“การทำอาหาร” คือศาสตร์และศิลป์แขนงหนึ่งที่สะท้อนตัวตนของผู้ปรุง ดีไซเนอร์สาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ผู้หลงใหลในงานศิลปะ “แองจี้–แอนเจลิส บาเลก” ครีเอทีฟไดเรกเตอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์แฟชั่นและชุดว่ายน้ำ “AB. Angelys Balek” (เอบี. แอนเจลิส บาเลก) จึงใช้เวลาว่างเข้าครัวฝึกเสน่ห์ปลายจวักทุกครั้งที่มีโอกาส ช่วงก่อนเกิดโควิดชีวิตการทำงานกว่า 10 ปี “สาวแองจี้” ต้องเดินทางไปมาอยู่ 3 ประเทศคืออยู่เมืองไทยประมาณ 3 เดือน เพื่อคุยงานกับทีมดีไซน์ จากนั้นเดินทางไปสหรัฐอเมริกา เพราะทีมการตลาดอยู่ที่นั่น และข้ามฟากไปอิตาลีเพื่อดูผ้าและดิวงานกับโรงงาน ซึ่งเป็นโรงงานที่ผลิตให้แบรนด์ดังระดับโลกมากมาย แต่เมื่อเกิดวิกฤติโควิด จึงตัดสินใจกลับมาอยู่บ้านที่ภูเก็ต เพราะเกิดและเติบโตที่เมืองไทย คุณพ่อ (มร.แฮรี่ บาเลก) ก็อยู่เมืองไทย ซึ่งแน่นอนว่าการทำงานต้องปรับให้เข้ากับวิถีชีวิตใหม่ คือทำงานผ่านโลกออนไลน์และให้โรงงานผลิตที่อิตาลีส่งตัวอย่างผ้ามาที่เมืองไทย หลังจากต้องอยู่บ้านเวิร์กฟรอมโฮมมา 2 ปี ทำให้ได้มีเวลาเข้าครัวจริงจัง โดยได้เรียนรู้จากแม่บ้านที่มีฝีมือด้านการทำอาหารและขนมไทย ถึงแม้จะไม่ถนัดงานครัว เพราะใช้เวลาทั้งหมดทุ่มเทให้กับการทำงาน เพื่อพาแบรนด์แฟชั่นของตัวเองให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลก แต่เมื่อกลับมาอยู่บ้านก็อยากทำอาหารให้คุณพ่อทาน เพราะท่านอายุมากแล้ว และจะได้ทำอาหารในรสชาติที่ชอบรับประทานเอง เมื่อต้องไปทำงานที่ต่างประเทศดีไซเนอร์สาวคนเก่งบอกเล่าว่า “การทำอาหารต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ เหมือนการสร้างสรรค์งานศิลปะชิ้นหนึ่ง เพราะแม้มีสูตรตายตัว แต่เมื่อปรุงออกมาแล้วรสชาติที่ได้จะมีความแตกต่างกัน ตรงนี้คือเสน่ห์ของการทำอาหาร เพราะรสมือแต่ละคนต่างกัน และเพื่อนๆ ต่างชาติก็ชื่นชอบรสอาหารไทยมาก เนื่อง จากความซับซ้อนของรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์”เอ่ยถึงเมนูอาหารไทยที่ต่างชาติรู้จักแน่นอน ไม่ได้มีเฉพาะ “ต้มยำกุ้ง” แต่ยังมีอีกหนึ่งเมนูคือ “ต้มข่าไก่” น้ำซุปหวานมันเค็มเปรี้ยวเผ็ดอ่อนๆ หอมกรุ่นกลิ่นกะทิและเครื่องสมุนไพร เช่น “ข่า” ช่วยบำรุงธาตุไฟและช่วยย่อยอาหาร ส่วน “ตะไคร้” ช่วยในการเจริญอาหารและขับลม ขณะที่ “หอมแดง” แก้หวัดและช่วยขับเสมหะ เมื่อได้ซดน้ำซุปร้อนๆในช่วงอากาศหนาว ทำให้ร่างกายอบอุ่นดี เรียกว่าเป็นเมนูต้านโรคหวัดช่วงเปลี่ยนฤดูได้เป็นอย่างดี ซึ่งต้มข่าสูตรของที่บ้านจะเป็นสูตรประยุกต์ “ต้มข่าไก่มะพร้าวอ่อน” คือ ใส่น้ำมะพร้าว,เนื้อมะพร้าวอ่อน, หอมใหญ่ และมะเขือเทศ เครื่องปรุง : อกไก่ไม่เอาหนัง หั่นเป็นชิ้นพอคำ, เครื่องสมุนไพร “ตะไคร้” ใช้มีดบุบให้แตกแล้วหั่นเป็นท่อนๆ, ใบมะกรูด ฉีกเส้นกลาง, หอมแดง ทุบพอแตก, ข่าอ่อน ปอกเปลือกหั่นเป็นแว่น, กะทิ, น้ำมะพร้าว, เนื้อมะพร้าวอ่อน, พริกขี้หนูบุบพอแตก, เห็ดนางฟ้า, ผักชีฝรั่ง, ต้นหอม, ผักชีไทย หั่นเป็นท่อนๆ และมะนาว วิธีการทำ :1) ใส่น้ำมะพร้าวและกะทิลงในหม้อ หากใช้กะทิสำเร็จรูปให้ผสมน้ำลงไปด้วยเพื่อลดความเข้มข้น ใส่เกลือนิดหน่อย ตั้งไฟพอเริ่มเดือดให้ลดไฟกลาง ระวังไม่ให้กะทิเดือดเกินไปจนแตกมัน2) ใส่เครื่องสมุนไพรที่เตรียมไว้ลงไปต้ม พอเริ่มมีกลิ่นหอมใส่อกไก่ที่หั่นไว้ลงไป รอจนไก่เริ่มสุกให้เร่งไฟแรง 3) ใส่หอมใหญ่, มะเขือเทศ, เห็ดนางฟ้า เมื่อน้ำซุปเดือดปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่ผักชีฝรั่ง, ต้นหอม, ผักชีไทยและเนื้อมะพร้าวอ่อน4) ยกลงจากเตาจึงค่อยบีบน้ำมะนาวและใส่พริกขี้หนู สำหรับใครที่ชอบทานรสเผ็ด ให้ใส่พริกขี้หนูสวนเม็ดเล็กๆบุบลงไปด้วย แต่ถ้าทานเผ็ดไม่เก่งให้ใช้พริกขี้หนูจินดาแทน สูตรนี้จะไม่ใส่น้ำตาล เพราะใช้ความหวานจากน้ำมะพร้าว, หัวหอม และเห็ดนางฟ้า ซึ่งจะได้น้ำซุปต้มข่าหอมๆรสกลมกล่อมซดคล่องคอ.