เมื่อวันที่ 13 ก.ค. กองทัพอากาศศรีลังการะบุในแถลงการณ์ว่า นายโกตาบายา ราชปักษา ประธานาธิบดีศรีลังกา พร้อมด้วยภริยาและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 2 คน ออกเดินทางด้วยเครื่องบินของกองทัพอากาศศรีลังกาตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมาและถึงที่หมายยังเกาะมัลดีฟส์ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 13 ก.ค. นับเป็นการยุติการครองอำนาจในศรีลังกาของตระกูลราชปักษาตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ต่อมามีรายงานว่า นายโกตาบายาได้แต่งตั้งนายรานิล วิกรมสิงห์ นายกรัฐมนตรี ให้เป็นรักษาการประธานาธิบดีทั้งนี้ สำนักข่าวบีบีซีเผยว่า นายโกตาบายาจะไม่อยู่ในมัลดีฟส์ แต่ตั้งใจจะเดินทางไปยังประเทศที่ 3 ต่อไป แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็นที่ใด หลังจากต้องหลบหนีจากฝูงชนที่บุกเข้าไปภายในทำเนียบประธานาธิบดีเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน จนกระทั่งผู้นำศรีลังกาประกาศผ่านประธานรัฐสภาให้คำมั่นจะลาออกในวันที่ 13 ก.ค. นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่านายบาซิล ราชปักษา น้องชายคนเล็กของตระกูล อดีต รมว.คลัง ก็อยู่ในระหว่างการเดินทางสู่สหรัฐฯหลังข่าวการออกนอกประเทศของนายโกตาบายาแพร่สะพัด แม้ประชาชนบางส่วนจะโล่งใจแต่ก็มีอีกจำนวนมากที่ไม่พอใจ เนื่องจากต้องการนำตัวมาดำเนินคดีฐานคอร์รัปชันจึงออกไปชุมนุมในกรุงโคลัมโบตั้งแต่ช่วงเช้า โดยเฉพาะที่สวนสาธารณะกัลเล เฟซ กรีน ซึ่งเป็นสถานที่ประท้วงหลัก ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคนมุ่งหน้าไปยังทำเนียบนายกรัฐมนตรีบนถนนฟลาวเวอร์ โรดที่อยู่ห่างออกไปราว 20 นาที เพื่อกดดันให้นายรานิลออกจากตำแหน่งทันที โดยไม่ต้องรอให้จัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวแล้วเสร็จตามแผนของนายรานิล จนเหตุการณ์รุนแรงขึ้นตำรวจยิงแก๊สน้ำตาสลายกลุ่มผู้ประท้วง แต่ไม่สามารถยับยั้งได้ กระทั่งผู้ประท้วงสามารถบุกยึดทำเนียบฯได้ในที่สุดสำนักข่าวต่างประเทศยืนยันว่าขณะที่ผู้ประท้วงบุกเข้าไปยังทำเนียบฯ นั้น นายรานิลไม่ได้อยู่ภายใน และไม่ได้รับอันตราย ซึ่งตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่เปิดเผยว่าหลบซ่อนตัวอยู่ที่ใด ในระหว่างที่ยังคงออกคำสั่งในฐานะรักษาการประธานาธิบดีที่รวมถึงการประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศและคำสั่งเคอร์ฟิวในพื้นที่จังหวัดทางตะวันตกของประเทศรวมถึงกรุงโคลัมโบต่อมาประธานรัฐสภาศรีลังกาประกาศว่า นายโกตาบายาที่ขณะนี้อยู่นอกประเทศ ยืนยันการจัดการส่งจดหมายลาออกอย่างเป็นทางการภายในวันที่สัญญาไว้ ปูทางให้เริ่มกระบวนการเลือกผู้นำใหม่ โดยอนุญาตให้รักษาการประธานาธิบดีอยู่ในตำแหน่งสูงสุด 30 วัน ก่อนที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะลงมติเลือกผู้นำคนใหม่ต่อไป ซึ่งประธานาธิบดีคนใหม่จะสาบานตนไม่ได้จนกว่าผู้นำคนเก่าจะส่งหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการ.