หลังจาก คุณหญิงชอุ่มศรี วีรานุวัตติ์ จากไป คุณจุ๋มจิ๋ม–ณฐินี ศรียุกต์สิริ ลูกสาวคนเดียว ก็บรรจงจัดเตรียมของที่ระลึกอย่างสุดฝีมือ สำหรับงานพระราชทานเพลิงศพ ซึ่งแต่ละอย่างบอกถึงความคลาสสิก ประณีตงดงาม ตามที่ คุณจิ๋ม ได้รับการเลี้ยงดูจากคุณหญิงมารดามาอย่างเข้มกริบ--เป๊ะชนิดที่จับ คุณจิ๋ม ซึ่งอายุ 5 ขวบ ให้เรียนรู้มารยาทบนโต๊ะอาหาร เวลามีแขกฝรั่งไปดินเนอร์ที่บ้าน และยังให้ครอบครัวหมอๆเพื่อนๆของ คุณหมอวีกิจ วีรานุวัตติ์ ในอังกฤษ ดูแลตอนส่ง คุณจิ๋ม ไปอยู่โรงเรียนประจำตั้งแต่ประถม ซึ่ง คุณหญิงชอุ่มศรี เลือกโรงเรียนเอง แบบไม่สนใจดูอันดับด้านการเรียนการสอนเลย แต่เลือกจากรางวัลว่าโรงเรียนไหนได้รางวัลมารยาทดี และสอนลูกสาวให้เป็นกุลสตรี!!ของที่ระลึก จึงทำให้ผู้ที่ได้รับประทับใจ เพราะหาคนทำยาก (หรือไม่น่ามีคนทำเลยมากกว่า) และบอกถึงความตั้งใจ ในการถ่ายทอดความละเมียดละไมของการใช้ชีวิตในยุคสมัยหนึ่งมาไว้ในชิ้นงาน เพื่อให้เห็นถึงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น เพราะเป็น บุหงาพัดหอม ประดิษฐ์อย่างสวยงาม จนทำให้ พัดใบลานจักสาน ดูมีมูลค่าเพิ่มหลายเท่า เพราะเหลาและสานอย่างละเอียด เย็บขอบอย่างประณีต กลัดดอกมะลิประดิษฐ์ พร้อมเย็บซอง บุหงาแห้ง (ดอกไม้) ที่อบแบบโบราณติดกับตัวพัด ทำให้เวลาโบกพัดจะได้กลิ่นหอมกรุ่นไปด้วย และยังแนบพระราชนิพนธ์จากวรรณคดี อิเหนา ใน รัชกาลที่ 2 ซึ่งบรรยายถึง บุหงา ไว้ ว่า “ชมพลาง ทางเด็ดดอกไม้ ประกันอำไพใบหนา มาลารอหอมหวน ยวนมา กลั้วกลิ่นบุหราปะราปี ตันหยงปาหนัน กะรุวังลา ตระปะกิ กะริหนา สดสี กะนิหราบุหงา จะรุนีรื่นรสมาลีตลบไป” อ่านแล้วแม้คนที่ไม่ทันยุค ยังรู้สึกซาบซึ้งกับภาษาสวยซึ้ง ที่คนยุคใหม่สมัยนี้ น้อยคนจะใช้เป็น เพราะถนัดแต่ภาษาง่ายๆ แถมบางคนใช้คำแย่ๆ และบางครั้งหยาบ จนทำให้ภาษาวิบัติและบรรลัย นอกจาก บุหงาพัดหอม แล้ว คุณจิ๋ม ยังจัดพิมพ์หนังสือ “สิ่งที่แม่รัก” ที่ตอนนี้หายากมาก เพื่อนำเมนูอาหารของมารดาที่ขึ้นชื่อว่าเก่งเรื่องทำอาหารและอร่อยมาก มารวมกับเมนูอาหารประจำตระกูลของบรรดาญาติมิตร ที่ครอบครัวรักคุ้นเคย เพื่อถ่ายทอด สายสัมพันธ์ของแม่สู่ลูก ผ่านหนังสือ สิ่งที่แม่รัก เริ่มด้วยเมนูเด็ดของ คุณหญิงชอุ่มศรี คือ ข้าวผัดน้ำพริกรสเด็ด ที่เพื่อนๆเรียกร้องขอรับประทานเสมอ ส่วนของ คุณจิ๋ม เป็น ส้มฉุน ซึ่งยังมีกลอนจากกาพย์เห่ชมเครื่องคาว-หวาน ของ รัชกาลที่ 2 แนบอีกว่า “ลิ้นจี่มีครุ่นครุ่น เรียกส้มฉุนใช้นามกร หวนถวิล ลิ้นลมงอน ชะอ้อนถ้อย ร้อยกระบวน” และ นวณัฐ ศรียุกต์สิริ เป็น Oreo and To blerone Ricotta Pie ซึ่ง คุณแจน– นวณัฐ ใช้ Toblerone เพราะเคยเห็นคุณยาย บด Toblerone เพื่อให้คุณทวด ที่ชอบช็อกโกแลตทานง่ายส่วนสูตรอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องหอม งานฝีมืออื่นๆที่ คุณจิ๋ม ได้ ประภาทิพย์–ประภพ สุสังกร์กาญจน์ อังคณา ศุภกิจวณิชโชค กฤษดา อนุนาท รจนา ติระยะพานิชกุล ช่วยถ่ายทำกันหัวฟู มีอาทิ ท่านผู้หญิงเพ็ญศรี วัชโรทัย-Shortbread, ม.จ.ฑิฆัมพร ยุคล-น้ำพริกบาง (มะ) กอก, ม.ร.ว.สุจิตคุณ สารสิน-สังขยา อะโวคาโด, สุภวรรณ ล่ำซำ-Boston Cream Pie, ประมัย (บุนนาค) แสง–ชูโต-ข้าวแช่สูตร ประมัย แสง-ชูโต, แก้วศรี ณ ระนอง-กะหรี่ปั๊บ, ทิพย์มณี จรรยาวงษ์-สตูลิ้นวัว, ธีระพันธ์ วรรณรัตน์-จิ๊นหมูฮุ้ม ที่ถ่ายทอดจากมารดา เจ้าฉมชบา ณ เชียงใหม่ ซึ่งได้จาก เจ้าดารารัศมี พระราชชายาในรัชกาลที่ 5, กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ-เค้กช็อกโกแลตไร้แป้ง ส่วน ผศ.บังอร โพธิ์นิ่มแดง บอกการประดิษฐ์ บุหงาดอกไม้แห้ง ที่นำมาเย็บไว้กับพัดบุหงา และ หม่อมบัวทอง ยุคล ณ อยุธยา เป็นวิธี อบร่ำผ้า ตบท้ายคือ สุปรีชา โมกขะเวส เขียน ความสุขกับไวน์ ซึ่งเขียนตั้งแต่การ ดู สีไวน์ด้วยการเอียงแก้ว 45 องศา แต่บอกไว้ว่า ถ้าพาคนหน้าจิ้มลิ้มไปด้วย และร้านไฟสลัวๆ ก็ไม่ต้องดูไวน์ ให้ดูคนที่ไปด้วยดีกว่า และบรรยายถึงการ ดม ดื่ม แล้วสรุปความเห็นตัวเองว่า ไม่มีไวน์ขวดไหนดีที่สุดในโลก เพราะความสุขจากการดื่มไวน์ อยู่ที่ผู้ดื่มแต่ละคน และบรรยากาศ ถ้ามีความสุข ไวน์ก็จะช่วยให้มีความสุขเพิ่มขึ้น--ที่ โสมชบา ชอบมากคือ ตอนที่ คุณสุปรีชา เขียนว่า แต่ถ้าเปิดไวน์ขวดละแสน ดื่มตอนกำลังต่อรอง แย่งตำแหน่ง หรือผลประโยชน์กัน ไวน์ก็มีหน้าที่แค่เครื่องดื่มกลั้วคอ เวลาคอแห้ง จากการเจรจาเถียงกัน.โสมชบาคลิกอ่านคอลัมน์ "ของว่างวันอาทิตย์" เพิ่มเติม