ความขัดแย้งในเยเมนเกิดขึ้นระหว่างรัฐบาลเยเมนกับกลุ่มกบฏฮูธิ รัฐบาลเยเมนได้รับการสนับสนุนโดยกองทัพพันธมิตรซาอุดีอาระเบีย ส่วนกลุ่มกบฏฮูธิได้รับการหนุนจากอิหร่าน การต่อสู้ในระยะหลังๆ ทั้งสองฝ่ายเริ่มใช้โดรน กองทัพพันธมิตรซาอุฯ จึงต้องโจมตีเพื่อทำลายแหล่งเก็บจรวดและอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน ฝ่ายกบฏฮูธิก็จ้องใช้จรวดและโดรนเข้าไปเล่นงานซาอุฯ และพวกอยู่เป็นประจำนายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ บันทึกในรายงานประจำปีที่ส่งให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2562 ว่าใน พ.ศ.2561 กองกำลังพันธมิตรซาอุดีอาระเบีย-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทำให้เด็กในเยเมนได้รับบาดเจ็บ+เสียชีวิตรวม 729 คน แต่ถ้ารวมการต่อสู้ของทุกฝ่ายเมื่อ พ.ศ.2561 ในสงครามเยเมนที่ผ่านมา เด็กเยเมนเสียชีวิตทั้งหมด 576 คน พิการ 1,113 คนต้นเดือนกันยายน 2562 หน่วยกาชาดสากลให้ตัวเลขว่า กองกำลังพันธมิตรซาอุฯ ทิ้งระเบิดเพื่อถล่มกบฏฮูธิในเยเมน แต่ไปโดนนักโทษในเมืองธาร์มาทางภาคใต้ของเยเมน มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเกิน 100 คนรัสเซียและจีนประกาศหนุนอิหร่าน ส่วนสหรัฐฯหนุนซาอุฯ และพันธมิตร สัปดาห์ที่แล้ว จีนทำเป็นไก๋ส่งทหารเกือบ 5,000 นายเข้าไปในดินแดนอิหร่าน โดยประกาศว่าเพื่อปกป้องการลงทุนของจีนที่ลงทุนในเรื่องน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และปิโตรเคมี ในอิหร่าน ซึ่งลงทุนไปแล้ว 2.8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 8.4 ล้านล้านบาท ความสัมพันธ์ของอิหร่านและจีนมีมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านไปเยือนจีน แล้วก็ออกแถลงการณ์ว่า จีนจะเพิ่มการลงทุนภาคการขนส่งอีก 1.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รัสเซียออกมาตำหนิสหรัฐฯที่บุ่มบ่ามไปคว่ำบาตรอยาโตเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียประกาศยืนหยัดเป็นพันธมิตรกับอิหร่าน ดูจากการเปิดหน้าชกของแต่ละฝ่ายแล้ว เราก็พอมองเห็นนะครับ ว่าฝีมือกบฏฮูธิก็คงจะไม่ใช่ย่อย อาจจะได้รับการสนับสนุนอย่างลับๆ จากมหามิตรของอิหร่านเช้ามืด 14 กันยายน 2562 ฝูงโดรนไม่ต่ำกว่า 10 ลำบินไปโจมตีโรงกลั่นน้ำมันอับกาอิกและคูรานิส ซึ่งเป็นหนึ่งในนิคมการผลิตน้ำมันดิบขนาดใหญ่ของซาอุดีอารามโก รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานรายใหญ่ที่สุดของซาอุดีอาระเบีย ทำให้รัฐมนตรีพลังงานระงับการผลิตที่โรงกลั่นทั้งสอง น้ำมันออกสู่ตลาดโลกน้อยลงประมาณ 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน การผลิตน้ำมันของซาอุฯลดลงไปมากกว่าครึ่งกลุ่มที่ออกมาประกาศว่า ‘ข้าทำเอง’ คือกบฏฮูธิในเยเมน และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฮูธิส่งโดรนไปถล่มซาอุฯ เดือนพฤษภาคม 2562 ฮูธิส่งโดรนไปถล่มสถานีสูบน้ำมันซาอุฯ 2 แห่ง สิงหาคมก็ส่งโดรนไปโจมตีบ่อน้ำมันชัยบาห์ พอพันธมิตรของตัวเองโดนถล่มจนไฟไหม้โรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่อันดับ 1 และ 2 ของโลกจนป่นปี้ สหรัฐฯและอังกฤษต่างก็ออกมาชี้ไปที่อิหร่าน บอกว่าด้วยศักยภาพของกบฏฮูธิไม่มีทางจะทำงานใหญ่อย่างนี้ได้ ไอ้พวกปฏิบัติการที่อยู่เบื้องหลังจะต้องเป็นอิหร่านอย่างแน่นอนคนที่โก่งคอขันเรื่องนี้ดังที่สุดคือนายปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แกขันซ้ำๆ หลายครั้งว่า เอ้ก อิหร่าน เอ้ก อิหร่าน แล้วก็ขอให้ประชาคมโลกช่วยกันประณามอิหร่าน เดิมปลายเดือนนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานีของอิหร่าน มีกำหนดการจะหารือกันนอกรอบในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่นครนิวยอร์ก แต่พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา ก็มีแนวโน้มว่าอาจจะไม่ได้ปรึกษาหารือและโลกก็คงจะต้องยุ่งเหยิงกันต่อไปประวัติศาสตร์การผลิตน้ำมัน ไม่เคยเลยที่การผลิตจะหายไป 5 ล้านบาร์เรลต่อวันหรือประมาณร้อยละ 5 ของการผลิตทั้งโลก ต่อไปนี้ ผู้อ่านท่านก็คงจินตนาการออกนะครับ ว่าราคาน้ำมันน่าจะสูงขึ้น อย่างน้อยๆก็ร้อยละ 5-10ส่วนการเอาคืนนั้น คิดว่าซาอุฯและพันธมิตรคงทำแน่นอนครับ.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com