ออกตัวว่าเกิดมาเพื่อเป็นเซลส์ เศรษฐา จรดล ผู้บริหารหนุ่มอารมณ์ดี ที่มากด้วยความสามารถแห่ง CHANGE 2561 ดูแลทางด้านการเงินและการตลาด จับงานอะไรก็ปิดประตูขาดทุนไปได้เลย เพราะด้วยความสามารถทางด้านการขายแบบวิน วิน และอัธยาศัยที่ดี ทำให้ประสบความสำเร็จในงานทุกชิ้นเศรษฐา หรือ “เบียร์” ของพี่ๆน้องๆที่คุ้นเคย เป็นลูกหม้อเอไทม์ มีเดีย แกรมมี่ ลูกน้องคนสนิทของ “พี่ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท CHANGE 2561 จำกัด ที่ตั้งเป้าบริษัทให้เป็น Content Creator มุมมองใหม่ นำเสนอเนื้อหาที่แตกต่างเข้าถึงทุกแพลตฟอร์ม ตั้งแต่ DIGITAL TV, ONLINE และ ON GROUND ภายใต้คอนเซปต์ “เปลี่ยนโลกไม่ได้ แต่เปลี่ยนวิธีคิดได้” แบ่งเป็น 5 กลุ่มงาน ได้แก่ กลุ่มละครและซีรีส์, กลุ่มรายการโทรทัศน์, กลุ่ม SHOWBIZ, กลุ่ม ON GROUND ACTIVITY และกลุ่ม ONLINE CONTENT ซึ่ง เบียร์ เป็นหนึ่งในผู้บริหาร นั่งเก้าอี้ผู้จัดการด้านการเงินบัญชี SHOWBIZ ซึ่งจัดแสดงคอนเสิร์ตที่ปังทุกรายการเบียร์–เศรษฐา ยอมเปิดใจเล่าถึงงานที่ตัวเองรักและได้มาเหมือนพรหมลิขิตว่า ตอนเด็กไม่ค่อยตั้งใจเรียนเท่าไหร่ พอจบจาก ร.ร.สวนกุหลาบวิทยาลัย ก็มาเข้าที่สถาบันราชภัฏสวนสุนันทา โดยจบทางด้านการท่องเที่ยวการโรงแรม จบมายังไม่ได้ทำงานอะไรเป็นจริงเป็นจัง ว่างจึงได้ไปทัวร์ที่เอไทม์จัดเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เลยได้รู้จักกับ “พี่ฉอด” ด้วยความที่ถูกอัธยาศัยกัน พี่ฉอดจึงชวนให้มาทำงานที่เอไทม์ และได้มาทำงานในส่วน Event เป็นเซลส์ขายคอนเสิร์ต เพราะตอนนั้นยังไม่มี ทำงานครบ 10 ปีพอดี ก็ได้ลาออกจากเอไทม์ มีเดีย แกรมมี่ ตามมาอยู่กับ “พี่ฉอด-สายทิพย์” ที่ บริษัท CHANGE 2561 จำกัด “เบียร์เพิ่งโอนย้ายมาอยู่ที่ change เมื่อเดือน พ.ค.เราอยู่ดูคอนเสิร์ตมาตั้งแต่ต้น ไต่เต้าตั้งแต่เป็นเออีอยู่ฝ่ายขาย จนตอนนี้มานั่งบริหารด้วย ในการทำงานหรือจัดคอนเสิร์ตของเรา ฝ่ายขายเราต้องหาสปอนเซอร์ เพื่อมาจัดคอนเสิร์ต ส่วนรายได้มาจากการขายบัตร ซึ่งการทำงาน พี่ฉอดบอกสั้นๆว่า เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้ ดังนั้น ศิลปินต้องตูม ทุกอย่างต้องดี โปรดักชันต้องมา ต้องทำให้ดีที่สุด เวลาทำงานจึงทำให้เราสนุก และมีความสุข แม้จะเหนื่อยแต่ผลตอบรับที่ได้มา เห็นคนมาดูคอนเสิร์ตมีความสุข ก็ทำให้เรามีความสุข ซึ่งเราอยู่การตลาด ได้เห็นการทำงานตั้งแต่เริ่มต้น ทั้งการทำงานโปรดักชัน ทางด้านหลังทั้งหมด ได้รู้ว่าทุกคนทุ่มเทกันมากขนาดไหน พอได้เห็นคนมาดูแฮปปี้ หัวเราะ เราก็มีแฮปปี้ไปด้วย”การก้าวมาสู่จุดนี้ เบียร์ บอกว่า ต้องขอบคุณพี่ฉอดที่ให้ โอกาสและสอนให้เรียนรู้งาน ตนมีความสุขกับการงานขาย ซึ่งความเป็นเซลส์คงอยู่ในสายเลือดแล้ว ทำในเรื่องเอกสารคงไม่ถนัด การทำงานตรงนี้ต้องมีความจริงใจ แล้วเราต้องวิน วิน ทั้งคู่กับสปอนเซอร์ของเรา ในส่วนของเรา พี่ฉอดมีไอเดียมากมาย ที่พร้อมจะปล่อย ซึ่งเป็นสิ่งที่เลียนแบบกันไม่ได้ เราก็รับมาทำงานกันอย่างเต็ม เบียร์เชื่อว่าผลงานจะเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความตั้งใจเต็มร้อยของพวกเรา....ซึ่งนั่นคือ ความภาคภูมิใจที่เราได้ทำงานกันอย่างเต็มที่และดีที่สุด.