คืนจอ ช่อง 3 อีกครั้งในรอบ 10 ปี ซุปตาร์หล่อขั้นเทพแห่งยุค 90 "โดม-ปกรณ์ ลัม" เสิร์ฟบทบาท คุณปุ๊ หรือ ปุริม ในละครดราม่าเข้มข้น "น้ำผึ้งขม" เวอร์ชัน 2025 ทางช่อง 3 ผลิตโดยค่ายจันทร์ 25 ประกบคู่นางเอกหน้าหวาน “ยิหวา–ปรียากานต์ ใจกันทะ” รับบท นุ้ย ที่เวอร์ชันนี้ ตีความใหม่ทันสมัยแต่ไม่ทิ้งเสน่ห์ความอมตะของละคร ทำเอาคนดูอินจัด ทั้งลุ้นทั้งสงสารในความสัมพันธ์ของ ปุริม–นุ้ย ส่งผลให้ละครกระแสแรงเรตติ้งปัง ทำเอาช่อง 3 เพิ่มช่วงเวลาความสนุกจัดเต็มออกอากาศ 4 วันต่อเนื่อง จันทร์-พฤหัสบดี เสิร์ฟแฟนๆให้สาแก่ใจ เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 10 พ.ย.นี้ เลยชวน “โดม” เปิดใจ“โดม” ตีความ “คุณปุ๊” เวอร์ชันนี้ยังไง?“ด้วยความที่เป็นละครตบจูบหนักมากแต่เวอร์ชันนี้อาจจะไม่ใช่ เพราะบริบทมันเปลี่ยนไป คุณปุ๊ ณ พ.ศ.นี้ ก็คิดแบบเดิมไม่ได้ ต้องกลม มีความเป็นมนุษย์ แบบเดิมจะค่อนข้างตบจูบหนักมาก ย่ำยีจิตใจ เวอร์ชันนี้มีโดนกลับ ส่วนคนที่เหมือนจะร้ายที่สุด ก็โกรธไม่ลง ตัวละครแต่ละตัวจะมีความน่ารักและน่าสงสารอยู่ในตัว อย่าง ตัวนุ้ย นางเอกรอดมาได้ทุกเรื่องเพราะนุ้ยเป็นคนดี” ความยากในเรื่องนี้? “ยากหมด ยากจริงๆ สำหรับผมการเล่นละครต้องใช้ทั้งร่างกายและจิตใจ ทุกอย่างต้องพร้อม ผมต้องหยุดรับงานร้องเพลง เพราะมันกระทบ สำหรับผมยากทุกเรื่องไม่มีเรื่องไหนง่ายเลย ซึ่งเรื่องนี้ ถ่ายทำจบไปเมื่อ 4-5 ปีที่แล้วได้ ระหว่างทางก็มีเบรกไปเกือบปี เจอช่วงโควิด แล้วพอต้องมาถ่ายต่อ ผมบวมขึ้น 10 กว่า กก. เป็นหนึ่งปีที่ไม่มีกิจกรรมอะไร นอนอยู่บ้าน ปล่อยจอย ในเรื่องคุณปุ๊หรือคุณปุริมก็เลยมียุบๆพองๆบ้าง หลังถ่ายจบบวมมาอีก 10 โล เป็น 20 โล แต่ผมทุ่มเทมาก ใส่เต็มที่ผมอินกับเรื่องนี้มาก” เป็นรักต่างวัยของพระนางเราถ่ายทอดออกมายังไงให้เป็นน้ำผึ้งขมเวอร์ชันใหม่ทันยุคสมัย? “ยุคนี้มันก็ต้องชูก้าแด๊ดดี้ครับ ในยุคนี้มีน้องๆเค้าชอบคนที่อายุเยอะกว่ากันเยอะเหมือนกัน มันอาจจะเป็นไทป์นึงของสาวๆที่คบแล้วรู้สึกอุ่นใจ สบาย เป็นสิริมงคล ก็มี ผมว่าเดี๋ยวนี้ทุกอย่างเปิดทั้งเรื่อง เพศ สถานะ วัยที่ต่างกัน” การร่วมงานกับ “ยิหวา” เป็นยังไงบ้าง?“กับยิหวาคือเค้าแมนดี เห็นว่าตัวเล็กๆน่ารัก ดูบอบบางก็คิดนะว่าเค้าคงจะเรียบร้อย คุยไม่รู้เรื่องไหม สรุปแล้วเค้าคือชายในร่างหญิง น้องน่ารักมาก เค้าอดทนมากๆ ใจน้องมันได้ เขียวช้ำทั้งตัวจนผมเกรงใจเค้ามากๆ เค้าสู้มาก ผมขอโทษเขาแล้วขอโทษอีก พอหลังๆเริ่มจับจังหวะได้ คือไม่รู้ว่ามาเล่นละครหรือมาเล่นมวยปล้ำ แต่นางสู้มาก บอกเต็มที่เลยพี่ไม่เป็นไร ไม่กลัวเจ็บไม่กลัวอะไร แล้วยังต้องร้องไห้ทั้งวัน” แล้วการปะทะบทบาทกับ “แคทรียา อิงลิช” เป็นยังไงบ้าง? “สนุกเลย รู้จักกันอยู่แล้ว เจ๊แกเป็นคนห้าวแต่เก่ง ให้ทำอะไรทำได้หมด จะให้ร้องหรือให้เต้น พอมาทำงานแสดงก็ทำได้ดี”รู้สึกยังไงที่คำว่า หล่อขั้นเทพ เป็นภาพจำของโดม ไม่มีใครโค่น และยังฮอตอยู่?“รู้สึกเป็นเกียรติที่ทุกคนยังมองอย่างนี้อยู่ แต่ผมมองว่าเราอย่าไปฝืนหรือพยายามว่าฉันต้องหล่อวัยรุ่น ดูเด็ก หล่อตามวัยให้สมวัยแล้วก็ดูสมาร์ทดีกว่า คำว่าสมาร์ทไม่ใช่แค่แต่งตัวสมาร์ทโก้ ผมว่าต้องสมาร์ทที่ความคิดดี สุขภาพจิตดี ชวนกันแก่แบบสุขภาพดี สมาร์ทในเวย์เรา ไม่จำเป็นต้องหน้าตึงเป๊ะตลอด (หัวเราะ)” ภาพจำความหล่อขั้นเทพ สร้างแรงกดดันให้เรามั้ย? “จริงๆความหล่อไม่ยั่งยืน คนเราหยุดร่างกายให้ไม่แก่ไม่ได้ แต่เราแก่แบบคูลๆเท่ๆได้ แก่ในความเป็นเรา เพราะฉะนั้นเลยเป็นจุดที่หันมาดูแลสุขภาพ เพราะมองว่าถ้าเราแก่แล้วต้องไม่ป่วย จะแก่แล้วเป็นภาระคนอื่นไม่ได้ บวกกับพอเรามาออกกำลังกาย ไปวิ่งที่สวนสาธารณะ เราได้เห็นโลกอีกด้านหนึ่งคุณลุงอายุ 74 ปี ซ้อมไปฟูลมาราธอน คุณป้ากลุ่มหนึ่งอายุ 70 กว่าไปลงอัลตราเลยรู้ว่า young at heart จริงๆ ทุกคนทำได้แต่ต้องเริ่มทำ เลยเริ่มทำตั้งแต่วันนั้น”เราก็เป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นเรื่องหุ่นแซ่บด้วย?“จริงๆ เกือบหลับแต่กลับมาได้ (หัวเราะ) คนเรามันไม่มีอะไรโรยด้วยกลีบกุหลาบ ตอนนั้นเกือบป่วยแล้วก็เลยกลับลำ ตอนนั้นจากเดิมน้ำหนัก 70 ขึ้นมา 20 กก. เป็น 90 กก. วันนี้ลดลงมาได้เหลือ 65 กก. เปลี่ยนทั้งเรื่องโภชนาการ มาออกกำลังกายหนักๆ นอกจากเรื่องภายนอกดูหุ่นดี น้ำหนักอยู่ในทรงที่ควรจะเป็น ข้างในก็ดีด้วย ไขมัน เลือด น้ำตาล ค่าต่างๆดีหมด ทำให้รู้ว่าถ้าเรารักษาไปได้อย่างนี้เรื่อยๆ เป้าหมายว่าเราจะไม่เป็นภาระคนอื่น น่าจะทำได้” ตอนตัดสินใจลดวันนั้นรู้สึกยังไงกับตัวเองที่ไม่ไหวแล้ว? “ผมเริ่มมีโรคหยุดหายใจ เกี่ยวกับเรื่องน้ำหนักด้วย เหมือนคนน้ำหนักเกินแล้วกรนจนไปบังหลอดลม ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ความดันสูง น้ำตาลเกินด้วย คุณหมอก็เตือน เริ่มมีสัญญาณหลายๆอย่าง เริ่มรู้สึกว่าคนที่อายุ 50-60 แล้วติดเตียงก็เพราะเริ่มจากพฤติกรรมแบบนี้ เลยลองสักตั้ง ปักธงกับตัวเอง”เคยเสียเซลฟ์มั้ยตอนน้ำหนัก 90 กก.?“ไม่เคยเสียเซลฟ์ ผมชอบตัวเองในทุกเวอร์ชัน ตอนหนัก 90 ก็ชอบ กินสะใจมาก (หัวเราะ)” เราเลือกกินอย่างไรให้ได้สารอาหารครบ? โดม “ผมเลือกแบบ Carnivore Diet กินเนื้อแดงเป็นหลัก ตัดน้ำตาลออก ไม่มีน้ำจิ้ม ชีวิตจืดชืดมาก แต่ผมเลือกแล้ว ไม่ได้เป็นวิธีที่ผมพยายามแต่ทำจนเป็นวิถีไปแล้ว” แล้วเวลาใช้ชีวิตกับ “เมทัล” ภรรยาล่ะ มีปัญหาเรื่องอาหารมั้ย?“โอ้ยแรกๆน้องอยากกินจิ้มจุ่ม หมูกระทะก็นัดเพื่อนไปกิน แยกกินกับภรรยาเลย แต่บางวันเค้ากลับมาเห็นผมเตรียมเนื้อก็อยากชิม แต่ทุกวันไม่น่าจะกินได้ เค้าเลยต้องแยกเดี๋ยว นี้พอเริ่มอยู่ตัว ผมก็ขยับลงมา ตอนนี้เลยเป็นคีโต (Ketogenic Diet) ไม่กินแป้งเหมือนเดิม จะกินโปรตีนเยอะๆมีผักนิดหน่อย” แต่งงานกันมา 6 ปี ความสัมพันธ์คู่เรากับ “เมทัล” เป็นอย่างไร?“ดีเลยครับ ถ้าเราเจอคนที่คลิกแล้วแต่งงานกันมันดีมาก เป็นเพื่อนกัน เป็นเพื่อนคู่คิด อยู่กันไปมันจะเป็นความผูกพัน ความรักที่ลึกซึ้งบวกกับความเป็นเหมือนเพื่อนคอยปรึกษา ยามที่เราอ่อนแอ ยามท้อ เศร้า เหมือนมีเพื่อนปลอบ เค้าเป็นเหมือนเพื่อนที่รู้ใจ สนิทกับเราที่สุด เห็นมาทุกเวอร์ชัน” ดูเป็นคู่ที่อิสระต่อกัน?“โชคดีที่น้องให้อิสระกับผมมาก ผมเองก็ไม่เคยไปเซ้าซี้อะไรเค้าเหมือนกัน เค้าก็แมนๆ พอเค้าทำแบบนี้เราเองยิ่งเกรงใจนะ แคร์ความรู้สึกเค้า” แล้วความแซ่บของเมทัลล่ะเราหวงมั้ย?“เค้าสายฝออยู่แล้ว นั่นคือสิ่งที่ผมชอบในตัวน้องเค้ามีความสดชื่น สดใส ธรรมชาติสุดๆ”ตอนนี้พร้อมมีทายาทหรือยัง?“อยากมีน้องครับ ไปฝากไข่แล้ว ปรึกษาคุณหมอที่มาดูเคสเรียบร้อยซึ่งการมีลูกอยู่ในแพลนมาตลอด”เมทัลพร้อมมั้ย?“เค้าเป็นคนรักเด็ก น่าจะเป็นคุณแม่ที่ดี ตั้งแต่น้องอายุเริ่มเข้า 34-35 ผมว่าเค้าเปลี่ยนไปนะ โตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ใจเย็นขึ้น มีสัญชาตญาณความเป็นเพศแม่ที่ออกมา” ยังมีเป้าหมายอะไรที่อยากทำไปให้ถึงอีก?“อยากสุขภาพดีแล้วอยู่ดูแลคุณแม่กับภรรยา และถ้ามีลูกก็อยากแข็งแรงไปเรื่อยๆ เพราะวันที่ลูกรับปริญญา ผมคงอยู่ในวัยเกษียณแล้ว ไม่อยากจะเดินก็โอยลุกก็โอย ไปถ่ายรูปกับลูกรับปริญญา ผมยังอยากใส่ชุดวิ่งตอนเช้า แล้วไปงานตอนเย็นครับ”เรียกว่าภาพความเป็นครอบครัวมีลูกมันชัดเจนมาก?“ใช่ครับ อยากมีลูก ผมเป็นลูกคนเดียว เมทัลก็ลูกคนเดียว เชื่อว่าคุณย่าคุณยายอยากมีหลานแน่นอน และเชื่อว่าแกก็ยิ่งสดชื่น ขอมีสักคนก่อนแล้วค่อยดูต่อ”ถึงวันนี้โดมอยู่ในวงการมากี่ปีแล้ว?“ถ้าตั้งแต่ถ่ายโฆษณาตั้งแต่ขวบ เรียกว่าทั้งชีวิต ถ้าให้มองวงการจากวันนั้นจนถึงวันนี้วงการเปลี่ยนไปแค่ไหน ผมว่าต่างกันเยอะมาก ตอนนี้เป็นยุคทองของวงการไทย ต้องขอบคุณเทคโนโลยี แพลตฟอร์มโซเชียล นอกจากจะทำให้คนจากอีกซีกโลกหนึ่งรู้จักศิลปินไทย มันก็ช่วยศิลปินไทยได้ฝึกฝน สมัยก่อนจะหาเพลงสักเพลงจากต้นฉบับมาร้องมาฝึกกันยากมาก ตอนนี้ทุกอย่างมันเข้าถึง know how ได้หมด อยากจะเรียนร้องเพลง การแสดง สอนอยู่ในออนไลน์ จากสิ่งเหล่านี้ไม่ถึง 10 ปีมันได้ผลผลิต ทำให้ศิลปินรุ่นใหม่ๆบ้านเราเก่งมากๆ เริ่มออกดอกออกผล T-POP เริ่มก้าวเข้าไปเวทีโลก ศิลปินไทยไปเขย่าระดับโกลบอล หนังไทยเริ่มขึ้นบ็อกซ์ออฟฟิศ เรื่องซอฟต์พาวเวอร์ในศิลปินไทยไประดับ K-POP หรือ K-Series ไม่ไกลเกินฝัน” กับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปเอามาปรับในการทำงานของเรายังไงบ้าง? “เราเป็นรุ่นซีเนียร์แล้วก็อยู่ให้เด็กเคารพรัก มองเราในมุมที่เป็นพี่โดมที่เข้าได้กับทุกเจนทุกวัย อย่าหยุดเรียนรู้สิ่งใหม่ ผมโชคดีเป็นคนชอบอะไรใหม่ๆ มาตั้งแต่เด็กๆเนเจอร์เรามีตรงนี้ก็ทำให้เรียนรู้ตลอด อย่างยุคนี้เป็นยุค AI ทุกคนไปเทรนด์ AI โค้ดดิ้ง เรื่องเหล่านี้ผมยังเรียนเลย ดังนั้น เราเปิดใจ อย่าไปทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว อย่าไปทำตัวว่าฉันเป็นศิลปินรุ่นใหญ่ น้องๆเดี๋ยวนี้เก่งมาก ผมว่าเราก็อยู่ให้คำแนะนำ แล้วเรียนรู้จากพวกเค้าด้วย”.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่