โดนเม้าท์ว่าตัดผมไม่เป็นดีแต่แต่งตัวเว่อร์ออกงานไปวันๆ บ้างก็เม้าท์ว่าหยิ่งเฟคเข้าถึงยากคบแต่ไฮโซ เม้าท์แรงสุดมีเสี่ยเลี้ยงใช้เงินเป็นเบี้ย ชี้ห่อ ชี้ห่อแบรนด์เนมจนติดท็อปสเปนเดอร์ แต่เจอตัวจริง “มาร์ค–ธาวิน พี เซียวตง” แฮร์สไตลิสต์ไฮโซพันล้าน เจ้าของร้าน “Maison Mark Thawin Hair & Elite Lifestyle” สาบานว่าไม่ดัดจริตเลย มีแต่ความจริงใจ ใครจะเม้าท์ยังไงก็โนสนโนแคร์ เพราะสวยแอนด์รวยมากด้วยลำแข้งตัวเอง ไม่ได้ขอใครกิน!!“มาร์คอยู่วงการมา 30 ปี ถ้าไม่ออกงานสังคม ก็คงเป็นได้แค่ช่างทำผมเก่งที่สุดที่อยู่แต่ในร้าน บางคนหาว่ามาร์คแต่งตัวสวยออกงาน แต่ตัดผมไม่เป็นหรอก ขอโทษทีถ้าตัดผมไม่เป็น ทุกวันนี้ฉันจะทุ่มเงินเป็นร้อยล้านกับร้านทำผมทำไม มาร์คไม่ได้โปรยเงินเล่นๆ เวลาเหนื่อยทุ่มเททำงานไม่เห็นต้องบอกใคร สำหรับมาร์คใครไม่เข้าใจก็ปล่อยเขา มาร์คสนใจแต่คนที่รักเรา คนมาทำผมกับมาร์ค ไม่ใช่แค่คิดต้นทุนสีหลอดหนึ่ง แต่เข้ามาร้านมาร์คต้องว้าวกลับไป เพราะเราใส่สิ่งที่เป็นตัวตนของเราเข้าไปทั้งหมด”...แฮร์สไตลิสต์คนดังบอกเล่าความในใจ โลดแล่นในวงการซาลอน 3 ทศวรรษ ทำยังไงถึงดังทน รวยนานเป็นไอดอลช่างผมไทยเป็นตัวของตัวเองดีที่สุด ต้องจริงใจและเป็นคนน่ารัก อย่าทำตัวน่าหมั่นไส้ อย่าตอแหลว่าไม่อยากดัง!! และเมื่อดังแล้วก็ต้องต่อยอดไปเรื่อยๆ มาร์ครักษาชื่อเสียงมาถึงวันนี้ เพราะไม่เคยหยุดนิ่งเปลี่ยนตัวเองก่อนคนอื่นเสมอ และถือคติทำวันนี้ให้ดีที่สุด อย่าไปคาดหวังอะไรเริ่มรู้สึกว่ารวยและประสบความสำเร็จตอนไหนหลายปีแล้วรู้สึกว่า เราอยู่ในจุดที่ต้องได้สิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น มาร์คอยากเป็นแรงบันดาลใจให้ช่างผมไทยว่า เราสามารถทำสิ่งที่ดีระดับเวิลด์คลาสได้ มาร์คอ่อนภาษาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ผลักดันตัวเองจนสื่อสารภาษาอังกฤษได้ และพยายามทุกอย่างเพื่อให้มีวันนี้ ต้องกล้าฝันและอย่าหยุดฝัน ต้องไขว่คว้าหาโอกาสด้วยตัวเอง ต้องดีที่สุดต้องเลิศที่สุดเท่านั้น “มาร์ค ธาวิน” กินก๋วยเตี๋ยวส้มตำข้างถนนได้ไหมถ้าไม่ดัดจริตก็กินได้หมดแหละ มาร์คกินส้มตำเป็นประจำ นั่งอีโคโนมี ได้ไม่ซีเรียส บางครั้งหิวๆก็เข้าเซเว่นกินมาม่า ถามทุกคนได้มาร์คไม่หยิ่งเลย ถ้ามาร์คทำงานบริการแล้วหยิ่งคนจะเกลียดนะ มาร์คไม่มีทางเชิดใส่ใครหรอก แต่ยอมรับว่ามาร์คคือ “แรร์ไอเท็ม” ไม่จำเป็นต้องเข้าถึงได้ง่าย จะคบคนก็ต้องมีคุณภาพ ให้เจ๊าะแจ๊ะเม้าท์ไปเรื่อยคงไม่ใช่เรา แต่ถ้ารู้จักตัวตนจริงๆ บอกเลยว่าจริงใจมาก การที่เราชอบของหรูหราอาจเป็นกำแพงให้คนไม่กล้าเข้าใกล้ แต่มาร์คไม่แคร์หรอก มาถึงวันนี้อยากคบเฉพาะคนที่คุยภาษาเดียวกันก่อนจะสวยและรวยมากขนาดนี้ “มาร์ค ธาวิน” เข้าสู่วงการทำผมได้อย่างไรมาร์คตามแม่ไปร้านตัดเสื้อร้านทำผมตั้งแต่เด็ก เลยชอบเรื่องสวยๆงามๆ ครอบครัวมีฐานะดี โตมาแบบคุณหนูไม่เคยลำบาก คุณพ่อเป็นนักบินสายการบินแอร์อเมริกา แต่ด้วยความที่เราไม่ชอบเรียนหนังสือ ตอนจบมัธยมปลายเลยขอแม่เรียนทำผม เพราะคิดว่าเป็นอาชีพสบาย มาร์คเริ่มเรียนทำผมที่โรงเรียนเสริมสวยนิภาดา คุณแม่สนับสนุนทุกอย่าง เรียนจบออกมาแม่ให้เงินเปิดร้านทำผมร้านแรก เปิดได้แป๊บเดียวก็เจ๊ง เราเพิ่งอายุ 18 ปี ทำธุรกิจไม่เป็น จากนั้นไปอยู่กับญาติที่ญี่ปุ่น 2 ปี กลับมาเมืองไทยฮึดอีกครั้ง สมัครเรียนทำผมที่โรงเรียนเสริมสวยเกศเกล้า บอกตัวเองว่าชีวิตเราต้องเดินต่อ ขอเงินแม่เปิดร้านทำผมในคอนโด คราวนี้เจ๊งเพราะว่อกแว่กไปทำขายตรงจนมาเจอโรงเรียนสอนออกแบบทรงผมแกลมเมอร์ เอาหลักสูตรโทนี่แอนด์กายมาสอนคนไทย มาร์คไปเรียนอีกแต่รู้สึกว่าไม่อิ่ม จึงตัดสินใจไปเรียนภาษาที่แคนาดา ก่อนจะบินไปอังกฤษเรียนทำผมกับ “วิดัล แซสซูน” เรียนหมดทุกคอร์สที่ขวางหน้า หลังจากโกอินเตอร์ โลกของช่างทำผมไทยคนนี้เปลี่ยนไปเลยไหมโลกของมาร์คเปลี่ยนไปหมด มาร์คเลือกเรียนคอร์สครีเอทีฟคัตติ้ง และแอดวานซ์อะคาเดมี ความรู้ที่เรียนมาจากเมืองไทยทิ้งหมดเลย เพราะเมืองไทยสอนให้ท่องจำ แต่ “วิดัล แซสซูน” สอนให้ได้หลักครีเอทีฟ และปูความรู้พื้นฐานจริงๆ โดยผสมความคลาสสิกกับดีไซน์รูปทรงเรขาคณิต เขาเป็นปรมาจารย์ด้านผมบ๊อบ และเป็นเจ้าเทคนิคตัดผมสมมาตรทรงเรขาคณิต มาร์คบินไปกลับลงเรียนหลายรอบต่อเนื่อง 7-8 ปี หมดเงินหลายสิบล้าน วิชาที่ชอบมากคือ การผสมสีทำสีผม ย้อนไป 20 ปีที่แล้ว การทำสีผมไม่ได้สดสวยไม่ได้พาสเทลแบบวันนี้ ไม่มีสีผมสำเร็จรูป สิ่งที่ฮือฮาวงการคือ ทุกคนจดจำมาร์คว่าเป็นคนทำสีผมเก่งที่สุดตั้งแต่เป็นช่างผมมา เคยเจอวิกฤติหนักในชีวิตไหมมาร์คสนุกกับการทำสีผมและคร่ำเคร่งมาก แต่การที่อยู่กับสารเคมีทั้งวันทั้งคืน สุดท้ายทำให้ร่างกายพังเสียสุขภาพ ตอนหลังยืนทำสีผมไม่ได้ แค่ได้กลิ่นสเปรย์น้ำมูกไหลไม่หยุด เส้นเลือดฝอยในตาแตก มาร์ครู้สึกทรมานมาก จนต้องตัดสินใจเลิกทำผม ร่างกายไปไม่ไหวจริงๆเป็นภูมิแพ้รุนแรง ช่วงนั้นอายุ 30 แต่แฟนมาร์คให้กำลังใจว่าห้ามเลิกนะ ถ้าไม่ไหวก็ไปเรียนต่อที่อังกฤษแล้วค่อยว่ากัน ทั้งๆที่ยกธงขาวแล้ว อะไรเป็นจุดเปลี่ยนให้หวนคืนสู่วงการอีกครั้งเพื่อนชวนไปงานใหญ่ของอังกฤษ “ซาลอน อินเตอร์เนชั่นแนล” ทำให้เจอนวัตกรรมใหม่ๆที่ตอบโจทย์ชีวิตเรา เช่น เตียงสระซัพพอร์ตหมอนรองกระดูกคอ, ไดร์เป่าผมไม่มีสารฉนวนใยหินที่เสี่ยงก่อมะเร็งปอด ที่เด็ดสุดคือ ค้นพบสีทำผมออร์แกนิกไม่มีแอมโมเนีย ลองใช้แล้วน้ำมูกไม่ไหลไม่มีกลิ่นกวนใจ ทำให้มีความหวังกลับมาเปิดร้านอีกครั้งในปี 2010 คราวนี้ใช้คอนเซปต์ “Mark Thawin Ultimate Hair Solution” เพื่อให้เป็นร้านทำผมพรีเมียมที่สุด เลือกแต่อุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ดีที่สุดระดับโลก ทีมงานเป็นระดับครู ลงทุนไป 50 ล้านบาท ซื้อตึกใหม่ตกแต่งเองบนถนนเส้นหลักทาวน์อินทาวน์ เนรมิตให้เป็นเวิลด์คลาสซาลอนเทียบชั้นระดับอินเตอร์คราวนี้พลิกชื่อเสียงให้กลับมาโด่งดังกว่าเดิมขนาดไหน“Mark Thawin Ultimate Hair Solution” กลายเป็นศูนย์บริการทำสีผมที่มีมาตรฐานดีที่สุดแห่งแรกของไทย เป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนที่อยากสวยมีสุขภาพผมดี พอพูดถึงอุปกรณ์การทำผมที่มีคุณภาพและทันสมัย หรือผลิตภัณฑ์เส้นผมดีที่สุดต่อสุขภาพผม ทุกคนจะต้องนึกถึงเรา ฟังดูก็เลิศหรูอลังการที่สุดแล้ว ทำไมช่วงโควิด–19 ต้องทุบร้านปรับโฉมใหม่หมดตอนทำ “Mark Thawin Ultimate Hair Solution” ได้สะท้อนตัวตนของมาร์ค ผ่านการเดินทาง, การเรียนรู้ และประสบการณ์ชีวิต แต่มาร์คอยากมอบสุนทรียภาพ และการใส่ใจในชีวิตอีกรูปแบบที่เหนือกว่าแค่การทำผม จึงเป็นที่มาของการปรับโฉมร้านใหม่สู่คอนเซปต์ “Maison Mark Thawin Hair & Elite Lifestyle” เพื่อต่อยอดการให้บริการสมบูรณ์แบบที่สุดในรูปแบบอีลิทไลฟ์สไตล์ ที่นี่จะไม่ใช่แค่ร้านทำผม แต่เป็นอัครสถานที่ลูกค้าได้สัมผัสและดื่มด่ำไปกับประสบการณ์ชีวิตของมาร์คในทุกมิติ มาร์คตกแต่งร้านในโทนสีทองผสานลายเส้นสมัยใหม่ ออกมาเป็นแนวนีโอเรเนซองส์ แม้แต่การจัดแสงและซาวนด์ในร้านก็ได้แรงบันดาลใจจากการชมแฟชั่นโชว์ที่ปารีสและมิลาน ตั้งแต่ก้าวเข้ามาในร้านจะมีชาฝรั่งเศส “มาคิยาจ แฟรส์” และ “ลาดูเร่” บริการลูกค้า นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบเครื่องฟอกอากาศดีที่สุดไว้ทุกมุมของร้าน เพื่อให้สูดอากาศสดชื่นและปลอดภัย ปลอดจากฝุ่น PM 2.5 อุปกรณ์ทำผมและผลิตภัณฑ์ทุกอย่างต้องดีที่สุดตามมาตรฐานโลก ที่นี่ยังเป็นคอมมิวนิตี้ใหม่ที่สัมผัสได้ถึงความเป็นแฟชั่นโอต์กูตูร์ ซึ่งเป็นตัวตนของเรา มาร์คถือว่าทุกคนคือคนสำคัญ และเชื่อว่าทุกคนสมควรต้องได้รับสิ่งที่ดีที่สุด มาร์คยอมลงทุนเพิ่ม 15 ล้านบาท เพื่อมอบประสบการณ์อีลิทไลฟ์สไตล์ให้ลูกค้าที่ชอบอะไรฟินๆ ลูกค้าที่ไม่เข้าใจความเป็นมาร์คจะบ่นว่าทำไมตัดผมร้านนี้แพงจัง ร้านเราคิดค่าตัดผม 3,000-5,000 บาท แต่ถ้าตัดผมกับมาร์ค 7,000-10,000 บาท ทำสีผม 12,000-50,000 บาท มาร์คอยากคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อลูกค้าตัวจริงของมาร์คเท่านั้นจนถึงวันนี้ อะไรคือความฟินสูงสุดของ “มาร์ค ธาวิน”ชีวิตจะเหลืออยู่อีกกี่ปีไม่รู้ มาร์คอยากทำร้านในอุดมคติที่เหมือนเป็นบ้านของมาร์ค ส่วนลูกค้าคือเพื่อนที่มาเยือนบ้านเรา หลายคนอยู่ในจุดพร้อมทุกอย่างสามารถปรนเปรอตัวเองได้ และต้องการอะไรที่ฟินจริงๆ ลูกค้าบางคนมาก่อนเวลานัดเพื่อนั่งจิบชาไฮทีกับมาร์ค คุยเรื่องแฟชั่น, การใช้ชีวิต, ความสวยความงาม และการสะสมแรร์ไอเท็ม คิดว่าตัดผมอย่างเดียวไม่ต้องมาหามาร์คก็ได้ แต่ถ้าอยากได้อะไรที่มากกว่าการทำผม มาร์คพร้อมต้อนรับทุกคน ความฝันของมาร์คคืออยากเล่าเรื่องราวชีวิตให้คนที่รักมาร์คได้เข้าใจว่า กว่าจะมาถึงจุดนี้ต้องทุ่มเททุกอย่าง ไม่ใช่เอาเงินมาโปรยแล้วชาร์จลูกค้าราคาแพง ไม่ใช่ทำทุกอย่างสนองนี้ดตัวเอง มาร์คอยากเป็นตัวเราที่ดีขึ้นไปเรื่อยๆ และตอนนี้ขอเป็นคอนดักเตอร์คอยกำกับทุกอย่าง แต่จะไม่ยอมยืนซอยผมจนแก่หรอก มาร์คอยากแบ่งเวลาออกสังคม และใช้ชีวิตในแบบที่ชอบ มาร์คสร้างทีมงานให้เป็นกำลังสำคัญ โดยสนับสนุนพวกเขาไปเรียนต่างประเทศเพื่อพัฒนาฝีมือ แค่ได้ดูทีมงานเติบโตขึ้น ได้คุยกับลูกค้าที่เข้าใจเรา มาร์คก็ฟินแล้ว มาร์คยอมไม่ได้ถ้าไม่ได้ทำในสิ่งที่รัก เงินไม่ใช่ปัญหาแล้ว มาร์คอยู่ในจุดที่เลือกได้ และจะเลือกทำแต่สิ่งที่มีความสุขเท่านั้น.ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ