่ลายกระจัง พุทธศิลป์สมัยอยุธยา ด้านหลังเรียบ เนื้อเป็นดินหยาบปนเม็ดกรวดทรายประวัติก็รู้กันอยู่แล้วว่า สมเด็จพระนเรศวร สร้างที่วัดนี้ เพื่อมอบทหารติดตัวบูชาคุ้มครอง เมื่อเสร็จศึกได้ชัยชนะ กลับมาพักทัพที่เดิม และสร้างองค์พระเจดีย์นำพระกลับไปบรรจุ จนปี พ.ศ.๒๔๔๕ ถึงพบพระนับหมื่นองค์ เป็นพระพิมพ์เนื้อดินเผา ส่วนใหญ่เป็นเนื้อหยาบ ที่เนื้อละเอียดมีน้อย และมีที่ลงรักปิดทองในกรุบางส่วนมีเป็นสิบพิมพ์ องค์คู่เรียกพระพลายคู่ องค์เดี่ยว เรียก พระขุนแผน แยกเป็นพิมพ์นิยม ทรงพลใหญ่ ห้าเหลี่ยมอกใหญ่-อกเล็ก พิมพ์ทรงพลเล็ก ข้างกนก เข่าตรง เข่านูน ใบไม้ร่วง เถาวัลย์เลื้อย หน้าฤๅษี หน้าเทวดา ฯลฯองค์นี้ของเจ้าถิ่น เสี่ยโต้ง คนสุพรรณ เป็นพิมพ์หน้าเทวดา สภาพสวยแชมป์เดิมๆแบบนี้ ต้องสู้ราคาถึงหลักแสน เพราะมั่นใจอานุภาพแคล้วคลาดคงกระพัน พุทธคุณด้านเมตตามหาเสน่ห์ก็ว่ามีเต็มร้อย พระหลวงปู่ทวด เนื้อว่าน รุ่นแรก พ.ศ.๒๔๙๗ พิมพ์พระรอดใหญ่ วัดช้างให้ ของฐิการ ศุภวิรัชบัญชา.องค์ต่อไปดู พระหลวงปู่ทวด พิมพ์พระรอด เนื้อว่าน รุ่นแรก พ.ศ.๒๔๙๗ พระครูวิสัยโสภณ (ทิม ธมฺมธโร) วัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ ปัตตานี พระพิมพ์เล็กในสกุลพระหลวงปู่ทวด เนื้อว่าน รุ่นแรก ที่เรียกเป็น พิมพ์พระรอด เพราะฟอร์มทรง พิมพ์พระ กะทัดรัด และยังนิยมแยกเล่นเป็น พิมพ์หน้าเล็ก กับ หน้าใหญ่ อย่างองค์นี้ ที่เห็นชัดว่ามีใบหน้าใหญ่เกินตัว ดูเข้มขลัง ตาจมูกปากติดชัดลึกจนดูเข้มขรึมทั่วองค์มีฝ้าไขขาวขึ้นจับผิวแน่นถึงเนื้อในที่อุดมด้วยมวลสาร ว่านดินกากยายักษ์ ด้านหลังปาดเรียบ ส่วนใหญ่มีเกล็ดเม็ดแร่ “กิมเซียว” ที่ได้จากเหมืองแร่ของ นายอนันต์ คณานุรักษ์ ประธานฆราวาสพิธีสร้าง ฝังอยู่ ที่ไม่มีเม็ดแร่มีน้อยมากเมื่อมีผู้นำไปใช้บูชาพบอานุภาพคุ้มครองป้องกันภัย นิรันตราย โดยเฉพาะภัยทางรถยนต์ ทำให้นิยมกันทั่วประเทศถึงมาเลเซีย สิงคโปร์ พระจึงหมดจากวัดอย่างรวดเร็ว และแพงขึ้นหลักล้านทุกพิมพ์ จึงยกย่องเป็น “พระสมเด็จเมืองใต้”--องค์สมบูรณ์สวยแชมป์เดิมๆ แบบนี้พอบอกว่าเจ้าของชื่อ เสี่ยฐิการ ศุภวิรัชบัญชา (คุณกบ Kerry) ก็ไม่มีใครแปลกใจ เหรียญหล่อพระพุทธ ข้างอุ เนื้อตะกั่ว หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ของบอล อู่ทอง.ถัดไปคือ พระพิมพ์เนื้อโลหะ รูปทรงสี่เหลี่ยม ขนาดเล็กมีเอก ลักษณ์ เหรียญหล่อพระพุทธ พิมพ์ข้างยันต์อุ เนื้อตะกั่ว พระครูวิมลคุณากร (หลวงปู่ศุข เกสโร) วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ ชัยนาทสร้างแบบเทหล่อโบราณ มีหลายพิมพ์ เช่น ข้างรัศมี ซุ้มเส้นคู่ ตัดชิดข้างยันต์ ด้านหลังเรียบ มักมีรอยลายมือจารอักขระยันต์ครู อย่างองค์นี้ของ เสี่ยบอล อู่ทอง ที่เป็นพระสมบูรณ์พองาม ผิวมีริ้วรอยสัมผัสใช้ เปิดเห็นเนื้อในที่มีไขตะกั่วเกิดขึ้น บอกอายุความเก่า ธรรมชาติ ด้านหลังมีลายมือจารบางเบา ดูมีพลังเข้มขลังน่าใช้บูชา เหรียญรอยพระพุทธบาท พิมพ์ใหญ่ เนื้อเงิน พ.ศ.๒๔๖๑ สมเด็จพระพุทธโฆษา จารย์ (เจริญ สุขบท) วัดเทพศิรินทร์ ของ ดร.มีชัย เถาเจริญ.สุดท้าย ดู เหรียญรอยพระพุทธบาท วัดเขาบางทราย พิมพ์ใหญ่ เนื้อเงิน พ.ศ.๒๔๖๑ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ สุขบท) วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร กรุงเทพฯ ของ ดร.มีชัย เถาเจริญสร้างออกสมนาคุณผู้ร่วมพิธีนมัสการรอยพระพุทธบาท วัดเขาบางทราย พ.ศ.๒๔๖๑ เป็นเหรียญปั๊ม ทรงกลม หูเชื่อม มี ๒ ขนาดใหญ่-เล็ก ด้านหน้าเป็นองค์พระพุทธ นั่งปางสะดุ้งมาร เหนือฐานบัว ล้อมด้วยเม็ดไข่ปลา กับอักขระหัวใจพระคาถาทุ สะ นิ มะ จะ พะ กะ สะ ด้านหลังเป็นรอยพระพุทธบาท ล้อมด้วยอักขระยันต์แบบเดียวกัน--เป็นเหรียญพิมพ์ใหญ่ เนื้อเงิน สภาพสวยแชมป์ รายละเอียดคมจัด ชัดลึก ผิวเนื้อเดิมๆ ดูง่ายสบายตาอย่างคลาสสิกลาด้วยเรื่องปิดท้าย ในตลาดใหญ่ใกล้กรุงเทพฯ ซึ่งมีแผงพระไปเปิดปะปนกับแผงผัก แผงอาหาร ร้านโชห่วย ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่ผัวขายพระ เมียขายผัก ขายข้าวแกงเจ้าของแผงพระที่ไม่ค่อยมีลูกค้าเพราะคนไม่มีเงิน ก็ไม่มีอะไรทำ จึงถูกเมียสั่งให้ไปช่วยขายข้าวแกง เพราะขายดีมาก ลูกค้ารุมพอเห็นลูกค้าคนนึงในชุดข้าราชการ เจ้าของแผงพระก็ถามว่า เฮียทำงานที่ไหน พอลูกค้าบอกว่าอยู่กระทรวงการคลัง พ่อค้าพระก็ยิ้มเอาใจ สั่งอะไรก็ตักแถมให้ และบอกว่า อยากฝากไปบอกผู้ใหญ่ว่า ให้ใช้ คนละครึ่งซื้อพระ ได้มั่งจะได้ไหม แล้วก็หยิบพระใหม่มาให้ดู ชี้ชวนว่าวัดนี้ก็ดัง วัดนี้ก็ขลัง ราคาหลักร้อยเอง คนละครึ่ง ก็พอซื้อได้สบายแต่ยังคุยไม่จบก็ถูกเมียที่กำลังยุ่งขายข้าวแกงตวาดแว้ด หยุดเลย อย่าแย่งลูกค้า ใครเขาจะซื้อพระกัน กินก็ไม่ได้ ผัวก็เลยต้องเงียบ กลับไปช่วยตักแกงขาย เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.สีกาอ่างคลิกอ่านคอลัมน์ "สนามพระ" เพิ่มเติม