ค.ศ.2003 ผมใช้รถตระเวนจากสาธารณรัฐโตโกเข้าสาธารณรัฐเบนิน และมุ่งไปสู่ทางทิศเหนือสุดของเบนิน เพื่อเข้าไปยังกรุงวากาดูกู เมืองหลวงของบูร์กินาฟาโซ สมัยนั้นนอกจากผู้คนจะพูดภาษาท้องถิ่นแล้ว ก็ยังใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นหลัก ฝรั่งเศสเข้ามายึดดินแดนของจักรวรรดิมอสซีตั้งแต่ ค.ศ.1896 ขอเรียนหน่อยครับ ว่ามอสซีเป็นอาณาจักรโบราณที่ปกครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของบูร์กินาฟาโซในปัจจุบันฝรั่งเศสกระทำย่ำยีกับภูมิภาคนี้ไว้อย่างเลวร้ายหายนะ บางครั้งก็ตั้งอาณานิคมใหม่ บางครั้งก็ยกเลิกอาณานิคม บางครั้งก็แยกประเทศ ค.ศ.1919 ฝรั่งเศสตั้งอาณานิคมแยกออกมาใหม่ชื่อโวลตาตอนบน ค.ศ.1932 ฝรั่งเศสยุบอาณานิคมโวลตาตอนบน และแบ่งพื้นที่ไปให้เพื่อนบ้านอย่างมาลีและไอวอรีโคสต์ จนถึง ค.ศ.1947 ฝรั่งเศสก็กลับใจมาฟื้นฟูอาณานิคมโวลตาตอนบน5 สิงหาคม 1960 โวลตาตอนบนได้รับเอกราช และตั้งชื่อประเทศใหม่ว่าบูร์กินาฟาโซ โดยมีเมืองหลวงอยู่ที่กรุงวากาดูกู แต่ผู้นำของบูร์กินาฟาโซส่วนใหญ่ก็ยังต้องเป็นอดีตนักเรียนทหารที่จบมาจากฝรั่งเศส ไม่ว่าจะเป็นซังกูเล ลามิซานา, ซาเย เซอร์โบ หรือฌ็อง-บาติสต์ เวดราโอกูผู้นำที่ไม่จบทหารจากฝรั่งเศส แต่ทำตัวเป็นพันธมิตรคนสำคัญของฝรั่งเศสในแอฟริกาและปกครองบูร์กินาฟาโซมายาวนานที่สุด (1987-2014) คือ แบลส กอม ปาโอเรช่วงที่คุณสุรเกียรติ์ เสถียรไทย เป็นรัฐมนตรี ผมได้รับการติดต่อจากกระทรวงการต่างประเทศของไทยว่า รัฐมนตรีขอให้ผมเข้าร่วมคณะต้อนรับรัฐมนตรีต่างประเทศบูร์กินาฟาโซ เพราะในขณะนั้นยังไม่มีใครไปตระเวนบูร์กินาฟาโซอย่างละเอียด สิ่งหนึ่งซึ่งผมเรียนข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศก่อนที่จะเข้าประชุมคือ ประเทศนี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของฝรั่งเศสอย่างเด็ดขาดสมบูรณ์บูร์กินาฟาโซคงจะตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของฝรั่งเศสต่อไปอีกนานแสนนาน ถ้าไม่ได้ร้อยเอกอิบราฮิม ตราโอเร อายุ 37 ปี วิทยาศาสตรบัณฑิตทางภูมิศาสตร์ด้วยคะแนนเกียรตินิยม ภายหลังเข้าโรงเรียนนายร้อยทหารหรือโรงเรียนนายร้อยชอร์ฌ นาโมอาโน เข้ามาดูแลประเทศผู้กองตราโอเรสร้างชื่อเสียงจากการรบกับพวกผู้ก่อการร้ายอิสลามิสต์ซึ่งเกี่ยวพันกับอัลกออิดะห์และไอเอส แล้วก็ยึดอำนาจจากนายทหารรุ่นพี่ตอนอายุเพียง 34 ปี ตราโอเรได้รับความนิยมจากประชาชนเพราะสามารถขจัดอิทธิพลของฝรั่งเศสที่กัดกร่อนจนประเทศผุพังออกไปจากประเทศได้ทันทีที่ร้อยเอกตราโอเรได้ปกครองประเทศ แกก็บินไป รัสเซีย และบินไปอีกครั้งเมื่อ 9 พฤษภาคม 2025 และได้พบกับประธานาธิบดีปูตินตราโอเรทำให้กระแสของสหรัฐฯและฝรั่งเศส รวมทั้งชาติตะวันตกอื่นๆ ลดน้อยถอยหายไปจากทวีปแอฟริกาหลายประเทศ กระแสที่เกิดขึ้นในทวีปแอฟริกาในปัจจุบันคือ ‘ต่อต้านลัทธิล่าอาณานิคมของยุโรป’ ‘ต่อต้านอิทธิพลของสหรัฐฯ’ และ ‘นำเสนออธิปไตยและความมั่นคงแบบไม่แทรกแซง’ผู้อ่านท่านลองตามข่าวดูเถิด ไม่ว่าจะบูร์กินาฟาโซ มาลี หรือแอฟริกากลาง ต่างประกาศตัวหันมาร่วมมือกับรัสเซียอย่างเปิดเผยและไม่เกรงกลัวตะวันตกเหมือนเมื่อก่อนกันทั้งนั้นอีกส่วนหนึ่งของความสำเร็จในการลดอิทธิพลของอังกฤษ ฝรั่งเศส เจ้าอาณานิคมเดิม ต้องยกเครดิตให้จีน โครงการแถบและเส้นทางหรือ BRI ของจีนที่ทอดผ่านหลายประเทศในทวีปแอฟริกาทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก จีนให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ สร้างถนน ทางรถไฟ ท่าเรือ นิคมอุตสาหกรรม เข้าไปร่วมมือพัฒนาเหมืองแร่ โดยที่เหมืองแร่เหล่านั้นยังเป็นของประชาชนเจ้าของประเทศความสำเร็จของจีนที่ผมเห็นมาตั้งแต่ ค.ศ.1999 ก็คือการเข้าไปช่วยเหลือ ภายหลังตั้งสถาบันขงจื๊อ และการให้ทุนนักศึกษาแอฟริกันมาเรียนในประเทศจีน ทั้งหมดรวมแล้วหลายแสนคน เมื่อกลับไปสู่บ้านเกิดเมืองนอนก็กลายเป็นสะพานเชื่อมต่อการค้าระหว่างแอฟริกากับจีน รวมทั้งรัสเซียตะวันตกพยายามปฏิบัติการจิตวิทยา ตั้งเอ็นจีโอเข้าไปโจมตีจีน และสร้างข่าวลบเพื่อให้คนแอฟริกันแขยงขนเกลียดจีน แต่ผลงานการพัฒนาที่เป็นรูปธรรม ทำให้ปฏิบัติการของฝั่งตะวันตกไม่ประสบความสำเร็จค.ศ.2025 เป็นปีเริ่มต้นของการลดอิทธิพลของตะวันตกในทวีปแอฟริกาอย่างแรงที่สุด.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม