ร่วมส่งเสริมและเผยแพร่วัฒนธรรมไทยผ่านการแต่งกายชุดไทยพระราชนิยม รศ.ดร.กมลพร กัลยาณมิตร คณบดีคณะรัฐศาสตร์ นำนักศึกษาจีนของมหา วิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี จำนวน 20 คน จากหลายมณฑลในประเทศจีน ในโอกาสสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ก่อนเดินทางกลับประเทศบ้านเกิด เข้าเยี่ยมดูงานที่พิพิธภัณฑ์เครื่องใช้และเครื่องกระเบื้องยุโรปโบราณ ที่ Château de la Porcelaine ถนนประเสริฐมนูกิจ 29 ม.ล.ปุญยนุช เกษมสันต์ ดุลยจินดา ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ฯ จึงได้จัดนิทรรศการชุดไทยพระราชนิยม พร้อมบรรยายเกร็ดความรู้ ถึงประวัติความเป็นมาของชุดไทยพระราชนิยมเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระผู้ทรงพระราชทานชุดไทยพระราชนิยมให้เป็นสมบัติของชาวไทย คำว่า “จากราชสำนักสู่ราชนิยม” อันหมายถึงชุดไทยที่มีต้นกำเนิดจากราชสำนักไทยมาแต่ครั้งโบราณกาล สู่ยุคพระราชนิยมในสมเด็จพระบรมราชชนนี พันปีหลวง โดยทรงมอบหมายให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องแต่งกาย ค้นคว้าหาข้อมูลว่า อดีตสมเด็จพระบรมราชินี และสตรีไทยในราชสำนักของไทยแต่ละยุคสมัย ทรงแต่งพระองค์กันอย่างไร และได้ทรงคัดเลือกต้องพระราชนิยม เป็นจำนวน 8 แบบ ทรงโปรดให้นำมาตัดเย็บด้วยเทคนิคปัจจุบันเพื่อสะดวกแก่การใช้ทรงงาน เมื่อคราวเสด็จ visited ต่างประเทศอย่างเป็นทางการในปี 2503 และต่อมาได้ทรงพระกรุณา พระราชทานแบบให้สตรีไทยนำไปตัดใช้งานตามวาระโอกาสสำคัญที่เหมาะสม ตามที่ได้กำหนดไว้ในแต่ละชุด และในรัชกาลปัจจุบัน สมเด็จ พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้ทรงสืบสานต่อยอดด้วยการส่งเสริมให้สตรีไทยแต่งกายด้วยชุดประจำชาติมากยิ่งขึ้น และได้ทรงชี้แจงข้อมูลต่อองค์การยูเนสโกเพื่อให้พิจารณารับเป็นวาระในการรับรองชุดไทยพระราชนิยมให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ในปี 2569 ในงานได้มีการบรรยายทำให้นักศึกษาจีนเกิดความเข้าใจอันดีงาม หลังชมนิทรรศการชุดไทย ดร.ศิวาภรณ์ รัตนพันธุ์ ภัณฑารักษ์ ได้นำนักศึกษาจีนชมศิลปวัตถุยุโรป และเอเชียในห้องต่างๆของพิพิธภัณฑ์ อาทิ แส้ตีวงฝึกม้า ที่เคยเป็นของควีนอเล็กซานดร้าแห่งอังกฤษ มีตราพระนามาภิไธยย่อครอบมงกุฎ บนขั้วด้ามที่ทำจากทองคำ 18 K และมีสลักยี่ห้อบนตัวด้ามว่า SWAINE & ADENEY MAKERS TO THE QUEEN นาฬิกาตั้งพื้นยุคนโปเลียน ยี่ห้อ DERABOIUS PARIS ความพิเศษอยู่ที่สามารถบอกวันเดือนปีและข้างขึ้น-ข้างแรมได้ นับว่าเป็นนวัตกรรมล้ำยุคในช่วงเวลานั้น เป็นต้น.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม
