“แจ็ค หม่า” แห่งอาลีบาบา ถือเป็นหนึ่งต้นแบบของความพยายามและการดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ประสบความสำเร็จ หลังเติบโตขึ้นเป็นผู้ค้าออนไลน์รายใหญ่ที่สุดในจีน จนเดินหน้าเข้ากระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ จนร่ำรวยติดอันดับ 1 ใน 50 มหาเศรษฐีของโลกสำนักงานใหญ่อาลีบาบา ตั้งอยู่ที่เมืองหังโจว เมืองที่ขึ้นชื่อว่าทะเลสาบสวยที่สุด มีชื่อว่าทะเลสาบซีหู เหตุผลที่เลือกตั้งสำนักงานใหญ่ที่เมืองนี้ เป็นเพราะเป็นเมืองเกิดของผู้ก่อตั้ง “แจ็ค หม่า” และการเดินทางมาเมืองหังโจวครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวไทยรัฐไซเบอร์เน็ต สื่อมวลชนจากประเทศไทยรวมกับอีก 9 ประเทศ รวม 60 ชีวิต ที่ได้รับเชิญร่วมงาน Taobao Maker Festival : TMF 2018 หรือ “เถาเป่า เมคเกอร์ เฟสติวัล 2018” ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 3 ระหว่างวันที่ 13-16 ก.ย.2561 โดยในปีนี้จัดขึ้นริมทะเลสาบซีหูหรือเวสต์เลก เป็นการจัดงานกลางแจ้งครั้งแรกทั้งนี้ เถาเป่าเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก อยู่ในเครือของอาลีบาบา กรุ๊ป ส่วนเถาเป่าเฟสติวัล เป็นงานนิทรรศการที่ใหญ่ที่สุดของเถาเป่า มีผู้ประกอบการร่วมงานกว่า 200 ราย ล้วนเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทีน ดีไซเนอร์ ผู้ผลิตเกมแอนิเมชัน โดยเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ที่ริเริ่มธุรกิจได้เติบโตบนแพลตฟอร์มเถาเป่า นายคริส ต่ง ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด อาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวว่า เถาเป่า เมคเกอร์ เฟสติวัล ต้องการสร้างการรับรู้ใหม่จากผลิตในจีนหรือเมด อิน ไชน่า (Made in China)จากการเดินเยี่ยมชมผลงานสร้างสรรค์ ไอเดียบรรเจิด ภายในงานตามบูธต่างๆ พบว่าปีนี้มีความหลากหลาย ผสมผสาน ทั้งผลิตภัณฑ์ใหม่ เทคโนโลยี วัฒนธรรมจีน แฟชั่น สัตว์เลี้ยง เป็นต้น โดยเจ้าของผลงานล้วนเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุไม่เกิน 20-35 ปี ซึ่งเป็นไปตามเทรนด์ของจีน ที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้ทำงานไฮไลต์สำคัญได้แก่ บูธโชว์แฟชั่นในแต่ละยุคของนางพญางูขาว ซึ่งเป็นนิทานพื้นบ้านของชาวเมืองหังโจว ดัดแปลงเป็นภาพยนตร์หลายครั้ง, ร้านกระเป๋า ที่นำลวดลายตัวอักษรจากการสื่อสารของหญิงชนเผ่า คนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในแถบหูหนาน มาเป็นลวดลายบนกระเป๋า เพื่ออนุรักษ์ภาษาไว้ไม่ให้เลือนหายไป, หุ่นยนต์ขนาดใหญ่ ซึ่งถูกทดลองสร้างขึ้นมาก และยังมีหุ่นยนต์ชงกาแฟ หุ่นยนต์ที่สร้างมาจากความชื่นชอบของตัวเอง หุ่นยนต์ที่เป็นที่ตั้งโทรศัพท์มือถือ โคมไฟ นาฬิกา เป็นต้น ในโอกาสเดียวกัน อาลีบาบายังได้พาเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ของอาลีบาบา หรือเรียกว่าอาลีบาบา แคมปัส ตั้งอยู่นอกเมืองหังโจว ประกอบด้วยสำนักงาน 8 อาคารด้วยกัน และยังมีห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เกต อยู่ภายใน “อาลีมอลล์” เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพนักงานและประชาชนที่อาศัยอยู่ในย่านนี้ ได้จับจ่ายใช้สอยสินค้าในชีวิตประจำวัน โดยไม่ต้องเดินทางไกลอาลีมอลล์ เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดมหึมา ราว 450 เอเคอร์ แต่ละอาคารอยู่ห่างกัน ต้องใช้จักรยานเป็นพาหนะ ปัจจุบันอาลีบาบามีพนักงานประจำอยู่ ณ ที่นี่ราว 15,000 คน ก้าวแรกของการเยี่ยมสำนักงานอาลีบาบา เริ่มด้วยสัญลักษณ์ “Handstand” ที่แจ็ค หม่า สร้างเอาไว้เพื่อเปลี่ยนมุมคิด เปลี่ยนมุมมองการทำงาน และเป็นกุศโลบายให้เพื่อนร่วมงานเปลี่ยนอิริยาบถในการทำงาน ไม่อยากให้คร่ำเคร่ง โดยผู้มาเยี่ยมชมสามารถทดลองทำ Handstand ได้ส่วนที่ร้านขายของที่ระลึก “ฟิวเจอร์มาร์ท” (Futuremart) เป็นที่ทดลองเทคโนโลยีต่างๆ ในการช็อปปิ้งและการให้บริการ ถูกเรียกว่า New Retail เมื่อเดินเข้าร้านประตูทางเข้าจะมีระบบสแกนใบหน้าของลูกค้า เพื่อจดจำว่าได้เข้ามาใช้บริการ ภายในร้านจะมีกล้องวงจรปิดกว่า 20 ตัว เมื่อเลือกซื้อสินค้าแล้ว ก็สแกนคิวอาร์โค้ด (QR code) และใช้แอปพลิเคชันอาลีเพย์ (Alipay) หรือเถาเป่าเพื่อชำระเงิน และประตูทางออกจะเลื่อนเปิดอัตโนมัติ เมื่อชำระเงินเรียบร้อยถัดมาเป็นการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์อาลีบาบา หรืออาลีบาบามิวเซียม ซึ่งมีการจัดโชว์เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สั่งการด้วยเสียง แต่ไม่อนุญาตให้เปิดเผยรายละเอียด เพราะยังอยู่ระหว่างการพัฒนาให้สมบูรณ์ที่สุด รวมถึงระบบการขนส่งโลจิสติกส์ ที่มีขนาดใหญ่ มีพันธมิตรทั่วโลก โดยยึดถือว่าจะต้องส่งของให้ถึงมือลูกค้าในจีนภายใน 24 ชั่วโมง และไม่เกิน 72 ชั่วโมงสำหรับการส่งไปยังประเทศอื่นทั่วโลก รวมทั้งระบบคลังสินค้าที่นำเทคโนโลยีหุ่นยนต์มาใช้ ไม่มีแรงงานคนแม้แต่คนเดียว ต่อมาเป็นการเยี่ยมชมกิจการเหอหม่าเฟรชที่อาลีมอลล์ เหอหม่าเป็นเหมือนห้างสรรพสินค้า มีร้านขายของหลากหลายชนิด ทั้งที่ขายอยู่บนแอปพลิเคชัน รวมถึงซุปเปอร์มาร์เกต ขายอาหาร ผักนานาชนิด ผลไม้ทุกชนิด รวมถึงทุเรียนจากประเทศไทยด้วยส่วนการเลือกซื้อสินค้าผ่านแอปพลิเคชัน สามารถเลือกสินค้าจากจอที่โชว์อยู่ตามชั้นของสินค้า หากต้องการให้สินค้าไปส่งที่บ้าน ก็จะมีการแพ็กสินค้าในระบบอัตโนมัติ ซึ่งจะเห็นระบบสายพานลำเลียงการแพ็กอยู่บนเพดาน ให้เห็นว่าใช่สินค้าที่สั่งหรือไม่แต่หากไม่ต้องการให้สินค้าไปส่งถึงบ้าน ก็สามารถซื้อสินค้า หยิบใส่ตะกร้าหรือรถเข็นนำไปสแกนบาร์โค้ด แล้วชำระเงินด้วยแอปพลิเคชันอาลีเพย์ที่ตู้แคชเชียร์อัตโนมัติ แล้วหยิบสินค้าใส่ถุงด้วยตัวเอง แน่นอน การใช้เงินสดพบเห็นได้น้อยมากในประเทศจีนยุคปัจจุบัน ประชากรที่หังโจวใช้แอปพลิเคชันอาลีเพย์ เพื่อชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟนไปไหนแทบไม่ต้องพกเงิน ร้านเล็กๆ แผงลอย ร้านขายผัก ก็ใช้วิธีนี้กันทั้งนั้นนี่แหละ อิทธิพลของ “แจ็ค หม่า” แห่งอาลีบาบา ที่ทำให้คนจีนทั้งหังโจว เป็นคนยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง!!