เมื่อเร็วๆนี้ทีมนักสำรวจชาวอเมริกันและบริษัทสำรวจในอังกฤษเปิดเผยการค้นพบซากเรือของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาที่จมลงใต้ทะเลในสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นซากเรือที่อยู่ลึกที่สุดเท่าที่เคยค้นพบ โดยอยู่ที่ระดับความลึกราว 6.9 กิโลเมตรนอกชายฝั่งฟิลิปปินส์ ซากเรือดังกล่าวถูกระบุว่าเป็นเรือพิฆาต ยูเอสเอส ซามูเอล บี โรเบิร์ตส (USS Samuel B. Roberts) หรือที่รู้จักในชื่อ “แซมมี บี” (Sammy B) ด้านบริษัทคาลาดัน โอเชียนิก ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาเทคโนโลยีทางทะเลที่ตั้งอยู่ในเมืองดัลลัสในสหรัฐฯ เผยว่า นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบเรือรบที่มีชื่อเสียงอย่างไม่น่าเชื่อลำนี้ ขณะที่การจมอยู่ที่ความลึก 6.9 กิโลเมตร ส่งผลให้ทำลายสถิติของซากเรือยูเอสเอส จอห์นสตัน ที่จมในพื้นที่เดียวกัน โดยอยู่ที่ระดับความลึกราว 6.5 กิโลเมตร ทั้งนี้ เรือทั้ง 2 ลำมีส่วนสนับสนุนชัยชนะของสหรัฐอเมริกาในยุทธการที่เมืองซามาร์ในเดือน ต.ค.2487 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธนาวีที่อ่าวเลย์เต ได้รับการขนานนามว่าเป็นการรบทางเรือครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะแม้จะไร้อาวุธ แต่เรือแซมมี บี ก็โจมตีกองเรือของจักรวรรดิญี่ปุ่นที่นำโดยเรือรบยามาโตะ ซึ่งเป็นเรือประจัญบานที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา ก่อนที่แซมมี บี จะจมลงใต้กองเพลิงในทะเลฟิลิปปินส์ และได้ชื่อว่าเป็นเรือพิฆาตคุ้มกันที่ต่อสู้เหมือนเรือประจัญบาน โดยในบรรดาลูกเรือ 224 คน มี 89 คนเสียชีวิตในครั้งนั้น.