จากเด็กขี้อายไม่มั่นใจ กลายเป็นหนุ่มกล้าคิด กล้าลุย มาพร้อมแพชชันใหม่ๆ ออฟโรด-กันตภณ จินดาทวีผล นักแสดง-นักร้องมากความสามารถ ล่าสุดมาพร้อมซิงเกิลใหม่ “แสร้ง (ALL FAKE)” เป็นเพลงช้าเพลงแรกในชีวิต ค่าย ONE MUSIC เจ้าตัวยอมรับชีวิตเจอเรื่องหนักๆจนท้อ พอเปลี่ยนมุมมอง ทำให้ลุกขึ้นสู้ เพราะมีคนรอบข้างคอยซัพพอร์ต ยิ่ง ต้าห์อู๋- พิทยา เป็นพลังบวก สร้างแรงบันดาลใจ ใน “คนดังนั่งคุย”ไม่เคยเห็นออฟโรดร้องเพลงช้าแบบนี้มาก่อน“เพลงนี้เป็นอีกหนึ่งเพลงที่หลุดจากกรอบของผมไปเยอะมาก ที่ผ่านมาจะเป็นเพลงน่ารักสดใส จะมีกลิ่นอายอีกแบบนึง ตัวผมเองเป็นคนชอบฟังเพลงเศร้าแต่ผมไม่ได้เศร้านะ เราชอบมู้ดเศร้าๆ แนวนี้รู้สึกอยากลองทำเพลงเศร้าสักเพลงนึง ฉีกกฎจาก 2 เพลงที่ผ่านมา มีคอนเซปต์ของคำว่า แสร้ง ขึ้นมา คือได้มีโอกาสฝึกแต่งเพลง ตอนเป็นลาซวัน มีไอเดียความรัก ถ้าวันนึงรักกันมันก็ดี แต่ถ้าวันนึงไม่ได้รักกันแล้วอย่างแสร้งรักกันเลยดีกว่า แยกย้ายไปเติบโต ไปอยู่กับคนที่ใช่ อย่าฝืนกันเลย เจ็บกันทั้งสองฝ่าย ถ้าไม่รักกันแล้วเหตุผลที่อยู่ด้วยกันเพื่ออะไร จบกันดีกว่าเหอะ สุดท้ายคำนี้คือเจ็บที่สุดคือการโกหก” ถ่ายทอดอินเนอร์ความเศร้าเป็นยังไงบ้าง“เรามีคอนเซปต์เพลงนี้ตั้งต้นมาแต่ไม่มีโอกาสได้ทำจนรอบนี้เรามีโอกาสได้ทำเป็น “Song Diary” ของผมเอง เป็นซิงเกิลที่ 2 ทีมงานถามผมว่าอยากทำเพลงอะไร แนวไหน ผมเลยโยนสิ่งนี้ เพราะอยากทำแนวนี้อยู่แล้ว ผมแต่งเพลงไว้อยู่แล้วเลยร้องให้เขาฟัง ได้พี่ ดอดจ์-มุขพล นั่งแท่นโปรดิวเซอร์, พี่ ปู๋-ปิยวัฒน์ มาช่วยแต่งเนื้อร้องและทำนอง ทางดนตรีบวกกับเพลงเศร้าแต่เราอินกับพี่ธามไท ป๊อบอาร์แอนด์บี อยากทำมีบีท มีฟีลลิ่งนี้ให้ดูย้อนยุค 2000 แต่การร้องเป็นแบบทีป๊อปสมัยใหม่ พี่เค้าตอบโจทย์มาก ผมอยากร้องแบบป๊อปอาร์แอนด์บี มาตระหนักได้ว่าร้องยากมาก โชคดีผมได้ พี่กั้ง-กรณ์ และทำงานกับ ครูกิต เดอะวอยซ์ เจอครั้งแรกเขาจะบอกว่าเรื่องผิดคีย์ช่างมันไปก่อน เอาฟีลก่อน แล้วอารมณ์มันออกมาเอง ยังคุยพี่กั้ง ขอเปลี่ยนเนื้อท่อนนี้ได้ไหม ตอนแรกมันไม่ใช่ อย่าแสร้งรัก จะเป็น...อย่าเป็นฉันเลย พี่เค้าเลยให้ถามทางพี่ปู๋คนแต่ง แล้วพี่เค้าก็เปิดรับไอเดีย โฮ สุดๆ เป็นเพลงโคตรภูมิใจและได้ทำงานกับคนเก่งๆระดับพระกาฬ แล้วมันได้สิ่งใหม่ๆ บียอนด์อีกขั้น”ที่เราบอกว่าหลุดจากกรอบตัวเอง มีกังวลมั้ย“ตอนแรกมีกังวลนิดหน่อยเพราะหลุดกรอบจากตัวเองไปเยอะเหมือนกันนะ ผมอยากลองให้แฟนคลับเห็นอีกมุมนึงของผมบ้าง เลยออกมาเป็นสิ่งนี้ ทำให้เต็มที่เชื่อว่ามันจะออกมาดีที่สุด” ด้านไหนที่เราอยากให้แฟนคลับเห็นว่าเราก็ทำได้ “ในด้านการร้องฟีลนี้ เป็นที่มาการเสนอไอเดียเป็นหนังสั้น จริงๆเขาเห็นศักยภาพในตัวผม แล้วตอบตัวเอง ออฟโรดอยากเป็นอะไร ผมรู้สึกไม่สุดสักทาง ร้องก็ยังไม่ดี แสดงก็ไม่ดีมาก พอกลับไปทบทวนสิ่งแรกที่เราเข้าวงการมาคือการเป็นนักแสดง ชอบดูหนัง อยากเป็นคาแรกเตอร์ต่างๆ เลยตอบพี่เค้าไปว่าผมอยากเป็นนักแสดง พี่เขาเลยเสนอเป็น SHORT FILM ด้วยเพลงยุค 2000 สิ่งที่คู่กับเพลงคือเอ็มวี สิ่งที่ผมรักคือผู้กำกับคนนี้เลย พี่หนุ่ย-ศุทธสิทธิ์ เสนอไอเดียลองเป็นแนวนักสืบมั้ย จับชู้ เราเห็นภาพตัวเองไปสืบ แล้วเห็นแฟนของเรามีคนอื่น พี่ทีมงานฟังไอเดียแล้วไปปรึกษาผู้กำกับเป็นเรื่องนี้เกิดขึ้นมาชอบตรงที่ว่าเหมือนทำงานกลุ่มมหาวิทยาลัย ไอเดียของเราพี่เค้ารับฟังตลอดโคตรฟูลฟีล”จากความไม่มั่นใจไปทางไหนไม่สุด แต่สิ่งที่ออกมาวันนี้ทำให้เห็นว่าเราเก่งขึ้น“เป็นเพราะว่าผมมีกำลังใจที่ดี ทั้งจากคนรอบข้าง ทีมงาน แฟนคลับและพี่อู๋เขาแบบเป็นไฟให้กับผม เวลาผมไปดูเขาตามงานคอนเสิร์ต เวลาเขาเป็นแขกรับเชิญ หรือร้องตามงานอีเวนต์ใหญ่ๆ ค่อนข้างกดดัน ผมดูเขาโฮ ทำไมเขาเก่งจัง พลังเขาเยอะมาก มีอะไรที่เขาทำไม่ได้บ้างแทบไม่มีเลย เขาไม่เคยพูดว่าทำไม่ได้เลยเป็นไฟให้กับผม ทั้งๆที่เขาผ่านอะไรมาเยอะมาก ทำไมเราจะทำไม่ได้ เราแค่รู้สึกว่าเขาผ่านสิ่งสิ่งนี้มาก่อน เรากำลังเจอสิ่งนี้อยู่เขาเจอมาก่อนและมีวิธีจัดการตัวเอง เขาเป็นแบบอย่างและเป็นไฟให้กับผม วันงานที่ผมพูดกับแฟนคลับว่าไม่มีข้ออ้าง คำที่พี่อู๋บอกมาตลอด มันคือการซึมซับกันและกัน อยู่ด้วยกันมา 4 ปีเราเห็นมุมของเขา เขาเห็นมุมของผม” ตอนนี้เขาเห็นออฟโรดที่แกร่งขึ้นบ้างมั้ย “เขาสัมผัสได้ ก็ภูมิใจในสิ่งที่ผมทำมากๆ เขาเป็นคนที่เห็นผมจากเดย์วันจริงๆ ตั้งแต่ผมเต้นไม่ได้ ร้องไม่ได้ ดันกันมาและสู้มาด้วยกันจนมีวันนี้ เป็นคนที่ผมอยากให้เขาเห็นว่าผมทำได้ เราโตมาด้วยกัน” จุดที่เรารู้สึกพร้อมจริงๆ “ผมว่าไม่มีคำว่าที่สุด เพราะสุดท้ายแล้วต้องมีการเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ถ้าเราบอกว่าพอแล้วก็จะเหมือนปิดกั้นจะมีอีโก้มาปิดกั้นความเก่งของเรา จะไม่รับสิ่งอื่นเลย แต่ผมยังพร้อมที่จะรับและเรียนรู้ใช้คำว่าสบายตัวขึ้นเราพร้อมเปิดรับโอกาสที่เข้ามา เข้าใจอะไรมากขึ้น เราพร้อมที่จะรับ บอกกลายๆว่าเราพร้อมเป็นนักแสดงโอกาสอะไรมาผมจะทำให้มันเต็มที่ พร้อมรับ พี่ป้อนงานมาให้ผมเลย จะทำให้พี่เห็นเองว่าผมทำได้”ทำให้ตอนนี้งานแน่นๆ จุกๆ เลย“จริงๆถ้ามีโอกาสผมอยากเรียนรู้พี่ๆผู้กำกับทุกคน เพราะพี่ๆผู้กำกับทุกคนเหมือนครูเข้ามาสอนผมให้เก่งขึ้นเรื่อยๆ พี่คนไหนอยากเป็นครูให้ผม ผมก็พร้อมรับ (ยิ้ม) มีต้นแบบอย่างพี่อู๋เลย” แสดงว่าอู๋มาเปลี่ยนมายด์เซตของเรา “เปลี่ยนเยอะมากจากเด็กขี้กลัวในวันนั้นกลายเป็นกล้าคิด กล้าทำ ลองทำผิดแล้วไง ผิดแล้วก็เอาใหม่ แค่นั้นเลย เข้าใจคำนี้แล้วจริงๆ เพลงผมอยากทำนะ อย่างที่เล่าพอเราอยู่ทุกขั้นตอนทำให้ผมอิน มีความสุขที่ได้ทำ คุยกับพี่กั้งตลอด ผมชอบสิ่งนี้ ฟังเพลงอยากทำแนวนี้ สนุก เพลงเป็นสิ่งที่อยากทำเรื่อยๆ เพลงอาจจะไม่ใช่สิ่งแรกที่ผมตั้งใจจะทำแต่จะเป็นสิ่งที่ พอเราได้เป็นลาซวันได้อยู่กับเพื่อนทีป๊อป เป็นสังคมที่ดีมาก ผมไม่อยากทิ้งสังคมนี้เลย และรับงานแสดงเลย ผมก็อยากเป็นนักแสดงที่ร้องเพลงได้อยู่ในทีป๊อป”วันงาน Premiere Night ต้าห์อู๋เกือบมายินดีไม่ทัน เราก็ออกอาการชัดมาก“ผมเห็นคลิปที่แฟนคลับถ่ายผมเห็นเขาวิ่งมาแบบกระวนกระวายมาก วันนั้นรถติดมากเขายอมทิ้งรถให้พี่รู้จักรับช่วงขับรถให้ ตัวเขาก็วิ่งเอาช่อดอกไม้มาให้ผมที่งาน โคตรที่สุดเลยพี่ มันแบบ...เขาอยากมาแสดงความยินดีจริงๆ ทีแรกเขาก็คิดว่ามาไม่ทันแล้ว ทีมงานก็เก่งบอกพี่อ๋อง พิธีกร ช่วยถามคำถามยื้อเวลาให้หน่อยจนพี่อู๋มาทัน ตอนนั้นผมพูดอะไรไม่ถูกเลย เขาเป็นคนที่ผมอยากให้มางานที่สุด มาดูเห็นความมั่นใจของผม มาเห็นพัฒนาการ พี่อู๋เป็นคนชมคนยากมาก มาตรฐานสูง การที่เขาชมพูดออกมาจริงๆ มันคือแสดงว่ามาตรฐานยกไปอีกระดับนึง ผมคิดในหัวอย่างเดียวอย่าให้มีคลิปพี่อู๋นะ เพราะมีคลิปของคนที่มาไม่ได้ สุดท้ายก็มีคลิปพี่อู๋ ใจตอนนั้น ลึกๆเสียใจอยู่ข้างใน คงไม่มาแล้วล่ะเข้าใจแต่เสียใจ จนกระทั่งพี่อ๋องเดินมาถึงตัวเขาจะมาไม่ได้แต่ตัวเขาส่งของขวัญมาให้พี่ เห้ย! เป็นอะไร สักพักหลังของขวัญประตูเปิดมา เห็นพี่อู๋วิ่งมาเอาของขวัญมาให้ สุดๆแล้วครับ”ได้เห็นมุมคลั่งรักของต้าห์อู๋ไม่ธรรมดา“พี่อู๋เป็นคนที่แคร์ความรู้สึกคนมาก แคร์ความรู้สึกคนรอบข้าง ให้ความใส่ใจจริงๆ” ครั้งก่อนคุยกับอู๋เขาเป็นห่วงเรามากเพราะเราเป็นเดอะแบก ฃ“ใช่ เขาเป็นห่วงผมในเรื่องการใช้ชีวิตและเส้นทางนี้ด้วย เขารู้ผมไม่มั่นใจ เราจะเอายังไงดีนะ เอาเป็นมือซัพพอร์ต นัมเบอร์วันเวลาไปไหนทำงานอะไร เขาก็จะพูดนี่นะครับมีออฟโรดด้วยอีกคนนึงนะ” ในวันงานเราจะเอ่ยถึงพี่อู๋ ชื่นชมต่างๆ นานาเลยโดนพี่อ๋องแซวเป็นคนขี้อวดหรือเปล่า “ไม่ได้ขี้อวดเราแค่พูดความจริงแล้วสิ่งนั้นมันดีมากจนคนอื่นอิจฉาหรือเปล่า? (หัวเราะ) ไม่มีอะไรหรอก มันเป็นความสุข ใจฟูมาก สิ่งนึงคือได้เซอร์ไพรส์แฟนคลับ ผมรับรู้ตลอดแฟนคลับอยากเห็นผลงาน เมื่อไหร่ ผมคันปากอยากพูดมาก จนมางานวันนั้นได้เซอร์ไพรส์แฟนจุกๆ” คนคาดหวังต้าห์อู๋ออฟโรดร้องเพลงคู่กัน “จริงๆ อยากมีเพราะออกอีเวนต์คู่กันบ่อย จริงๆทำเพลงใหม่ขึ้นมาสักเพลงคู่กัน ก็ดีนะ ต้องรอดูครับแต่ว่าผมเชื่อว่าอาจจะมีโอกาส มีพูดถึงเพลงแล้ว หลังจากนี้จะมีซีรีส์ The Wicked Game โปรเจกต์ ONE D ORIGINAL กับ พี่ยอร์ช รฤก แต่ละเรื่องคนละแนวเลย อาจจะมีอีกในอนาคต ผมชอบทำงาน อยู่นิ่งๆฟุ้งซ่าน เป็นคนอะเลิร์ตตั้งแต่เด็กแล้วครับ”.เรื่อง : วรรณี ห่อวโนทยานอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม