แอปเปิลประกาศยุทธศาสตร์ใหม่ด้านการผลิต โดยเลือกคอร์นิ่ง (Corning) ในเมืองแฮรอดส์เบิร์ก รัฐเคนตักกี เป็นฐานผลิตกระจกหน้าจอสำหรับ iPhone และ Apple Watch ทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก เพื่อส่งออกไปใช้งานในอุปกรณ์ที่ขายทั่วโลกความเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่เพียงเพิ่มกำลังการผลิต แต่ยังสะท้อนการดึงการผลิตชิ้นส่วนสำคัญกลับประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงจากห่วงโซ่อุปทาน และอาจเป็นจุดเปลี่ยนของโครงสร้างซัพพลายเชนโลกในอนาคตความร่วมมือของทั้งสองเริ่มตั้งแต่ปี 2550 กับการเปิดตัว iPhone รุ่นแรกที่ใช้กระจกของ Corning เป็นส่วนประกอบสำคัญในด้านดีไซน์และความทนทาน ปัจจุบัน Corning ผลิตกระจก Ceramic Shield ซึ่งแอปเปิลใช้เป็นจุดขายว่าเป็นกระจกสมาร์ทโฟนที่ทนทานที่สุดในโลกการลงทุนรอบนี้มีมูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ (เกือบ 8.4 หมื่นล้านบาท) เพื่อขยายสายการผลิตให้กลายเป็นโรงงานกระจกสมาร์ทโฟนที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในโลก พร้อมเพิ่มกำลังคนกว่า 50% และตั้งศูนย์นวัตกรรม Apple-Corning Innovation Center เพื่อวิจัยและพัฒนากระจกและวัสดุรุ่นถัดไปโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนลงทุนมูลค่า 600,000 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯภายใน4ปี ภายใต้โครงการ American Manufacturing Program (AMP) ซึ่งมีเป้าหมายเสริมความแข็งแกร่งให้ฐานการผลิตและห่วงโซ่อุปทานในประเทศ รวมถึงสนับสนุนการจ้างงานกว่า 450,000 ตำแหน่งการผลิตกระจกในสหรัฐฯ 100% จึงไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนแปลงด้านโลจิสติกส์ แต่ยังเป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์สอดรับกระแส “Re-shoring” ลดการพึ่งพาจีนซึ่งยังเป็นแหล่งผลิตชิ้นส่วนหลักของแอปเปิลสำหรับรัฐเคนตักกี การลงทุนครั้งนี้คือโอกาสครั้งใหญ่ โรงงานแฮรอดส์เบิร์กจะกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตกระจกสมาร์ทโฟนระดับโลกดึงดูดซัพพลายเออร์รายย่อยเข้ามาตั้งฐานในพื้นที่ และสร้างเครือข่ายการผลิตครบวงจรที่ยากต่อการเลียนแบบ ทั้งยังสร้างงานเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นแม้โครงการนี้จะเน้นไปที่กระจกหน้าจอ แต่แอปเปิลยังเดินเกมขยายการผลิตชิ้นส่วนหลักอื่นๆในสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง เช่น ความร่วมมือกับโคฮีเรนท์ (Coherent) ผู้ผลิตเลเซอร์สำหรับ Face ID และการใช้ชิปจากโรงงาน TSMC ในรัฐอริโซนาและเท็กซัส อินสตรูเมนต์ส (Texas Instruments) ในรัฐเท็กซัส หากแผนนี้สำเร็จ การผลิตชิ้นส่วนภายในประเทศอาจครอบคลุมตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ไปจนถึงชิปเซ็ตขั้นสูง เพิ่มความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานและลดความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกในช่วง 3–5 ปีข้างหน้า อาจได้เห็นชิ้นส่วนหลักอื่นๆย้ายฐานกลับสหรัฐฯ มากขึ้น พร้อมยกระดับมาตรฐานทั้งด้านคุณภาพและความเร็วในการส่งมอบสินค้าให้ตลาดทั่วโลก.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทความไซเบอร์เน็ต” เพิ่มเติม