กลายเป็นเรื่อง หมองู ตายเพราะงู ไปไหมเนี่ย เมื่อ ขบวนการลับ (แต่ปิดไม่มิด เพราะคนรู้ทันสิ้น ว่าเป็นใคร) ที่พยายามคัดค้าน การแต่งตั้งกรรมการบริษัทการบินไทย ซึ่ง กระทรวงการคลัง ธ.กรุงเทพ ธ.กรุงไทย ธ.ไทยธนชาต ธ.ออมสิน ธ.อิสลาม บ.ทิพยประกันชีวิต และ สหกรณ์ออมทรัพย์ ของ กฟผ.–ม.ธรรมศาสตร์–กฟภ.–ปตท.–ม.เกษตรศาสตร์ ฯลฯ ซึ่งรวมกันเป็น ผู้ถือหุ้นใหญ่ จะจัดประชุมผู้ถือหุ้น (AGM) ในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ข้อความต่างๆ คนการบินไทยเองรู้กันว่ามี ผู้หญิงคนหนึ่ง ในองค์กรนี้ เป็นแม่งาน ส่งข่าวที่ชมอยู่ข้างเดียวไปตามเครือข่ายพวกพ้องที่ดูแลกันอยู่ ซึ่งใครได้อ่าน ก็เห็นชัดๆว่า ต้องการสร้างความไม่ไว้ใจต่อกระทรวงการคลัง และกรรมการใหม่ล้วนๆ เพราะบรรยายเยินยอผลงานของ กลุ่มฟื้นฟู อย่างเลิศลอย (คนอ่านบอก น่าจะเรียกว่าสอพลอได้เลย) เพื่อปลุกปั่นให้พนักงานการบินไทย และประชาชนที่ถือหุ้น รวมทั้งประชาชนทั่วไปแตกตื่น ว่า ผู้มาใหม่ จะมาทำให้การบินไทยพินาศ--เพื่อหาแนวร่วมที่ไม่รู้ความจริง ร่วมกันค้านการจัดประชุม AGM โดยอ้างว่าจัดไปแล้ว (ซึ่งหลังออกจากแผนฯยังไม่เคยจัด และจำเป็นต้องจัด) เพราะรู้ดีว่า โอกาสที่ตัวเองจะได้เป็นกรรมการการบินไทย อาจจะต้องสิ้นสุดลงอย่างถาวร ถ้าผู้ถือหุ้นไม่เสนอชื่อใน AGM เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายจากการเข้าใจผิด ปลัดบั๊ด–ลวรณ แสงสนิท ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัทการบินไทย จึงแถลงข่าวเคลียร์ทุกประเด็นที่กลุ่มไม่กล้าออกนาม แต่กล้าด่าคนอื่น ว่า ตราบใด ที่ตนยังเป็นประธาน จะไม่มีเรื่องทุจริตเกิดขึ้น ทุกอย่างจะต้องโปร่งใส เพราะกระทรวงการคลังซึ่งถือหุ้นใหญ่ ใส่เงินทุนเข้าไปกว่า 4-5 หมื่นล้านบาท เป็นเงินของประชาชนและรัฐบาล จึงเป็นหน้าที่ที่ต้องเข้าไปดูแลทรัพย์สินของการบินไทย ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียน--โสมชบา ก็ไม่มีหุ้นการบินไทยซักหุ้น แต่ก็รักสายการบินแห่งชาติ และช่วยนำเสนอเรื่องราวดีๆให้ตลอด โดยไม่เคยขอตั๋วฟรีแลกเปลี่ยน แลกไมล์ไม่ได้ก็ไม่โวย แต่พอเห็นคนในสร้างเรื่องที่ทำให้องค์กรตัวเองเสียหาย เพื่อเคลมความดีความชอบฝ่ายเดียวแบบนี้ ก็ต้องออกมาทำหน้าที่สื่อ เพื่อให้คนมีใจเป็นธรรม สบายใจ...และถ้ากรรมการมาใหม่ ที่ขบวนการนี้ประณามเขาไปล่วงหน้าก่อนแล้ว ทำอะไรเสียหาย ก็จะออกมาลุยด้วยคนแน่ ขอบอก เพราะ ดำรงค์ศักดิ์ สุขโคนา และ พวงทิพย์ (เอี่ยมสกุล) เป็นผู้กว้างขวางในชุมพรและระนอง คุณยาย ศิราณี สุขสบาย มารดา คุณจี๊ด–พวงทิพย์ ก็เป็นเศรษฐินี-ของเมือง ทำให้งานแต่งลูกชายคนเดียว พงศ์ศิริ สุขโคนา กับ สุดารัตน์ ทองศิริ เป็นงานช้างแบบงานประจำปีของอำเภอสวี ชุมพร มีแขกเหรื่อตั้งแต่ผู้ว่าฯชุมพร เธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ข้าราชการทั้งศาลากลางจังหวัด และยังข้ามจังหวัดไปถึง วิทยา เขียวรอด รองผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช บัตรเชิญที่กรองแล้วกรองอีก จึงยังต้องแจกถึง 1,600 ใบ ทำให้เป็นงานวิวาห์บันเทิง ที่คนมากมายไปรวมกัน เพราะในจังหวัดเล็กๆ เป็นคนรู้จักและเครือญาติกันทั้งนั้น เชิญ 1 ก็มากันทั้งบ้าน โดยเฉพาะเป็นงานแต่งของ เชฟคิงส์–พงศ์ศิริ สุขโคนา ที่อยากเป็นเชฟมาตั้งแต่เด็ก เรียกได้ว่าเด็กคนอื่นดูการ์ตูน ลูกบ้านนี้ดูรายการทำอาหาร พอไปเรียน ม.เชียงใหม่ได้หนึ่งปี ก็ขอพ่อแม่เดินตามฝัน จนได้เข้าไปเป็นลูกศิษย์ เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟกระทะเหล็ก และมีโอกาสฝึกฝีมือที่โรงแรมเซ็นทารา หัวหิน โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ พอเรื่องถึงหู สุพัตรา จิราธิวัฒน์ ทำให้ เชฟคิงส์ ได้ไปทำงานที่เซ็นทารา มัลดีฟส์ เมื่อตัดสินใจกลับมาทำงานเมืองไทย เชฟคิงส์ ก็ทำรีสอร์ตชื่อ กรีน ธารา รีสอร์ต ชุมพร วันดีคืนดีก็มีเพื่อนๆ ยกขบวนฮาร์เลย์แก๊งใหญ่ไปสร้างสีสัน ด้วยเสียงบึ้มๆและดนตรีเฮฟวี่เมทัล คั่นความเรียบง่ายของเมืองสงบให้ครึกครื้นเจ้าบ่าวซึ่งเป็นลูกและหลานคนเดียวของสายมารดา จึงเป็นที่รวมความรักและมรดก ขบวนแห่ขันหมากจึงอลังการ นอกจากขบวนฮาร์เลย์ คุณจี๊ด ยังเกณฑ์เพื่อน 500 (หมายถึงปีเกิด ไม่ใช่ฉายา) ถือขันหมาก หลายคนจึงมือสั่นด้วยวัย และข้าวของบนพานขันหมาก ทั้งทองแท่ง ทองรูปพรรณ เงินสด โดยเฉพาะ คุณไก่–นงนาถ กมลาศน์ฯ ที่ถือพานเงินสด ต้องประคองตัวและประคองพานหนักแอ้กให้ถึงที่หมาย ด้วยการดมยาดมไปตลอดทาง ที่พีกสุด คืองานแต่งอื่นๆ มีตัดเค้ก หรือโทส แชมเปญ แต่ เชฟคิงส์ เซอร์ไพรส์ด้วยการตัดเนื้ออบสูตรพิเศษ ให้แขกอร่อยคนละชิ้น.โสมชบาคลิกอ่านคอลัมน์ "ของว่างวันอาทิตย์" เพิ่มเติม