โดยทั่วไปแล้วไดโนเสาร์มีขนาดใหญ่มาก แต่การวิจัยใหม่เกี่ยวกับอัลวาเรซซอรัส (Alvarezsaurs) กลุ่มไดโนเสาร์ที่มีลักษณะคล้ายนก อาศัยอยู่ช่วงปลายจูราสสิกไปจนถึงปลายยุคครีเตเชียสเมื่อ 160–70 ล้านปีก่อนในภูมิภาคของโลก รวมถึงจีน มองโกเลีย และอเมริกาใต้ อัลวาเรซซอรัสคือนักล่ารูปร่างเพรียว เดินด้วย 2 ขาเกือบตลอดเวลาบนพื้นดิน ไล่จับเหยื่อคือกิ้งก่า สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมยุคแรก และลูกไดโนเสาร์เป็นอาหาร ทว่าก็พบความผิดปกติบางอย่างที่ชี้ว่าอัลวาเรซซอรัสลดขนาดตัวลงเมื่อราว 100 ล้านปีก่อน สาเหตุเนื่องมาจากการปรับเปลี่ยนชนิดอาหารงานวิจัยใหม่นี้นำโดย เสฉวน ฉิน นักศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยบริสตอลและสถาบันการศึกษาซากดึกดำบรรพ์สัตว์มีกระดูกสันหลังและการศึกษาทางบรรพมานุษยวิทยา ในปักกิ่ง เผยว่าได้วัดขนาดร่างกายจากซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิลไดโนเสาร์หลายสิบชิ้นของอัลวาเรซซอรัส พบว่าพวกมันมีขนาดตั้งแต่ 10-70 กิโลกรัม ขนาดเท่าไก่งวงตัวใหญ่ไปจนถึงนกกระจอกเทศตัวเล็กๆนักวิจัยอธิบายว่า ยุคครีเตเชียสเป็นช่วงที่ระบบนิเวศมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการที่ไม้ดอกค่อยๆเข้าครอบครอง ระบบนิเวศเปลี่ยนธรรมชาติของภูมิทัศน์ไปอย่างสิ้นเชิง ทว่าไดโนเสาร์ส่วนใหญ่ไม่ได้กินพืชชนิดใหม่เหล่านี้ ดังนั้น การเจริญรุ่งเรืองของพืชดอกได้นำไปสู่การเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมากมายของแมลงชนิดใหม่ รวมทั้งมด ปลวก ไดโนเสาร์บางชนิดก็หันมากินมดหรือปลวกจนส่งผลต่อวิวัฒนาการร่างกาย ตัวอย่างก็คืออัลวาเรซซอรัสขนาดเล็กจากมองโกเลียที่ชื่อ Mononykus ตัวเล็กยาว 1 เมตร หนัก 4-5 กิโลกรัม แขนสั้น แข็งแรง แต่ก็เหลือเพียงนิ้วเดียวซึ่งมีลักษณะคล้ายหนามแหลมสั้น ไม่เหมาะที่จะหยิบคว้าของ แต่เหมาะที่จะเจาะรูข้างจอมปลวกมากกว่า.Credit : Zichuan Qin