“วันนี้ 12 มิ.ย.นี้ รัสเซียมีการจัดงานเฉลิมฉลองวันชาติรัสเซีย และเนื่องในโอกาสอันดีนี้ ข้าพเจ้า เยฟกินี โทมิคิน เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย ขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งต่อพลเมืองชาวรัสเซียและเพื่อนร่วมชาติชาวรัสเซียที่พำนักอาศัยและทำงานอยู่ในประเทศไทย”ปีนี้เป็นปีที่พิเศษ เนื่องในโอกาสครบรอบ 125 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างรัสเซียและไทย ซึ่งได้เริ่มต้นขึ้นในเหตุการณ์การเสด็จพระราชดำเนินเยือนจักรวรรดิรัสเซียในปี 2440 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) โดยจะมีการจัดงานรำลึกเพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบนี้ขึ้นมากมายทั้งในกรุงเทพฯ และกรุงมอสโกวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีการจัดงานการแสดงนาฏศิลป์รัสเซียและไทยสมัยใหม่และแบบดั้งเดิม โดยได้รับความร่วมมือจากโรงเรียนต่างๆในการออกแบบท่าเต้น ซึ่งได้จัดขึ้นที่โรงละครแห่งชาติในกรุงเทพฯ ทางพิพิธภัณฑ์เครมลินในกรุงมอสโกยังมีแผนที่จะจัดนิทรรศการที่นี่เป็นครั้งแรกในการจัดแสดงสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับไทยโดยมีศิลปินจากรัสเซียเข้าร่วมงานในเทศกาลดนตรีและนาฏศิลป์กรุงเทพฯประจำปีเป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่ไทยเป็นพันธมิตรที่มีความน่าเชื่อถือสำหรับรัสเซีย มีความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ร่วมกันโดยไม่มีข้อผูกมัด และไม่มีข้อพิพาททางการเมืองใดๆที่อาจจะขัดขวางความก้าวหน้าในความร่วมมือ ซึ่งแก่นแท้ของความแน่น แฟ้นคือ การเคารพในวัฒนธรรม ประเพณี ประวัติศาสตร์ และเป้าหมายการพัฒนาของกันและกัน ตลอดจนแนวทางที่ไม่เลือกปฏิบัติต่อค่านิยมของแต่ละประเทศมีพัฒนาการในหลากหลายด้านที่มีแนวโน้มว่าจะช่วยพัฒนาปฏิสัมพันธ์ของเราต่อไป ซึ่งรวมถึงด้านเทคโนโลยีขั้นสูง ชีวภาพและอวกาศ การต่อเรือ การปกป้องสิ่งแวดล้อม การผลิตวัสดุก่อสร้าง การบิน ทั้งเล็งเห็นศักยภาพในการส่งเสริมเครื่องมือทางการแพทย์ สินค้าเกษตร (ธัญพืช ปลา เนื้อวัว ผลิตภัณฑ์จากนม) แม้จะมีข้อจำกัดทางเศรษฐกิจอย่างมากจากมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียโดยชาติตะวันตก แต่เราต้องการแสดงความพร้อมเพื่อให้แน่ใจว่า ปุ๋ยราคาถูกจะได้ส่งไปยังพันธมิตรชาวไทยอย่างต่อเนื่อง วัคซีนที่ผลิตในรัสเซียอย่าง สปุตนิก วีและสปุตนิก ไลท์ จะอยู่ในรายชื่อวัคซีนที่ไทยรับรอง ซึ่งจะช่วยให้ชาวรัสเซียที่ได้รับวัคซีนเดินทางมายังไทยได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้นเราสนับสนุนให้ไทยเป็นประธานเอเปก (APEC) ในปี 2565 โดยเน้นการส่งเสริมเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) รัสเซียมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดในวาระการประชุมเอเปกของไทยและได้แบ่งปันเป้าหมายในการส่งเสริมการฟื้นตัวหลังยุคโควิด-19 การรับประกันความมั่นคงปลอดภัย เร่งสู่การเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล การรับประกันความมั่นคงด้านอาหาร การปกป้องห่วงโซ่อุปทานเพื่อรักษาความเชื่อมโยง และนำความร่วมมือระดับภูมิภาคไปสู่ระดับใหม่ที่ดียิ่งขึ้นภายใต้กลไกการทำงานที่นำโดยอาเซียน เป้าหมายในความร่วมมือระหว่างรัสเซีย-ไทยได้มุ่งเน้นไปที่การเอาชนะความท้าทายระดับโลกจากเหตุการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตลอดจนการส่งเสริมความร่วมมือด้านสุขภาพ การเชื่อมต่อการเดินทางให้กลับมาปกติอีกครั้ง และเนื่องด้วยปี 2565 นี้ เป็นปีที่ได้รับการประกาศให้เป็นปีแห่งความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างรัสเซียและอาเซียน ประเทศของเราแสดงให้เห็นถึงความสนใจร่วมกันที่เพิ่มมากขึ้นในด้านต่างๆ ซึ่งไม่เพียงแต่การผลิตวัคซีนและการวิจัยพลังงานสะอาด แต่ได้มีความสนใจร่วมกันในเชิงกลยุทธ์เช่น การทำงานร่วมกันเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายที่กำลังเกิดขึ้นรัฐบาลรัสเซียยังคงให้โอกาสในการศึกษาต่อในรัสเซียสำหรับนักศึกษาจากประเทศไทยที่มีความสามารถ โดยแต่ละปีได้มอบทุนการศึกษา 50 ทุน ซึ่งราวๆฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ เราจะเปิดการคัดเลือกใหม่สำหรับนักศึกษาและนักเรียนที่สนใจที่จะเริ่มต้นการศึกษาในรัสเซียในปี 2566 ที่จะถึงนี้ ปีที่แล้วรัสเซียและไทยได้มีการจัดการประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยขึ้นเป็นครั้งแรกที่จะช่วยเสริมสร้างความร่วมมือซึ่งกันและกันในการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2564 ประเทศของเรานั้นจะมีการประชุมร่วมกันเป็นครั้งที่ 3 ในด้านการศึกษาสำหรับผู้ที่มีพรสวรรค์และมีความสามารถโดดเด่นในการเรียน โดยมี สมเด็จพระกนิษฐา ธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธานด้วยข้อจำกัดที่เกิดขึ้นจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งในรัสเซียและไทยที่ปัจจุบันค่อยๆผ่อนคลายลง การท่องเที่ยวระหว่างทั้ง 2 ประเทศแสดงให้เห็นถึงสัญญาณของการฟื้นตัว โดยช่วง 3 เดือนแรกปีนี้ มีชาวรัสเซียกว่า 50,000 คน เดินทางมายังประเทศไทย ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียในช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน เมื่อฤดูกาลท่องเที่ยวใกล้จะกลับมา ไทยอาจจะได้เห็นชาวรัสเซียจำนวนมากเดินทางมาพักผ่อนที่นี่เพื่อรองรับชาวรัสเซียที่กำลังจะมาเยือนไทยที่เพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ 18 ก.พ. เราเปิดสำนักงานสถานกงสุลกิตติมศักดิ์รัสเซียในจังหวัดเชียงใหม่ ให้บริการแก่ชาวรัสเซียที่อาศัยอยู่ในสามจังหวัดทางภาคเหนือของไทย ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน ปัจจุบัน นอกจากสถานทูตรัสเซียในกรุงเทพฯ และสถานกงสุลใหญ่ในจังหวัดภูเก็ตแล้ว เรายังมีสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สามแห่งในเมืองพัทยา เกาะสมุย และจังหวัดเชียงใหม่“ผมมั่นใจว่าปีนี้มิตรภาพระหว่างรัสเซีย–ไทยจะแข็งแกร่งมากขึ้น ผมขอให้ทั้งสองประเทศของเรามีความเจริญรุ่งเรืองและมีความสุข มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเฉลิมฉลองวันครบรอบ 125 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตรัสเซีย–ไทย ไปด้วยกันนะครับ” ทูตรัสเซียกล่าวทิ้งท้าย.วีรพจน์ อินทรพันธ์