หลังเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นประมุของค์ใหม่ของสหราชอาณาจักรได้ไม่กี่วันก็เจอดราม่าไวรัลคลิปหลุดว่อนโลกโซเชียลจนติดเทรนด์ทวิตเตอร์ ทำให้ทั้งโลกเข้าใจผิดว่า “พระเจ้าชาร์ลส์ที่สาม” ทรงเอาแต่พระทัยและชอบตีหน้ายักษ์ตำหนิข้าราชบริพารในเรื่องหยุมหยิมใครเป็นมือดีตัดต่อคลิปไม่รู้ แต่ที่แน่ๆคลิปหลุด 7 วินาที กลายเป็นไวรัลใหญ่โตก็เพราะฝีมือนักข่าวบีบีซี “ลอรา เกวนส์เบิร์ก” นำไปเผยแพร่บนทวิตเตอร์ส่วนตัว พร้อมเขียนบรรยายล่อเป้าว่า “มหาดเล็กต้องมาเคลียร์โต๊ะให้ฉัน ไม่ควรจะมาคาดหวังให้ฉันต้องขยับของเอง”ภาพของ “พระเจ้าชาร์ลส์ที่สาม” ทรงเร่งมหาดเล็กให้นำถาดวางปากกาที่กีดขวางการทรงงานให้พ้นจากโต๊ะทรงงาน ในระหว่างพิธีลงพระนามคำประกาศการเสด็จขึ้นครองราชย์ ณ ห้องรัฐพิธีพระราชวังเซนต์เจมส์ กรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา ถูกเผยแพร่และแชร์ต่อๆไปกว่า 3 ล้านวิว ภายในเวลาไม่ถึง 3 วัน พร้อมมีคนเข้ามาคอมเมนต์และเขียนวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนานาแม้ว่าเรื่องจริงจะแตกต่างจากคลิปหลุด 7 วินาที ด้วยทรงขึ้นชื่อว่าพระทัยดีและมีเมตตากับข้าราชบริพารรอบตัวเสมอ แต่ความไม่รอบคอบของทีมมหาดเล็กก็สร้างความด่างพร้อยให้กษัตริย์องค์ใหม่แห่งสหราชอาณาจักรตั้งแต่เริ่มต้น เพราะดันตระเตรียมโต๊ะตัวจิ๋วเกินไปสำหรับการทรงงานพิธีสำคัญระดับชาติ ในขณะที่มีเอกสารคำประกาศวางเต็มโต๊ะและยังมีถาดปากกากับถาดน้ำหมึกวางเกะกะอยู่...จะให้กษัตริย์จัดข้าวของบนโต๊ะทรงงานระหว่างกำลังทำพิธีสำคัญออกอากาศไปทั่วประเทศ ไม่น่าจะเป็นการสมพระเกียรติล่าสุด “พระเจ้าชาร์ลส์ที่สาม” ก็ทรงถูกจับภาพขณะกริ้วเรื่องปากกาหมึกเยิ้มอีกแล้ว ระหว่างกำลังลงพระนามสมุดเยี่ยมเยือนสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของไอร์แลนด์เหนือ พร้อมการตีข่าวจากสื่อท้องถิ่นหลายสำนักเรื่องการปรับโครงสร้างหน่วยราชการในพระองค์ครั้งใหญ่ ส่งผลให้มีข้าราชบริพารถูกลอยแพจากงานถึงร้อยคนรายงานข่าวระบุว่า เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้าราชบริพารนับร้อยคนที่สังกัดอยู่ในพระตำหนักคลาเรนส์ เฮาส์ ได้รับแจ้งเตือนว่าอาจต้องตกงานตอนแก่ ทั้งๆที่ทุ่มเทถวายชีวิตรับใช้องค์มกุฎราชกุมารมาหลายทศวรรษ เนื่องจาก “พระเจ้าชาร์ลส์ที่สาม” และ “สมเด็จพระราชินีองค์ใหม่” กำลังจะย้ายไปประทับอย่างเป็นทางการที่พระราชวังบั๊กกิ้งแฮม ซึ่งเป็นศูนย์กลางการบริหารของสถาบันกษัตริย์ จึงโปรดให้มีการจัดระเบียบราชการและการบริหารงานบุคคลของราชการในพระองค์ใหม่หมด งานนี้โดนหางเลขหมดตั้งแต่กรมราชเลขานุการในพระองค์ ซึ่งมีข้าราชบริพารอยู่ในสังกัด 31 คน, กรมกิจการในพระองค์ 12 คน, กรมมหาดเล็ก 28 คน และกรมสนับสนุนในด้านต่างๆ ตลอดจนพ่อครัว 4 คน, พ่อบ้าน 5 คน และบัตเลอร์อีก 2 คน ทั้งนี้สมัยที่ควีนเอลิซาเบธที่สองยังมีพระชนม์ชีพอยู่ ทรงมีข้าราชบริพารในสังกัดมากถึง 491 คน ขณะที่พระตำหนักคลาเรนส์ เฮาส์ มีข้าราชบริพารประจำอยู่ 101 คนภายใต้ยุคสมัยของกษัตริย์องค์ใหม่ที่โลกไม่ได้หมุนรอบบั๊กกิ้งแฮม หากปรารถนาจะให้สถาบันมั่นคงแข็งแกร่งปลอดภัยจากการถูกดิสรัปชัน การปรับตัวขนานใหญ่เพื่อให้มีความทันสมัย กระชับฉับไว และโปร่งใส ใช้งบน้อย คนน้อย แต่มีประสิทธิภาพขึ้น คงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ไม่ต่างจากองค์กรธุรกิจยุคใหม่ที่ต้องเร่งปรับตัวเพื่อความอยู่รอด.มิสแซฟไฟร์