บทความจำนวนไม่น้อยพูดถึง paradox หรือความย้อนแย้ง ของทรัมป์ ทรัมป์เคยโม้เรื่อง end endless war ที่หมายถึงต่อต้านสงครามตลอดกาล แต่สหรัฐฯในยุคทรัมป์ดันเพิ่มงบกลาโหมตลอด ตอนเป็นประธานาธิบดีสมัยแรก แกเพิ่มงบกลาโหมเกิน 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯค.ศ.2025 ทรัมป์มีแผนงบประมาณความมั่นคงแห่งชาติสูงสุด เป็นประวัติกาลมากถึง 1.01 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับปีงบประมาณที่จะเริ่ม 1 ตุลาคม 2025 งบกลาโหมครั้งนี้สูงกว่างบกลาโหมที่ไบเดนขอไว้เมื่อปีที่แล้วร้อยละ 13ทรัมป์ของบ Golden Dome หรือโครงการป้องกันขีปนาวุธ ซึ่งเป็นระบบเครือข่ายดาวเทียมและเซ็นเซอร์ชั้นสูงในการตรวจจับ และติดตามขีปนาวุธในระยะเริ่มต้นของการยิง เป็นงบผูกพันที่ต้อง ใช้เงินสูงถึง 2.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 92.5 ล้านล้านบาท ทรัมป์มีแนวโน้มที่จะมอบงานนี้ให้ SpaceX ของอีลอน มัสก์เป็นผู้ปล่อยดาวเทียมและยานอวกาศ และมีบริษัทอื่นอีก 4 บริษัทที่มีความสนิทสนมกลมเกลียวกับทรัมป์จะได้งานนี้คนเขมรสัญชาติอเมริกันโพสต์ว่า ‘นอระนา แดล บานกางเงีย นี้ โตตูวล โสะพะมงกอล สำรับ ชีวิต เตียงมูล’ ใครได้งานนี้ไปก็จะมีความสุขสบายตลอดชีวิต นี่คือรางวัลที่ทรัมป์ให้ มัสก์ ผู้กล้าหาญชาญชัยไมยราพที่หนุนทรัมป์มาตั้งแต่แรกงบกลาโหมในปีหน้ายังมุ่งไปที่การต่อเรือของกองทัพเรือในโครงการเรือดำน้ำโจมตีชั้นเวอร์จิเนีย ซึ่งต้องใช้เงินโดยเฉลี่ยต่อปีมากถึง 40.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.48 ล้านล้านบาท และงบนี้จะผูกพันตั้งแต่ ค.ศ.2025 จนถึง ค.ศ.2054โครงการต่อเรือนี้ก็เหมือนกัน มีแนวโน้มว่าบริษัทในเครือผู้สนิท ชิดเชื้อกับทรัมป์ 3 แห่ง จะได้แบ่งผลประโยชน์กันทั้ง Huntington Ingalls Industries (HII), General Dynamics Electric Boat และ Austal USA มีคนต่อต้านทรัมป์ในเรื่องนี้เยอะ แต่ทรัมป์ไม่คิดแยะ จะไปสนใจใครทำไมแงะ ว่าแล้วทรัมป์ก็ลงนามใน คำสั่งบริหารให้จัดตั้ง US Office of Shipbuilding เพื่อตั้งสำนักงานการต่อเรือแห่งสหรัฐฯ โดยมีผู้ได้ผลประโยชน์เป็นผู้สนับสนุนทรัมป์มาก่อนทั้งหมดทั้งสิ้นองค์กรของสหรัฐฯเคยตะโกนก้องร้องด่าประเทศอื่นเรื่องผล ประโยชน์ทับซ้อน ปีที่แล้วตอนรัฐบาลบูร์กินาฟาโซทำข้อตกลงกับ บริษัท Endeavor Mining เพื่อโอนกรรมสิทธิ์เหมืองทองคำมูลค่า 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โอย พวกคนบูร์กินาฟาโซสัญชาติอเมริกันออกมาด่ากันน่าดู ว่าเป็นการทับซ้อนของผลประโยชน์ระหว่างผู้มีอำนาจในรัฐบาลและภาคเอกชน ถึงขนาดการทุจริตทำให้เกิดความไม่มั่นคงทางการเมืองนั่นมันเงินแค่ 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2,960 ล้านบาท แต่พอสหรัฐฯ ประเทศใหม่ที่เอ็งไปถือสัญชาติมีประโยชน์ในโครงการกลาโหม พวกอเมริกันเชื้อสายบูร์กินาฟาโซกลับเงียบเป็นเป่าสาก ก็ได้แต่ด่าชาติเล็กประเทศน้อย กระจิริดกระจ้อยร่อย แต่กับประเทศใหญ่ ไม่กล้าดอกไหนว่ารัฐบาลทรัมป์พยายามจะลดงบประมาณกลาโหมอย่างไรเล่า ถึงขนาดไปเอาอีลอน มัสก์ มานั่งเป็นประธานในการ ลดค่าใช้จ่ายของกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล DOGE แต่พอถึง คราวที่พวกตนจะได้ประโยชน์ กลับใบ้กินงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ทรัมป์นำมาเผยแพร่ในวันศุกร์ 2 พฤษภาคม 2025 มีตัวเลขมากมายหลากหลายที่จะช่วยให้สมาชิกสภาคองเกรสร่างพระราชบัญญัติจัดสรรงบประมาณ ค.ศ.2025 ซึ่งทุกคน ก็เดาว่าไม่น่าจะติดขัดอะไรงบประมาณสหรัฐฯมาจากฝ่ายบริหารและสภาฯ ฝ่ายบริหารก็เป็นเรื่องของประธานาธิบดีกับสำนักงานบริหารและงบประมาณที่จะเสนองบประจำปีที่เรียกว่า Budget Proposal ส่วนสภาคองเกรส ซึ่งมีทั้ง สส. และ สว.ก็จะลุกขึ้นอภิปราย บรรยาย พิจารณาปรับ และบั้นปลายท้ายที่สุดก็จะยกมืออนุมัติงบประมาณประชาชนคนไหนไม่เห็นด้วยก็ทำอะไรไม่ได้ พวกนักวิชาการทั้งหลายก็บอกว่า อ้า ประชาชนเปลี่ยนงบประมาณได้โดยทางอ้อม โดยการไปเปลี่ยน สส. และ สว. แต่เป็นเรื่องยาวและลำบากยากเย็นครับทรัมป์เคยด่าไบเดนเรื่องงบประมาณด้านกลาโหมอยู่บ่อยๆ แถมเมื่อตัวเองมีอำนาจก็ไปตัดงบประมาณให้คนตกงานบานเบอะเยอะแยะ ทว่า กลับไปเพิ่มงบประมาณในส่วนที่พรรคพวกของตนจะได้งาน นี่หรือคือประเทศต้นแบบ.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม