บุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นเทรนด์ยอดนิยมอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในหมู่เยาวชน เชื่อว่าช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้เท่เก๋ทันสมัย รัฐบาลบางประเทศยังมองว่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่แบบดั้งเดิม แม้ผู้เชี่ยวชาญในวงการสาธารณสุขจำนวนมากทั่วโลกไม่เห็นด้วย และแสดงความกังวลถึงผลกระทบต่อสุขภาพล่าสุดรัฐบาลฮ่องกงมีความเคลื่อนไหวในประเด็นดังกล่าว โดยนายโล ฉง-เหมา เลขาธิการกระทรวงสาธารณสุขฮ่องกง กล่าวในรายการโทรทัศน์เมื่อวันที่ 9 ก.พ.อยากปกป้องดูแลเยาวชนคนหนุ่มสาว จึงสมควรที่จะต้องออกกฎหมาย ห้ามการครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้าในที่สาธารณะ ภายใน กลางปี 2569 จากนั้นเมื่อประชาชนมีความคุ้นเคยกับข้อห้ามดีแล้ว จึงจะขยายขอบเขตข้อกำหนดในระยะที่ 2 ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ต่อไปอันที่จริงรัฐบาลฮ่องกงประกาศแผนการห้ามบุหรี่ไฟฟ้าแบบครอบคลุมมาแล้วเมื่อเดือน มิ.ย.2567 หลังจากสั่งห้ามการครอบครอง บุหรี่ไฟฟ้า “เพื่อวัตถุประสงค์เชิงพาณิชย์” ห้ามนำเข้า การผลิต และการขายบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้ง “บุหรี่ชนิดใช้ความร้อนที่ไม่มีการเผาไหม้” หรือบางหน่วยงานเรียกว่า “ผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบร้อน” ตั้งแต่เดือน เม.ย.2565 ผู้นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้ามายังฮ่องกงอาจถูกจำคุกสูงสุด 7 ปี และปรับ 2 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (หรือราว 8.7 ล้านบาท) ในขณะที่ผู้ขายและผู้ผลิตอาจถูกจำคุกสูงสุด 6 เดือน แต่ก็ยังใช้บุหรี่ไฟฟ้ากันในฮ่องกงอย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายห้ามบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าวจะถูกส่งไปยังสภานิติบัญญัติฮ่องกงในเดือน เม.ย.นี้ มีเป้าหมายให้มีผลบังคับใช้ภายในกลางปี 2569ทั้งนี้ จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกเมื่อปี 2567 พบว่าประมาณ 35 ประเทศได้สั่งห้ามการขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนเพื่อนบ้านใกล้เคียงอย่างมาเลเซียที่อนุญาตให้ผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปใช้ได้ ก็มีความเคลื่อนไหวพร้อมที่จะพิจารณาทบทวนการห้ามบุหรี่ไฟฟ้าโดยสิ้นเชิงเมื่อไม่กี่วันนี้เอง.อมรดา พงศ์อุทัยคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม