ในโลกยุคปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคและเทคโนโลยี เช่น ในอดีตคนฟังเพลงจากเทป ซีดี กลายมาเป็นฟังเพลงจากแพลตฟอร์มสตรีมมิง หรือเมื่อก่อนเดินไปตลาดซื้อกับข้าว ทุกวันนี้คนมักกดสั่งดีลิเวอรีอาหารส่งถึงบ้าน ความสะดวกสบายยิ่งมีมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเท่านั้น ทั้งผู้ประกอบ การและผู้บริโภคต้องพร้อมปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องการศึกษา โรงเรียนจำเป็นต้องปรับการเรียนการสอนให้เข้ากับยุคสมัย เพื่อพัฒนาการเรียนรู้จากห้องเรียนปูเส้นทางสู่การเป็นผู้ประกอบการในอนาคต “คุณชายตะลอนชิม” สัปดาห์นี้ “คุณชาย แป๊ะ” ขอแนะนำร้าน “KUS iSPACE” ของโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา แหล่งการเรียนรู้ใหม่เป็นพื้นที่ให้นักเรียนใช้ในการแสดงฝีมือการทำอาหารคาว ขนมหวาน เบเกอรี เครื่องดื่ม ผลผลิตทางการเกษตรที่มาจากการลงมือเพาะปลูกของนักเรียน และผลงานศิลปะฝีมือของนักเรียนได้มาแสดงผลงาน เป็นการต่อยอดการเรียนรู้จากห้องเรียนสู่การลงมือค้าขายจริงๆ “KUS iSPACE” อาคารปฏิบัติการส่งเสริมสมรรถนะด้านอาชีพและการเป็นผู้ประกอบการ เป็นอาคารชั้นเดียวสีขาวตั้งอยู่ริมรั้วโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ฯ ฝั่งสนามฟุตบอล ชื่อ “KUS iSPACE” มาจากผู้ชนะการประกวดตั้งชื่อร้าน “ด.ช.ชวินทร์ สุริยาอมฤทธิ์” ป.3/3 โดย KUS มาจากชื่อย่อโรงเรียน ส่วน iSPACE มาจาก Innovation Space เป็นพื้นที่ให้นักเรียนได้พัฒนานวัตกรรม สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สร้างคุณค่าให้แก่ผู้บริโภค และคำนึงถึงความยั่งยืน ส่วนโลโก้ร้านค้าเป็นผลงานของ “ด.ญ.ณฐภัทร วันจันทร์ศิริ” ม.4/4 ผู้ชนะเลิศการประกวดการออกแบบ ตราสัญลักษณ์ ชี้ให้เห็นว่านักเรียนทุกระดับชั้นมีส่วนร่วมกันสร้าง “KUS iSPACE” ขึ้นมา ในวันเปิดตัวร้านมีอาหารเด็ดมาให้ชิมคือ “ผัดไทยเฟื่องฟู” เมนูซิกเนเจอร์ แป้งพัฟอบกรอบรูปทรงสี่เหลี่ยมสูงพอดีคำ มีไส้เป็นเครื่องผัดไทยรสชาติเข้มข้นอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทย เสริมความโดดเด่นด้วยกุ้งทอดตัวโต ลองชิมแล้วตัวแป้งพัฟมีความกรอบเข้ากันดีกับเครื่องผัดไทย ประกอบไปด้วย เต้าหู้, ถั่วงอก, กุ้งแห้ง และกุยช่าย ผัดจนเข้ารส ความหนาของชั้นแป้งพัฟกินแทนเส้นผัดไทยที่คุ้นเคย เป็นเมนูยกระดับอาหารไทยให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น“เรือหวาน...พานรู้” ของหวานที่ออกแบบเป็นทาร์ตรูปทรงเรือ ครีมชีสเนื้อนุ่มละลายในปาก เสิร์ฟมาเคียงข้างสตรอว์เบอร์รีรสหวาน และมีความเปรี้ยวของซอสเลมอน เป็นเมนูเหมาะแก่การละเลียดในบรรยากาศสบายๆ รสชาติครีมชีสและผลไม้ให้ความหวานจากธรรมชาติ “เสน่ห์สาธิตเกษตร” เป็นขนมไทยดัดแปลงมาจากขนมไทยโบราณอย่างเสน่ห์จันทร์ ขนมทรงกลมที่หารับประทานได้ยาก นำมาประยุกต์โดยใช้ดอกอัญชันเพิ่มสีสันให้สวยงาม กลายเป็นสีม่วงประจำโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ฯ แป้งนุ่มละลายในปาก ความหวานละมุน หอมกลิ่นควันเทียนตามแบบฉบับขนมไทยโบราณ “อ.ดร.ผกามาศ นันทจีวรวัฒน์” ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ฯ เล่าถึงความเป็นมาของร้าน “KUS iSPACE” ว่า “โลกปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก การเรียนเพียงแค่วิชาการด้านเดียวไม่เพียงพอ เด็กนักเรียนน่าจะมีทางเลือกหลายๆอย่างในสิ่งที่เขาถนัด โรงเรียนจึงมีวิชาเลือกการงานอาชีพด้านการทำอาหารขึ้นมา จาก เดิมนักเรียนนำผลงานมาจำหน่ายภายในโรงเรียน จึงมีความคิดว่าควรจะมีหน้าร้านเพื่อเปิดโอกาสให้เด็กนำผลงาน ทั้งการทำอาหาร ผลผลิตทางการเกษตร และผลงานศิลปะ ออกมาโชว์ให้บุคคลภายนอกได้เห็น เด็กๆจะได้เรียนรู้การเป็นผู้ประกอบการ วางแผนในการลงทุน และการคิดถึงกำไร โดยโรงเรียนได้รับความอนุเคราะห์จากสมาคมผู้ปกครองและครูฯจัดทำร้านขึ้น” “นอกจากนี้ยังมีนักเรียนโครงการการศึกษาพิเศษ 2 เป็นนักเรียนกลุ่มพิเศษ ผ่านการฝึกการทำขนม ครองแครงคอนเฟลกซ์ ให้เด็กๆนำขนมมาจำหน่ายสร้างรายได้แก่นักเรียน โดยอาจารย์เป็นผู้สอนระบบการดำเนินธุรกิจการลงทุน และการคิดกำไร การวางแผนการจัดจำหน่าย ทั้งอาจารย์และนักเรียนมีการใช้เทคโนโลยีในงานประดิษฐ์ต่างๆเข้ามาประยุกต์ใช้กับโลกที่เปลี่ยนไป เพื่อออกมาเป็นผลิตภัณฑ์หลายชนิด และในอนาคตจะเปิดให้ผู้ปกครองและผู้สนใจจองโต๊ะชิมฝีมือเชฟส์เทเบิลจากผู้ชนะเลิศการประกวดทำอาหารภายในโรงเรียนด้วย” อ.ดร.ผกามาศกล่าว ด้าน “อ.พิมพ์ณภัส เชี่ยวสมุทร” สอนวิชาขนมอบ เล่าว่า “ด้วยความชอบไปทานอาหารร้านอร่อย จากนั้นจะนำมาแกะสูตรทดลองทำด้วยตัวเองก่อน พอได้รสชาติที่ชอบจึงมาถ่ายทอดให้นักเรียน อย่าง “ผัดไทยเฟื่องฟู” คืออาหารไทยประยุกต์ นำเอาแป้งพัฟมารับประทานกับเครื่องผัดไทย เป็นเมนูพิเศษประจำร้าน สำหรับการเรียนทำขนมอบเป็นวิชาเลือก ปรับหลักสูตรการเรียนรู้ระหว่างวิชาขนมอบชั้น ม.5 และวิชาอาหารไทย ม.6 สอนโดย “อ.รชต พรหมราช” ผสมผสานความทันสมัยของขนมอบกับอาหารไทยเข้าด้วยกัน โดยที่ร้านจะมีเค้กช็อกโกแลต เค้กสตรอว์เบอร์รี เครปเค้กน้ำเต้าหู้ แซนด์วิช สปาเกตตี และทาร์ตเลมอนเมอแรง ไว้บริการทุกวัน” “อ.คณิตตา ปิ่นเงิน” สอนวิชาการงานอาชีพชั้น ป.5 กล่าวว่า “ในการสอนทำอาหารนักเรียนชั้นประถมจะสอนทำเมนูง่ายๆ 4-5 เมนู จากนั้นจะให้นักเรียนได้ตัดสินเองว่า ชอบทำเมนูไหน และต้องการขายเมนูไหน นอกจากนี้ยังเป็นการฝึกให้นักเรียนคำนวณต้นทุนและคิดกำไร เพื่อให้เขาได้รู้จักฝึกเป็นผู้ประกอบการ เช่น ทำพิซซ่าขายมีต้นทุนสูง กำไรน้อย หรือเค้กกล้วยหอม มีต้นทุนต่ำ แต่กำไรสูง เป็นต้น ทำให้เด็กนักเรียนสนุกกับการทำอาหาร เมื่อขายได้กำไร แบ่งกันคนละ 10-20 บาท เด็กๆจะมีความรู้สึกดีใจที่หาเงินได้ และรู้สึกภูมิใจในสิ่งที่ได้ลงมือทำ เปลี่ยนการเรียนรู้จากเดิมที่เรียนแค่ว่า อาหารว่างมีอะไรบ้าง เป็นลงมือทำและได้ขายเอง สร้างการเรียนรู้ให้แก่นักเรียนแบบครบวงจร” ส่วนด้านงานศิลปะอยู่ในความดูแลของ “อ.ณรงค์ชาญ ปานมั่น” อาจารย์ประจำกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ทัศนศิลป์) มัธยม เล่าว่า “ผลงานศิลปะของเด็กนักเรียนมาจากการเรียนวิชาทัศนศิลป์ ตั้งแต่ชั้น ป.1 ถึงชั้น ม. 6 บางคนเน้นรายละเอียด บางคนเน้นแนวคิด ใช้เทคนิคสีน้ำมัน สีน้ำ สีโปสเตอร์ การนำผลงานศิลปะมาประดับที่ร้าน ทำให้เด็กๆเห็นว่าผลงานสามารถต่อยอดสร้างรายได้ โดยอาจารย์จะให้สิทธิเด็กๆตัดสินใจเองว่าจะนำงานมาจำหน่ายหรือไม่ เพราะบางคนรักผลงานมากอยากเก็บไว้เอง การมีคนมาชื่นชมผลงานเด็กๆ สร้างความภูมิใจและ แรงกระตุ้นให้แก่นักเรียนเป็นอย่างดี” สนนราคา มัฟฟินมิกซ์เบอร์รี 45 บาท, แซนด์วิชดับเบิลชีส 55 บาท, แซนด์วิชหมูหยองโบโลเนส 55 บาท, สลัดอกไก่ 85 บาท, เค้กส้ม 75 บาท, ทาร์ตเลมอนเมอแรง 115 บาท, เครปเค้กน้ำเต้าหู้ 115 บาท, ผักกวางตุ้ง และผักสลัด ถุงละ 35 บาท ร้าน “KUS iSPACE” เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00-18.00 น. วันเสาร์เปิดเวลา 08.00-16.00 น. หยุดวันอาทิตย์ โทรศัพท์ 09-0901-9291.คุณชายแป๊ะคลิกอ่านคอลัมน์ “คุณชายตะลอนชิม” เพิ่มเติม