“โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามจากภูเก็ต เปิดใจหลังพิชิตมงกุฎเพชรสีฟ้า คว้าตำแหน่งมิสเวิลด์ 2025 ได้สำเร็จ เป็นสาวไทยคนแรกที่คว้าตำแหน่งนี้มาครองในรอบ 72 ปี โดยขอบคุณที่ให้โอกาสได้ทำเพื่อประเทศ และหวังว่าจะทำให้ทุกคนภูมิใจ ด้านนายกฯ ร่วมแสดงความยินดีที่สร้างความภูมิใจให้คนไทยทั้งประเทศ ชื่นชมเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์และพลังบวก เตรียมเปิดทำเนียบฯต้อนรับหลังจากรอคอยมา 72 ปี ในที่สุดสาวงามจากไทย โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี ก็สามารถคว้าตำแหน่งมิสเวิลด์ 2025 มาครองได้เป็นผลสำเร็จ ในการจัดประกวดมิสเวิลด์ ครั้งที่ 72 รอบตัดสิน ที่จัดขึ้น ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย เมื่อคืนวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมาสำหรับการประกวดที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เปิดตัวด้วยพาเหรดสาวงามในชุดประจำชาติ ต่อด้วย การเดินโชว์ในชุดราตรี จากผู้เข้าประกวดทั้งหมด 108 ประเทศ ใน 4 ทวีป ได้แก่ อเมริกา&แคริบเบียน แอฟริกา ยุโรป และเอเชีย&โอเชียเนีย ก่อนประกาศรายชื่อ 40 สาวงามที่ผ่านเข้ารอบ ซึ่งบางส่วนจะถือ เป็นการเข้ารอบโดยอัตโนมัติจากการชนะในรอบเก็บคะแนน หรือฟาสต์ แทรค และหนึ่งในนั้นคือ โอปอล-สุชาตา ตัวแทนจากประเทศไทย ที่คว้าอันดับ1 การแข่งขันมัลติมีเดียชาเลนจ์เอเชีย&โอเชียเนียกระทั่งเข้ามาถึงรอบ 8 คนสุดท้าย ที่โอปอล- สุชาตา สามารถฝ่าด่านเข้ามาได้อย่างไม่ยากเย็นและ ต้องมาตอบคำถามที่ถือว่าเป็นอีกด่านหิน กับคำถาม ที่ว่า “คุณคิดว่าคุณควรได้เป็นมิสเวิลด์ ตัวแทนจากเอเชียและโอเชียเนียหรือไม่?” ซึ่งโอปอลตอบว่า “สำหรับคำถามนี้ ฉันมองว่ามันเหมือนกับการดูแลสวนดอกไม้ค่ะ ใครๆก็สามารถรดน้ำต้นไม้ได้ แต่ถ้า จะทำให้สวนงดงามและยั่งยืนจริงๆต้องมีใครสักคนที่อยู่ดูแลมันอย่างต่อเนื่อง และสิ่งนี้ก็เหมือนกับบทบาท ของ Miss Asia&Oceania ไม่ใช่แค่การแนะนำตัวเองพร้อมตำแหน่งที่ได้รับ แต่คือการทำให้ผู้คน รู้สึกได้ว่า ฉันอยู่ตรงนี้เพื่อพวกเขา ยืนหยัดเคียงข้าง พวกเขาจริงๆ ผ่านโครงการ Beauty with a Purpose ได้เรียนรู้ว่า การใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าคือการมอบชีวิต และความฝันกลับคืนให้กับผู้ที่เคยสูญเสียมันไป และนั่นคือเหตุผลที่ฉันยืนอยู่ตรงนี้ในวันนี้ เพื่อเป็นแสงแห่งความหวัง เป็นพลังแห่งความเข้มแข็ง และเพื่อทิ้งไว้ ซึ่งร่องรอยของความหมายจนถึงลมหายใจสุดท้ายของชีวิต” ซึ่งเรียกเสียงชื่นชมและส่งให้โอปอลผ่าน เข้าไปถึงรอบ 4 คนสุดท้าย พร้อมกับอีก 3 สาวงามจาก 3 ทวีป ได้แก่ มาร์ตีนิก จากอเมริกา และแคริบเบียน เอธิโอเปีย จากแอฟริกา และโปแลนด์ จากยุโรปจากนั้นในรอบ 4 คนสุดท้าย โอปอลได้ตอบคำถาม “การเดินทางครั้งนี้สอนคุณอย่างไรเกี่ยวกับความจริง และความรับผิดชอบส่วนบุคคลในการกำหนดเรื่องราวที่ถูกเล่าขาน?” ว่า “การได้มายืน อยู่ตรงนี้ ถือเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต สิ่งหนึ่ง ที่ได้เรียนรู้จากการอยู่บนเวที Miss World คือความ รับผิดชอบต่อการที่ความจริงจะถูกถ่ายทอดออกไปอย่างไร และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ฉัน รวมถึงผู้เข้าประกวด ทุกคน รวมถึงทุกคนในห้องนี้สามารถทำได้ ก็คือการ เป็นบุคคลต้นแบบที่คนรอบตัวสามารถยึดถือเป็นแบบอย่างได้ ฉันเชื่อมาเสมอว่า ไม่ว่าเราจะเป็นใคร อายุเท่าไหร่ มีบทบาทหรือหน้าที่ใดในชีวิต ยังไงก็ต้อง มีใครสักคนหนึ่งที่มองขึ้นมาหาเรา อาจเป็นเด็กเล็ก คนรอบตัว หรือแม้แต่พ่อแม่ของเราเอง และวิธีที่ดี ที่สุดในการนำทางคนเหล่านั้น ก็คือการเป็นผู้นำผ่าน ความอ่อนโยนและการกระทำของเราเอง เพราะการ กระทำของเรานั้น เสียงดังกว่าคำพูดเสมอ นั่นคือสิ่งที่ดี ที่สุดที่เราสามารถมอบให้กับคนรอบข้าง และกับโลก ใบนี้ขอบคุณมากค่ะ ขอให้ทุกคนโชคดี และอย่าลืมว่า จงมั่นคง และใช้การกระทำเป็นเสียงที่ดังกว่าคำพูด” ซึ่งส่งให้โอปอล-สุชาตา สามารถชนะใจกรรมการ คว้าตำแหน่งมิสเวิลด์มาครองเป็นผลสำเร็จ เป็นการคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่มีการ จัดประกวดมา 72 ปี โดยมีสาวงามจากเอธิโอเปีย ได้รองฯอันดับ 1 ตามด้วยโปแลนด์ รองฯอันดับ 2 และมาร์ตีนิก ได้รองฯอันดับ 3โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี เกิดเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2546 มาจากครอบครัวประกอบธุรกิจส่วนตัวใน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนขจรเกียรติ ศึกษา และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สายศิลป์-จีน ปัจจุบันกำลังศึกษาในสาขาวิชาการเมืองและการระหว่าง ประเทศ BIR (หลักสูตรนานาชาติ) คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์สำหรับเส้นทางการประกวดนางงามของโอปอล เริ่มจากความต้องการสร้างความตระหนักถึงโรคมะเร็งเต้านมเนื่องจากขณะอายุ 16 ปี เธอตรวจพบก้อนเนื้องอกขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 เซนติเมตร ทำให้ ต้องเข้ารับการผ่าตัดก้อนเนื้อส่วนเกินบริเวณหน้าอก แต่หลังจากนำไปตรวจแล้วพบว่ายังไม่เป็นมะเร็ง แต่ก็ยังผลักดันโครงการ “Opal For Her” ที่มุ่งสร้าง ความตระหนักรู้และระดมทุนเพื่อป้องกันมะเร็งเต้านม โดยมีเป้าหมายเพื่อผู้หญิงไทยและขยายผลสู่ระดับสากลจากนั้น โอปอล เข้าสู่เวทีประกวดนางงาม และ มาประสบความสำเร็จได้ตำแหน่งรองฯ อันดับ 3 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2565 ก่อนได้รับการเลื่อนขึ้น เป็นรองฯ อันดับ 2 และในปี 2567 ได้รับการแต่งตั้งจาก กองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ กรุงเทพมหานคร ให้เป็นตัวแทนสาวงามจากกรุงเทพฯ เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2567 โดยมีตัวแทนสาวงาม เข้าร่วมประกวด 40 จังหวัดทั่วประเทศ และคว้าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการประกวดมิสยูนิเวิร์ส หรือนางงามจักรวาล 2024 ที่เมืองเมกซิโก ซิตี้ ประเทศเมกซิโก โดยมี สาวงามร่วมประกวดทั้งหมด 127 ประเทศ และโอปอล สามารถเข้าถึงรอบสุดท้าย คว้าตำแหน่งรองชนะเลิศ อันดับ 3 มาครอง พร้อมรางวัลพิเศษ Voice for Change ระดับ Silverต่อมาเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา โอปอลถูกองค์การนางงามจักรวาล ประกาศปลดออกจากตำแหน่ง หลังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนประเทศไทย ในการประกวดมิสเวิลด์ 2025 ที่เมืองไฮเดอราบัดประเทศอินเดีย เนื่องจากเข้าร่วมการประกวดนางงามเวทีอื่นในขณะที่ยังดำรงตำแหน่งไม่ครบ 12 เดือน และสามารถพิชิตมงกุฎเพชรสีฟ้า คว้าตำแหน่งมิสเวิลด์ มาครอง เป็นคนแรกของไทยในรอบ 72 ปีสำหรับเงินรางวัลที่มิสเวิลด์ 2025 จะได้รับนั้น นอกจากมงกุฎเพชรสีฟ้า สายสะพายแล้ว ยังจะได้รับ เงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 33 ล้านบาท) ที่พักสุดหรูในลอนดอน และจะได้ทำหน้าที่เป็นทูตสำหรับโครงการการกุศลขององค์กร Beauty with a Purpose รวมถึงการมีส่วนร่วมในโครงการด้านการดูแลสุขภาพ การปรับปรุงการศึกษา และโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตลอดการดำรงตำแหน่ง และยังจะได้เป็นสมาชิกองค์การเพื่อเยาวชน และองค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติด้วยต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น.วันเดียวกัน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดง ความยินดี และชื่นชมความสำเร็จกับ “น้องโอปอล” น.ส. สุชาตา ช่วงศรี เจ้าของตำแหน่ง Miss World Thailand 2025 ตัวแทนประเทศไทย ร่วมประกวด Miss World ครั้งที่ 72 ที่ประเทศอินเดีย และประสบ ความสำเร็จสามารถคว้าตำแหน่ง Miss World 2025 มงกุฎแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย นายกฯชื่นชมน้องโอปอลที่มีความพยายามร่วมกิจกรรมแคมเปญในแต่ละรอบกับเพื่อนนางงาม 118 ประเทศทั่วโลก ระยะเวลากว่า 1 เดือน ถือว่าการได้มงกุฎนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่วันนี้สามารถทำได้ ก่อนหน้านี้น้องโอปอลเคยเข้าพบนายกฯที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว หลังจากได้รับรางวัลรองอันดับ 3 ในการ ประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2024 ครั้งที่ 73 ที่ประเทศเม็กซิโก ซึ่งนายกฯได้ชื่นชมครั้งนั้นว่า จากการได้ พูดคุยน้องโอปอลเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์และ พลังบวก จึงทำให้ได้รับความสำเร็จ โดยหลังจากเดินทางกลับ คาดว่าจะมีการเปิดทำเนียบต้อนรับนอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายกฯ ยังทวีตข้อความผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) ว่า ขอแสดง ความยินดีกับคุณโอปอล สร้างความภูมิใจให้คนไทย ทั้งประเทศ ด้วยความพยายาม ความมุ่งมั่น ได้สร้าง ประวัติศาสตร์ให้คนไทยทั้งประเทศด้านโอปอล-สุชาตา มิสเวิลด์ 2025 ได้กล่าวหลังจากที่ได้รับตำแหน่งแล้วว่า “สวัสดีค่ะ ฉัน สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์คนใหม่ของคุณ จากประเทศไทย ขอบคุณมากๆสำหรับโอกาสนี้ และขอบคุณมากๆ ที่ให้โอกาสฉันได้ทำเพื่อประเทศของฉัน ด้วยความภาคภูมิใจและเป็นเกียรติที่ทำให้ประเทศฉันได้รับมงกุฎแรก ฉันอยากจะบอกว่าฉันอาจจะเป็นคนเดียวที่ได้ครอบครองมงกุฎในค่ำคืนนี้ แต่สาวๆทุกคนที่อยู่ กับฉันที่นี่ เราคือผู้ชนะ พวกเราทุกคนมีจุดประสงค์และเหตุผลอยู่ในใจ ฉันหวังว่าพวกคุณจะยังคงผลักดันพวกเธอ และให้การสนับสนุนไม่ใช่แค่ตัวฉัน แต่เป็นสาวๆทุกคนที่กำลังเดินทางเช่นเดียวกับฉัน ขอบคุณมากๆที่มอบความรักและการสนับสนุนให้กับเราทั้งในอินเดียและจากทั่วโลก ฉันหวังว่าฉันจะทำให้คุณภูมิใจ ในฐานะมิสเวิลด์คนใหม่ของคุณ”อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่