การสังเคราะห์แสงเป็นกระบวนการที่พืชและสาหร่ายใช้สร้างพลังงานของตัวเอง โดยใช้แสงอาทิตย์ช่วยดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศและปล่อยออกซิเจนออกมา สาหร่ายก็มีอยู่หลายประเภทตั้งแต่สายพันธุ์เล็กๆ เพียงเซลล์เดียว ไปจนถึงสายพันธุ์ที่มีใบใหญ่ เช่น สาหร่ายทะเลยักษ์อย่างที่รู้กันว่าสาหร่ายส่วนใหญ่นั้นอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นน้ำ เมื่อมีปริมาณไนโตรเจนและฟอสฟอรัสมากเกินไป พวกมันก็สามารถเพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็วจนเกิดการสะพรั่งของสาหร่ายที่มองเห็นได้ในทวีปแอนตาร์กติกที่ปกคุลมด้วยหิมะและน้ำแข็ง ก็มีสาหร่ายเติบโตอยู่ได้เช่นกัน พวกมันทานทนต่อสภาพอากาศอันหนาวเย็น ซึ่งรู้จักกันในชื่อ “สาหร่ายหิมะ”แต่เมื่อเร็วๆนี้ มีการศึกษาใหม่จากนักวิจัยของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์และคณะสำรวจทวีปแอนตาร์กติกาแห่งสหราชอาณาจักร พบว่าสาหร่ายขนาดเล็กๆ ก็มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศของแอนตาร์กติกาและวัฏจักรที่ขับเคลื่อนด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ทีมวิจัยเผยว่า หลังจากได้รวมข้อมูลดาวเทียมเข้ากับการสำรวจภาคพื้นดินในช่วงฤดูร้อนที่ขั้วโลกเหนือเพื่อสำรวจและวัดปริมาณสาหร่ายหิมะสีเขียว จนสร้างแผนที่ขนาดใหญ่ของสาหร่ายขนาดเล็กเมื่อพวกมันบานทั่วพื้นผิวหิมะตามแนวชายฝั่งคาบสมุทรแอนตาร์กติก ผลลัพธ์บ่งชี้ว่าแม้สาหร่ายเหล่านี้จะมีขนาดเล็ก แต่ก็มีแนวโน้มจะแพร่กระจายเมื่ออุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้น และเมื่อเกิดการขยายตัวพวกมันก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวสดบนหิมะ จนมองเห็นได้จากอวกาศนักวิจัยเผยว่า สาหร่ายหิมะเป็นองค์ประกอบสำคัญของความสามารถของทวีปแอนตาร์กติกาในการดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศผ่านการสังเคราะห์ด้วยแสงการวิจัยใหม่ครั้งนี้ จึงนับว่าเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญสำหรับนักวิจัยที่จะทำให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตบนบกในทวีปแอนตาร์กติกา ว่าอาจเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เมื่อภูมิอากาศโลกอุ่นขึ้น.ภัค เศารยะ