บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จัดนิทรรศการ “ศิลปกรรมช้างเผือก” ครั้งที่ 14 ภายใต้หัวข้อ “น้ำกับความเปลี่ยนแปลง” ซึ่งเป็นเวทีการประกวดงานศิลปะสำหรับการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ที่แสดงถึงแก่นแท้ความคิดผ่านงานเสมือนจริง และงานศิลปะรูปลักษณ์ โอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐา ธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงานและพระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวด ณ ชั้น 9 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อเร็วๆนี้ นิติกร กรัยวิเชียร ผู้อำนวยการโครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ของไทยเบฟเวอเรจ กล่าวว่า การประกวดศิลปกรรมช้างเผือก เกิดจากความตั้งใจอันดีของไทยเบฟเวอเรจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฟ้นหาศิลปินไทยรุ่นใหม่ที่มีทักษะความสามารถทางศิลปะอันโดดเด่น ในการสร้างสรรค์ศิลปะแบบเหมือนจริง (Realistic) และศิลปะรูปลักษณ์ (Figurative Art) โดยยึดถือความเหมือนจริงเป็นแก่นสำคัญเพื่อให้ผลงานศิลปะเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สำคัญ ในการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านศิลปะร่วมสมัยให้ขยายไปสู่การรับรู้ของสังคมในวงกว้าง ดำเนินงานต่อเนื่องเรื่อยมาเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2554 โดยในปีนี้นับเป็นการจัดการประกวดครั้งที่ 14 “น้ำกับความเปลี่ยนแปลง” เพื่อให้ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้แสดงฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ โดยตีความจากโจทย์ที่กำหนดให้ ซึ่งศิลปินที่เข้าร่วมประกวดแต่ละคนก็ต่างสร้างสรรค์ผลงานที่น่าสนใจในรูปแบบและแนวทางที่แตกต่างได้อย่างน่าประทับใจ สำหรับการประกวดครั้งนี้ มีศิลปินร่วมส่งประกวดทั้งหมด 391 คน และมีจำนวนผลงานทั้งสิ้น 458 ชิ้น และผ่านการคัดเลือกทั้งหมด 52 ชิ้น ผลงานที่ได้รับ รางวัลช้างเผือก ได้แก่ “ตะเพี๊ยนตะเพียน” โดย นิรัชพร น่วมเจิม รับเงินรางวัล 1,000,000 บาท เปิดเผยว่า งานชิ้นนี้พูดถึงเรื่องน้ำที่มีการเปลี่ยนแปลง คือความอุดมสมบูรณ์ที่หายไปจากการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากมนุษย์ เราหยิบยกนำวัสดุเหลือใช้จากเครื่องมือหาปลานำมาสานเป็นปลาตะเพียน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ โดยสื่อสารให้กลายเป็นความอุดมสมบูรณ์ที่หายไป และหยิบตัวละครของชาวบ้าน เรื่องราววิถีชีวิตชนบทที่ใช้ชีวิตประจำวันกับแม่น้ำลำคลอง ครอบด้วยกล่องอะคริลิกสีแดง ตู้กระจกที่สะท้อน และใส่เสียงซาวด์เพื่อเพิ่มอรรถรส เป็นการสะท้อนตัวเราและเรื่องราวในอดีต ซึ่งวันหนึ่งมันอาจคงอยู่เพียงในพิพิธภัณฑ์ เพื่อเป็นวัตถุที่บอกเล่าเรื่องราวอันล้ำค่าต่อไป รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ “Water world” โดย เญอรินดา แก้วสุวรรณ รับเงินรางวัล 500,000 บาท ผลงาน Waterworld สะท้อนถึงวัฏจักรน้ำที่มีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศต่างๆ และสิ่งมีชีวิต ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินทางไปดำน้ำเห็นแนวปะการังเสื่อมโทรม จึงอยากนำเสนอในมุมมองใหม่ คือปรับเปลี่ยนวัฏจักรของสิ่งมีชีวิตที่อยู่อาศัยทั้งบนบก บนขั้วโลกเหนือ และสิ่งแวดล้อมต่างๆ ยกมาไว้ในน้ำทำให้เป็นโลกใต้น้ำ โดยใช้เทคนิคเย็บปักถักร้อย นำเสนอผ่านมุมมองพึ่งพิงอิงอาศัยและโอบอุ้มซึ่งกันและกัน ใช้ความสัมพันธ์ระหว่างน้ำเป็นตัวเชื่อม เพราะเชื่อว่าน้ำเป็นส่วนสำคัญในการใช้ชีวิต และกลับมาดูแลเอาใจใส่ธรรมชาติและระบบนิเวศรอบตัวเรา ส่วนรางวัลคุณหญิงวรรณา ได้แก่ “ธาราแห่งความงอกงาม” โดย ธีรพล สีสังข์ รับเงินรางวัล 400,000 บาท และรางวัล CEO AWARD ได้แก่ “จุดเริ่มต้น–Genesis” โดย นารา วิบูลย์สันติพงศ์ รับเงินรางวัล 250,000 บาท ผลงานบางส่วนของนิทรรศการนี้นำไปจัดแสดงให้ชมอีกครั้งในงาน Sustainability EXPO 2025 (SX2025) ซึ่งเป็นมหกรรมด้านความยั่งยืนที่จัดอย่างต่อเนื่องสู่ปีที่ 6 โดยมีแนวคิดหลักคือ พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก ระหว่างวันที่ 26 กันยายน-5 ตุลาคม 2568 Zone Better World ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่