เปรี้ยวแซ่บขัดใจแม่ แต่ พีค-ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ นางเอกสาว พาความเปรี้ยงปังกับกระแสความดังของ “โซ่เสน่หา” ทางช่อง 7 ส่งให้เรตติ้งพุ่ง 7.7 แบบสวยๆ พิสูจน์ฝีมือจิ๋วแต่แจ๋วเลย “บันเทิงไทยรัฐ” เลยคว้าสาวฮอตสุดพีกมาเปิดใจกับกระแสตอบรับที่ดี๊ดีว่า “พีคขอบคุณมากนะคะ สำหรับกระแสตอบรับจากแฟนๆ ที่ชื่นชมกับการสวมบทดราม่าเข้มข้นครบรสในครั้งนี้ พีคได้มีโอกาสเล่นทั้งในบทบาทของลูก และบทบาทของแม่ในเวลาเดียวกัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นบทที่ทำให้พีคได้พิสูจน์ฝีมือ พอได้ทราบว่าเรตติ้งตอนนี้พุ่งสูงถึง 7.7แล้ว ต้องขอใช้วลีเด็ดของพี่เปิ้ลเลยค่ะ “คุณแม่สบายใจ” พีคก็ดีใจมากค่ะ”ย้อนถามการทำงานกับพอร์ช-ศรัณย์ เป็นครั้งแรกได้เห็นความตลกโปกฮาขนาดไหน “ดีที่พอร์ชเค้ามีประสบการณ์ละครเค้าเป็นคนที่เล่นละครดี เราเล่นส่งพลังไปด้วยกันได้ดี เค้าเป็นคนคุยสนุกขี้เล่น พีคก็ขี้เล่นแต่ไม่ค่อยมีโอกาสได้เล่นเท่าไหร่ เพราะถ่ายเยอะมาก ไม่มีเวลาได้ชิลขนาดนั้น ส่วนใหญ่ปะทะในฉากเรื่องนี้ดราม่าเยอะ” พอร์ชบอกว่าพีคอินเนอร์แรง ดิ้นแรงมาก ทำไมต้องมาเต็ม “แต่เค้าก็โยนพีคลงเตียงแรงมากเหมือนโยนกระเป๋าเลย (หัวเราะ) ฉากนั้นเล่นมันมากตัดออกมาไม่หมด วิ่งกระโดดข้ามเตียงแล้วโดนโยนกลับมา สนุกมากตอนถ่าย” นึกว่าเป็นพระเอกนางเอกสายโหด สู้กัน ปะทะกันตลอด “พีคว่าสนุกดีเพราะเราไม่ยอมอยู่แล้ว” พอร์ชแอบเม้าท์พีคตบจนน้ำตาเล็ดเลยนะ “(ยิ้ม) มีโคลสอัพหน้ายู้เลย พีคเป็นคนเล่นจริง ขอตบจริง แต่มีความยั้งไว้บ้างพอผ่านเรื่องนี้ถนัดแล้วค่ะ (หัวเราะ)” สิ่งนึงที่สร้างความฮือฮาพีคใส่ชุดว่ายน้ำแบบจัดเต็ม มาก “กล้าแบบครึ่งๆ ยังไม่ขนาดนั้นเพราะเป็นฉากอยู่ทะเล ชีวิตจริงคนเราเวลาว่ายน้ำคงใส่อะไรที่สะดวกในการว่ายน้ำปกติ พีคมองว่ามันก็สมเหตุสมผลเพราะเราอยู่ทะเลใช้ชีวิตแบบนั้นจริงๆ ภาพที่ออกมาค่อนข้างสมจริง เลยโอเคใส่ได้” ชุดว่ายน้ำขนมาเองเลย “ค่ะ พีคขนเสื้อผ้ามากองเยอะมาก เพิ่งขนกลับไปเอง อองฟองบ่นเลยว่าทำไมอาพีคเอาเสื้อผ้าไปหมดเลย หมดตู้เลย คือในชีวิตประจำวันพีคจะเป็นคนแต่งตัวสบายๆ อย่างพีคจะมีเสื้อผ้าเหมือนของดีไซเนอร์ต่างๆ ที่ เป็นแนวเปรี้ยวๆ เค้าตัดมาไซส์ของพีคจะมีเก็บในตู้เยอะมาก พีคเลยถือโอกาสนำมาใช้เลย เราเป็นคนตัวเล็กถ้าใส่เสื้อผ้าที่พอดีเราจะมั่นใจจะดูพอดี ถ้าใส่หลวมไปดูตัวเล็ก เลยขนไปเอง” เป็นแบบนี้ทุกเรื่องมั้ยที่ขนเสื้อผ้าไปเอง “ถ้าคาแรกเตอร์ที่ตัวละครตัวนี้นึกภาพออกเราขนเสื้อผ้าไปได้ แต่บางเรื่องมันไม่ใช่แบบที่พีคมีก็ไม่ได้ใช้” ส่วนใหญ่จะเห็นพีคใส่ขาสั้นตลอดๆ “ชีวิตประจำวันก็ใส่ แต่ในเรื่องนี้จะใส่ขาสั้นตอนอยู่ทะเล ถ้าพีคใส่ขาสั้น เสื้อจะใส่โคร่งๆ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่แค่รัดรูปแบบเปิดเลยอาจจะตกใจกันนิดนึง อาจจะเป็นเราตัวเล็กๆอาจจะไม่มีอะไรมากมาย (หัวเราะ)” ที่เห็นตู้มๆเป็นของจริงทั้งหมดหรือมีตัวช่วย “ของจริงค่ะ ตามทรงของเสื้อค่ะ (หัวเราะ)” ตอนใส่ชุดว่ายน้ำ พอร์ชถึงขั้นไม่กล้ามอง “ตอนถ่ายจะไม่คิดตรงนั้น เพราะคิดเราจะทำงานไม่ได้ เป็นช่วงสั้นๆ ก่อนถ่ายจะปิดอยู่แล้ว เล่นเสร็จก็เอาเสื้อปิด”เรื่องนี้ต้องมีลูกด้วย แล้วก่อนหน้าเคยรับบทเป็นแม่มาก่อนมั้ย “ไม่มีค่ะ อองฟองเอง พีคก็ไม่ได้เลี้ยงตอนเบบี้ มาเล่นกับเค้าตอนโตแล้ว” ต้องอุ้มเด็กเล็กกลัวมั้ย “ตอนแรกพีคพยายามศึกษาวิธีเลี้ยงลูก แต่เราไม่ต้องศึกษาอะไรมากเพราะเป็นท้องแรก แต่พีคศึกษาคนมีท้องแรก เค้าเดินยังไง แม่ท้องแรก มีความเก้ๆ กังๆ ปวดหลังเพราะท้องหนักเวลาเดินเก้ๆ กังๆ อยู่แล้ว ต้องจินตนาการเอาเอง ตอนอุ้มเด็กก็ไม่กลัว เราเซฟให้น้อง มีซีนนึงอุ้มน้อง แต่ท่าไม่ได้ถูกต้อง คิดคุยกับผู้กำกับ ท่ามันแปลกๆ แต่เรามั่นใจเราอุ้มได้” พอมาเจอณดลก็ได้ความร่วมมือดีมาก “ณดลก็น่ารัก แต่นอกบทตลอด บอกณดลให้วิ่งตรงนี้เราก็หลอกล่อชวนให้ขนมปังปลา พีคจะสมมติเป็นแม่หมี เค้าเป็นลูกหมู เด็กเค้างงๆ พอเรียกเค้าทำตามเดินมาจูงเรา แต่แทนที่จะจูงไปตรงจุดที่กล้องอยู่ กลับจูงเราเดินออกนอกจุดนั้นไปเลย ทำแบบนี้ทุกรอบ (หัวเราะ) ตอนแรกคิดว่า 5 โมงน่าจะถ่ายเสร็จ ปรากฏว่า 6 โมงครึ่งก็ยังไม่รอดจนแม่กบมายืนประกบ เอาเลโก้ มาหลอกล่อณดล ยังไม่สำเร็จเลย ต้องแกะให้เค้าเล่น วันนั้นคิดว่าจะไปออกกำลังกายต่อกลายเป็นพีคไม่ไปแล้ว (หัวเราะ) เจอณดลรู้เลยเป็นยังไง แต่วันนั้นสนุก เพียงแต่โปรแกรมพัง โอเคๆ กลับบ้านพักค่ะ” พอเริ่มรับละครรับต่อเนื่องเลยหรือพักร่างก่อน “ตอนนี้ก็รับเรื่องเหนี่ยวหัวใจสุดไกลปืน เป็นซีรีส์ ภารกิจรัก เล่นกับทหารสามเหล่าทัพกับหนึ่งตำรวจ จะอยู่ในพาร์ตทหารบก พีครับบทเป็นคุณหมอ คาแรกเตอร์ไม่ค่อยโตมาก แต่บทเป็นหมอก็ไกลตัว มีความโก๊ะมีความรอบคอบและสังเกต สิ่งที่พีคใส่เข้าไปเยอะๆ ความทะมัดทะแมงเป็นหมออาสาจะบู๊ ไม่ดูอ่อนแอ แต่อ่อนแอตอนหนีคนตามล่า พระเอกคือพี่เวียร์-ศุกลวัฒน์ พาหนี มีความอ่อน แอและกุ๊กกิ๊ก สไตล์พระ-เอกนางเอก” ความสนุกหรือสิ่งที่ได้รับ “ได้ ความแข็งแรงเพิ่มขึ้นเพราะพีคไปออกป่าทุกอาทิตย์เลย พีคอยู่ในป่า ตอนแรกไม่คิดว่าเป็นละครบู๊ขนาดนี้ ออกป่าพีคโดนยุงมาชน พีคแพ้ยุงอยู่แล้ว และปกติจะทากันยุงแต่วันนั้นลงไป 8 โมงกว่า แดด จ้าๆ ไม่คิด ว่ามียุงมาหาเราตอนนั้นถ่าย แป๊บเดียว ไปสระบุรี ไปถ่ายในถ้ำ เวลาไปออกกองสนุกมากเป็นวันที่ไม่มีสัญญาณ ร้อนก็ร้อน มากๆ พอเดินลงเขาเป็นถ้ำอากาศเย็นมากเหมือนเปิดแอร์ นี่ถือเป็นสิ่งมหัศ-จรรย์ธรรมชาติมากๆ พีคกับพี่เวียร์เลยย้ายสำมโนครัวไปอยู่หน้าถ้ำ มัน เย็นสบาย ธรรม-ชาติให้มาดีมาก ทึ่งและดีใจ เรื่องนี้ลุยมาก วิ่งหนีคนจับตัวเราไป ต้องวิ่งป่าสระบุรี ป่านครนายก ป่านครปฐม แต่พี่เวียร์อึ้งกับพีคเหมือนกันเพราะออกกองวันแรกไปน้ำตกเอราวัณ เวลาเดินขึ้นน้ำตกจะมีคนคอยมาจูงเรา พีคไม่รอวิ่งไปเลย สุดท้ายไม่มีใครมาดูเพราะรู้ว่าเราเอาตัวรอดได้ พี่เวียร์บอกพีคขาแข็งแรงมาก ก่อน หน้านี้พีคออกกำลังกายมา ถามว่าเจอละครแบบนี้เหนื่อยมั้ยเหนื่อย แต่เรารับมือได้สบายเลยรู้สึกโชคดีไปเลย อะไรที่เข้มแข็งเราลุยได้จริงๆ”ช่วงนี้เวลาว่างน้อยหลานมีงอนบ้างมั้ย “ไม่ค่ะ พีคพอมี เวลาว่างปุ๊บจะไปรับที่โรงเรียนเลยและพาไปทานข้าว” มีคนเข้าใจอองฟองผิดคิดว่าเป็นลูกมั้ย “โชคดีมีคนรู้จักอองฟองคนเลยรู้ว่าหลานถ้าคนไม่รู้ก็อาจจะเข้าใจเป็นลูก เพราะพีคเองก็เรียกเค้าว่าลูกด้วยนะ” เรียกหลานว่าลูกเป็นการป้องกันหนุ่มๆมาจีบเหรอ “พีครู้สึกว่าอยู่กับเค้าสนุกดี การพูดจาน่ารัก ฉลาด จริงใจ เวลาพูดอะไรเหมือนผู้ใหญ่พูดแต่ภาษาเด็กดูน่ารัก พีคอยู่กับหลานทำให้เรามีความใจเย็น ทุกอย่างแก้ไขได้ มีคำพูดให้เด็กรอได้ เราดูแลเค้าแต่เค้าทำให้เราเหมือนรอบครอบขึ้น ใจเย็นขึ้น” แน่ใจนะว่าความโก๊ะของพีคลดลงเพราะพอร์ชยังคอนเฟิร์มอยู่เลย พีคทำท่านึกความโก๊ะของตัวเอง “อยู่กองพีคว่าไม่ได้ทำอะไรนะ แต่อาจจะเพราะพีคพูดตรงๆและมีบ่นเค้ามากกว่า อย่างพรุ่งนี้มีคิวด้วยกัน พีคจะพูดกับพอร์ช คืนนี้ไม่ต้องออกไปไหน ไม่ต้องไปซ่าส์ที่ไหนนะ นอนเยอะๆเลยจะได้มาถ่าย พูดแทบทุกครั้งจนหลังๆเลิกพูดแล้ว พีคอยากให้เค้าเต็มที่ ไม่ได้อยากไปยุ่งกับเค้าหรอก แต่เราต้องยุ่งแต่เค้าต้องเล่นกับเราเลยต้องพูด (หัวเราะ)” ความรักตอนนี้มีเข้ามาให้เรามุ้งมิ้งหรือปิดไปแล้ว “ไม่ได้ปิดอยู่แล้ว” เลือกได้ยัง “ช่างเป็นคำถามจี๊ดจริงๆ (หัวเราะ) ยังค่ะ พูดเหมือนเดิมยังไม่รีบ” คนยังลุ้นรีเทิร์นกับพี่เต๋อ ฉันท-วิชช์ รออยู่นะ “ได้ถามฝั่งโน่นบ้างมั้ยคะ” เค้าก็รอเราแหละ “โอ๊ย ทำไมมีแต่คนพูดกับพีคแบบนี้ (หัวเราะ) หลายๆ คนพูดลักษณะแบบนี้ แต่พีคพอจบเหมือนเราต้องมูฟออน ก้าวไปข้างหน้า วันนึงจะมาเจอกันมั้ย พีคไม่สามารถพูดได้เลยว่าไม่มีทาง ไม่รู้จริงๆ แต่ ณ วันนี้ ยังไม่ได้คิดอยากอยู่กับใครขนาดนั้น” หวงความโสด “รักตัวเองมากกว่า ตอนนี้พีคได้มาทำอะไรเยอะๆ มันก็สนุก” เป้าหมายชีวิตเปลี่ยนไป “เปลี่ยนเลยค่ะ เมื่อก่อนอันดับแรกที่คิดแฟนและครอบครัว เหมือนเราจัดเวลาไม่ถูกเหมือนเด็กติดแฟนนิดนึง ปัจจุบันเอาเวลาให้ครอบครัว ให้ตัวเอง บวกกับเราทำงานเยอะๆ มันต้องแบ่งเวลาให้ดี เพราะทุกเวลามีค่ามาก รู้สึกเท่านี้มันโอเค ขนาดเจอเพื่อนยังไม่เจอ เพื่อนรู้ทำงานหายไปเลยไม่ต้องโทร.มาด้วยนะ บางทีโทร.มาก็ไม่ได้รับ (555)”ยิ่งโตทัศนคติความรักเราเปลี่ยนไปเยอะสิ “ตอนนี้พีคอยากทำดีกับคนที่เรารักและรักเราให้มากที่สุด นึกถึงพ่อแม่ก่อน อายุเยอะแล้วเราไม่รู้ว่าเค้าจะอยู่กับเราได้มากน้อยแค่ไหน วันที่พีคมีเวลาให้กับเค้าเหมือนทำให้เค้าได้ พีคอยากให้เค้ากลับไปมากที่สุด ตอนนี้อยากให้เต็มที่ แป๊บๆ อายุ 60 แล้ว พีคมานั่งคิดนะคนเราอายุจะอยู่ถึงเมื่อไหร่ 80 ก็เก่งแล้ว ตอนนี้พ่อแม่อายุ 60 แล้ว ชีวิตเรานับเดินหน้าแต่เค้านับถอยหลังแล้ว พีคเลยรู้สึกเราคิดได้แล้วนะพีคก็เลยโฟกัสที่เค้าก่อน พีคยังมีเวลาให้กับตัวเองอีก ส่วนเรื่องแฟน พีคเชื่อว่ายังไงต้องมีคนพอดีกับเราแหละแต่ว่ารอให้ถึงวันที่มันจะต้องมีจริงๆ บวกกับพ่อแม่พีคไม่ได้มาคิดลูกจะแต่งงานเมื่อไหร่เพราะทุกวันนี้เค้าก็เห็นลูกมีความสุขดี พีคดูแลตัวเองได้แล้วเค้าเลยไม่ห่วง วันนึงพีคคงเลือกเองแหละจะอยู่กับใครแบบไหน” มั่นใจมีเนื้อคู่ “คิดว่ามีค่ะ ถ้าสมมติว่าไม่มีจริงๆ เราก็ต้องอยู่ให้ได้ มีอะไรเยอะแยะโตขึ้นมาเราดูแลเด็กที่ลำบากเอาเค้ามาดูแลก็ได้ สามารถทำได้”.
