เป้าหมายหลักของ U.S. National Security Strategy หรือยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของสหรัฐฯ คือ ‘คงไว้ซึ่งความอยู่รอดของสหรัฐฯ’ ดินแดน ประชาชน เศรษฐกิจ และวิถีชีวิตของประเทศ ให้ ‘ปลอดภัย’ จากการโจมตีของทหาร หรืออิทธิพลต่างชาติ รวมทั้ง สหรัฐฯลดบทบาทขององค์กรระหว่างประเทศหรือแนวคิดพหุภาคีเขียนให้เข้าใจง่ายก็คือ สหรัฐฯ จะไม่แบกรับภาระโลกอีกต่อไป ในอดีตสหรัฐฯ มีนโยบาย Global Leadership หรือ ‘ผู้นำโลก’ แต่ยุทธศาสตร์ใหม่ สหรัฐฯต้องการ ‘ลดบทบาท’ ผู้นำโลกเป้าหมายของสหรัฐฯ ต้องการลดลงมาเหลือเพียงมีอำนาจเหนือภูมิภาคอเมริกาเหนือและใต้เป็นลำดับต้นๆ ลดการทุ่มเททรัพยากรทางทหารและความสนใจในเวทีเก่าที่สหรัฐฯเคยมองว่ามีความสำคัญสหรัฐฯจะเน้นการเสริมกำลังของกองทัพเรือและหน่วยลาด ตระเวนทางทะเลเพื่อควบคุมการอพยพผิดกฎหมาย ค้ายาเสพติดและเสริมความมั่นคงตามเส้นทางการเดินเรือและชายฝั่งในภูมิภาคอเมริกายุทธศาสตร์ใหม่ของสหรัฐฯ จะไม่ผลักดันให้ประเทศอื่นต้องยอมรับระบบประชาธิปไตย หรือเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมือง ตามค่านิยมของสหรัฐฯ ถ้าวิถีของประเทศอื่นแตกต่างจากของสหรัฐฯ ก็ไม่ใช่เรื่องที่สหรัฐฯจะเข้าไปยุ่งสหรัฐฯจะลดบทบาทของพันธมิตรระหว่างประเทศและองค์กรระหว่างประเทศลง และจะร่วมมือเฉพาะสิ่งที่เป็นประโยชน์กับสหรัฐฯเป็นหลักสหรัฐฯจะร่วมมือกับสาธารณรัฐประชาชนจีนในมิติเศรษฐกิจเป็นหลัก ยุทธศาสตร์ใหม่ของสหรัฐฯจะไม่เรียกจีนว่า ‘ภัยคุกคามใหญ่สุด’ เหมือนสมัยก่อน แต่จะเน้น ‘สมดุลทางเศรษฐกิจ’ กับจีน เพื่อรักษาอิสรภาพทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ก็จะเน้นเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด–แปซิฟิก เตรียมความพร้อมทางทหารเพื่อป้องกันการรุกรานในแนวโซ่เกาะหรือ First Island Chain รวมถึงการปกป้องสถานะของไต้หวัน ซึ่งสหรัฐฯ ยังคงถือเรื่องการรักษาสถานภาพของไต้หวันเป็นหนึ่งในลำดับความสำคัญของตนเองสหรัฐฯวิพากษ์วิจารณ์พันธมิตรเดิมในยุโรปค่อนข้างแรง พูดถึงประเด็นการอพยพ การขาดความเป็นตัวแทนของอารยธรรมยุโรป และยังตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของพันธมิตรยุโรปในระยะยาวนักยุทธศาสตร์อเมริกัน โดยเฉพาะสายอนุรักษนิยมสายเหยี่ยว มองยุโรปว่าเป็นกลุ่มประเทศกระจอกที่ป้องกันตัวเองไม่ได้ เป็นกลุ่มประเทศเกาะ “...describe Europe as a small island clinging to the United States for security.” ยุโรปเป็นเกาะเล็กที่มาเกาะสหรัฐฯเพื่อความมั่นคงไม่ได้หมายความว่าอังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส ฯลฯ อยู่บนเกาะ แต่เป็นประเทศปลิงที่คอยเกาะสหรัฐฯ เพื่อความปลอดภัยทั้งทางทหารและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมองเห็นประโยชน์ของยุโรปอยู่บ้างตรงเป็นฐานทัพและโลจิสติกส์สำคัญ เป็นตลาดเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เป็นพันธมิตรที่จะใช้สู้กับรัสเซีย (หากจะต้องสู้กันจริงๆในอนาคต)ยุทธศาสตร์ก่อนๆของสหรัฐฯมองว่ารัสเซียเป็นภัยสำคัญ แต่ในเอกสารยุทธศาสตร์ฉบับใหม่ของสหรัฐฯ ไม่ได้เอ่ยถึงว่ารัสเซียเป็นภัยสำคัญแต่อย่างใดสหรัฐฯ ไม่ได้ให้ความสำคัญภูมิภาคตะวันออกกลางเหมือนในอดีตแล้ว ในอดีตสหรัฐฯ มียุทธศาสตร์เข้าไปแทรกแซง สร้างระเบียบ ส่งเสริมประชาธิปไตยในภูมิภาคตะวันออกกลาง แต่ยุทธศาสตร์ใหม่ของสหรัฐฯไม่ใช่แล้ว ยุทธศาสตร์ใหม่คือ การมีปฏิสัมพันธ์เชิงผลประโยชน์ที่สหรัฐฯใช้คำว่า pragmatic มากกว่าอุดมการณ์ยุทธศาสตร์ใหม่ของสหรัฐฯ ทำให้กลุ่มประเทศปลิงทั้งหลายกลัวจนไส้ขยายไหลออกมานอกตูด ประเทศพวกนี้แต่เดิมมีพฤติกรรม ‘โชว์กร่าง อ้างลูกพี่ (สหรัฐฯ)’ ทว่าตอนนี้โป๊ะแตกแล้ว 1 มกราคม 2026 เป็นต้นไป พวกยุโรปต้องหดคอเหมือนนกกระติ๊ด หากยังกร่างเหมือนเดิมก็มีโอกาสที่จะโดนจีนและรัสเซียเคาะหัวโนยุทธศาสตร์ใหม่ของสหรัฐฯ บอกกับเรา ‘ชาวชุมชนเปิดฟ้าส่องโลก หน้าสองของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ’ ให้ได้ทราบว่า สหรัฐฯ กำลังถอย ออกจากบทบาท global policeman หรือ WOL (World Order Leader) ผมหมายถึง สหรัฐฯกำลังถอยออกจากบทบาทผู้พิทักษ์โลก และมุ่งไปที่ผลประโยชน์ของตัวเองเป็นอันดับแรกทว่าถ้า ‘จำเป็น’ สหรัฐฯ ก็พร้อมที่จะเข้าไปครอบงำบริเวณที่มีความสำคัญ (ต่อสหรัฐฯ) เช่น กลุ่มประเทศตะวันตก ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก มากกว่าการเป็นพันธมิตรแบบโครงข่ายระหว่างประเทศรัฐบาลไทยต้องรีบประชุมสุมหัวเพื่อนำยุทธศาสตร์ใหม่ของสหรัฐฯมาวิเคราะห์เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ และอ่านเกมโลกใหม่ให้ออก และโปรดทราบว่า ความร่วมมือแบบเดิมๆอาจจะใช้ไม่ได้แล้ว.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม