Meta ได้เผยแพร่รายงานการจัดการภัยคุกคามเชิงรุก (Adversarial Threat Report) ประจำครึ่งปี 2568 ซึ่งสรุปการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญระดับโลกเกี่ยวกับกลโกงออนไลน์ รายงานฉบับนี้มีประเด็นสำคัญคือการจัดการกับเครือข่ายอาชญากรรมจากกัมพูชา ซึ่งแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ และตำรวจ หลอกลวงเหยื่อทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม รวมทั้งเน้นถึงความซับซ้อนและขนาดที่เพิ่มขึ้นของเครือข่ายกลโกงข้ามพรมแดนในภูมิภาคทั้งนี้ เครือข่ายกลโกงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีการพัฒนาทั้งด้านขนาดและความซับซ้อน ศูนย์สแกมเมอร์มีแนวโน้มที่จะผลักดันให้เหยื่อใช้แอปแชตแบบเข้ารหัสและช่องทางการชำระเงินทางเลือก โดยการใช้ข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมยหรือสร้างขึ้นเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือในประเทศนั้นๆ และขยายการดำเนินงานในวงกว้าง กลยุทธ์เหล่านี้ถูกพบอย่างต่อเนื่องในออสเตรเลีย สิงคโปร์ และอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่การแอบอ้างเป็นผู้อื่นและกลโกงด้านการลงทุนเป็นภัยคุกคามที่ถูกรายงานมากที่สุดกลุ่มสแกมเมอร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังใช้ AI สร้างวิดีโอลวงในรูปแบบ deepfake นำภาพของบุคคลที่มีชื่อเสียงมาใช้ (พบมากในออสเตรเลียและอินเดีย) สร้างกลโกงการรับสมัครงานในหลายภาษา และปรับแต่งการ ติดต่อกับเหยื่อให้เหมาะกับเป้าหมายแต่ละคนก่อนหน้านี้ Meta ได้สนับสนุนการจับกุมของตำรวจสิงคโปร์ ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรมที่จัดตั้งเป็นองค์กร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในภูมิภาค นอกจากนี้ คนเกือบ 500,000 คน ยังได้เข้าร่วมโปรแกรมจดจำใบหน้าของ Meta เพื่อลดกลโกงการปลอมตัวที่พบมากในออสเตรเลีย สิงคโปร์ และอินเดียทั้งนี้ช่วงครึ่งแรกของปี 2568 รายงานเกี่ยวกับโฆษณาหลอกลวงที่ใช้คนดังเป็นเหยื่อล่อ เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนการแสดงผลโฆษณาทั้งหมด ลดลง 22% ทั่วโลก รวมทั้งมีการลบบัญชีปลอมจำนวนมาก ผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย สถาบันการเงิน และพันธมิตร ผ่านโครงการต่างๆ เช่น หน่วยปฏิบัติการพิเศษปราบปรามศูนย์สแกมเมอร์ของกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกา (DOJ’s Scam Center Strike Force)สำหรับในประเทศไทย ครึ่งปีแรกของ พ.ศ. 2568 ได้จัดการกับเนื้อหา บัญชี และโฆษณาที่ละเมิดนโยบายเกี่ยวกับการฉ้อโกงและการหลอกลวง ได้แก่ ลบเนื้อหาบน Facebook กว่า 7.3 ล้านชิ้น บน Instagram กว่า 15,000 ชิ้น โดยเป็นการลบก่อนได้รับแจ้ง 99% บน Facebook และ 76% บน Instagramลบบัญชีผู้ใช้บน Facebook กว่า 66,000 บัญชี และบน Instagram กว่า 24,000 บัญชี โดย 65% ของบัญชีบน Facebook และ 86% บน Instagram ถูกลบก่อนได้รับการรายงาน, แบนการประกาศขายใน Marketplace บน Facebook กว่า 18,000 รายการ 84% ถูกลบก่อนได้รับการรายงาน, ลบเนื้อหาโฆษณากว่า 380,000 ชิ้น กว่า 90% ถูกลบก่อนได้รับการรายงาน และแบนบัญชีโฆษณากว่า 3,000 บัญชี ก่อนได้รับการรายงาน.