อาจเป็นเรื่องยากมากที่สัตว์ป่าจะเรียกกันและกันด้วย “ชื่อเฉพาะ” แบบเดียวกับชื่อของมนุษย์ แม้แต่สุนัขก็มักจะมาหาเมื่อเจ้านายเรียกชื่อ หรือลูกโลมาแต่ละตัวก็ตั้ง “เสียงเรียก” ของตนเองขึ้นมาเพื่อแจ้งที่อยู่ของตนเองให้กับเพื่อนๆ และครอบครัวรับรู้ เป็นเสียงคล้ายนกหวีดที่แหลมสูง เนื่องจากการมองเห็นในมหาสมุทรมีจำกัดแต่การวิจัยใหม่จากนักชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยคอร์เนล ในสหรัฐอเมริกา เผยว่า ช้างแอฟริกาเรียกกันและกันและตอบสนองต่อชื่อของช้างแต่ละตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่สัตว์ป่าไม่กี่ตัวทำ โดย “ชื่อที่ใช้เรียกกัน” ของช้างเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของเสียงคำรามต่ำของช้างที่พวกมันสามารถได้ยินในระยะทางไกลทั่วทุ่งหญ้าสะวันนา นักชีววิทยาเผยว่า ใช้แมชชีน เลิร์นนิง เทคนิคการประมวลผลภาษาธรรมชาติ ตรวจจับการ “ใช้ชื่อ” ในคลังเสียงที่บันทึกการเปล่งเสียงของช้างสะวันนา ที่บันทึกไว้ที่เขตสงวนแห่งชาติแซมบูรูและอุทยานแห่งชาติอัมโบเซรี ในเคนยานักวิจัยทดสอบผลลัพธ์โดยการเล่นเสียงกับช้างแต่ละตัว พบว่ามีการตอบสนองอย่างกระฉับ กระเฉงมากขึ้น ช้างจะกระพือหูและงวงขึ้นเพื่อฟังเสียงบันทึกที่มี “ชื่อ” ของตนอยู่ในนั้น แต่บางครั้งช้างก็เพิกเฉยต่อเสียงที่เรียก “ชื่อ” ของตัวอื่นโดยสิ้นเชิง นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสัตว์ที่มีโครงสร้างทางสังคมที่ซับซ้อนและกลุ่มครอบครัวที่แยกจากกันและกลับมารวมตัวกันบ่อยครั้ง อาจมีแนวโน้มที่จะใช้การเรียกชื่อของแต่ละตัวมากกว่า อีกทั้งความสามารถในการเรียนรู้การออกเสียงเสียงใหม่ๆ ที่ไม่ซ้ำใครแบบที่มนุษย์ทำ และเป็นพรสวรรค์ที่หายาก ซึ่งช้างก็มีเช่นกัน.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่